เอเจนซี—ความฝันในการขุดคลองจากนิการากัว ผ่านมหาสมุทรแอตแลนติกข้ามมายังแผ่นดินทองแห่งเอเชีย มีมานับร้อยๆปี จากศตวรรษที่ 16 นักสำรวจชาวสเปนผู้ยิ่งใหญ่อย่างเออร์นันโด คอร์เตส (Hernan Cortes) ก็เคยฝันที่จะตัดคอคอดแห่งนี้ ทั้งพ่อค้าใหญ่ชาวดัตช์ อเมริกัน และฝรั่งเศส ต่างก็เคย“เพ้อฝัน” พยายามที่จะขุดคลองในเส้นทางนี้ แต่ก็คว้าน้ำเหลวไปตามๆกัน
บัดนี้ ก็ถึงตาผู้กล้าจาก “จีน” ก้าวออกมาประกาศแผนการขุดคลองเชื่อมสองฝากฝั่งมหาสมุทรนี้ ท่ามกลางความพิศวงสงสัยที่หนักกว่า
วงการต่างยิ่งประหลาดใจไปตามๆกัน เมื่อบริษัทม้ามืดจากฮ่องกง อย่าง HKND Group (Hong Kong Nicaragua Canal Development Investment) ได้รับอนุมัติสัมปทาน 50 ปี และสิทธิในการต่ออายุสัมปทานอีก 50 ปี จากรัฐบาลนิการากัวเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ให้เป็นผู้ขุดคลองนิการากัว ซึ่งจะช่วงชิงบทบาทคลองปานามาอันเก่าแก่
คลองนิการากัวนี้ จะเป็นเส้นทางเดินเรือจากทะเลแคริบเบียนไปยังชายฝั่งแปซิฟิก ใช้ทุนการก่อสร้างถึง 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.22 ล้านล้านบาท ซึ่งตัวเลขนี้ เทียบเท่ากับมูลค่าจีดีพีของประเทศนิการากัว 4 ปี รวมกัน ความยาวของคลอง ราว 286 กิโลเมตร ใหญ่กว่าคลองปานามา (82 กิโลเมตร) กว่าสามเท่าตัว ทั้งกว้างและลึกกว่า สามารถรองรับเรือสินค้าระวาง 4 แสนตัน ในข้อเสนอโครงการขุดคลองนิการากัวนี้ ยังรวมโครงการโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ได้แก่ ท่าเรือน้ำลึกสองแห่ง เขตการค้าเสรีสองแห่ง สนามบิน ทางรถไฟ และท่อขนส่งน้ำมัน
นาย หวัง จิ้ง (王靖)วัย 41 ปี ประธานและผู้ก่อตั้งบริษัท HKND เพิ่งปรากฏกายแถลงข่าวเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา แจงว่า HKND จะเป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง ไปถึงเป็นผู้ประกอบการคลองนิการากัว บริษัทฯจะเริ่มดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในกลางปี โดยจะระดมกลุ่มวิศวกรที่ปรึกษาและนักวิเคราะห์ มากกว่า 3,000 คน ทำการศึกษาแบบ การก่อสร้าง และการดำเนินงานในอนาคต การก่อสร้างจะกินเวลาถึง 10 ปี เฉพาะโครงการศึกษาความเป็นไปได้นี้ มีค่าใช้จ่าย 900 ล้านเหรียญสหรัฐ
HKND “เปิดรับการลงทุนจากบริษัททั่วโลก” และขณะนี้ได้พูดคุยกับธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ “เราได้ทำสัญญาเบื้องต้นกับกลุ่มบริษัทใหญ่ๆ รวมทั้งบริษัทจากภาคพลังงาน” หวังกล่าวในวันแถลงข่าวที่กรุงปักกิ่ง พร้อมกับได้กล่าวถึงบทบาทของ HKND ว่า รับผิดชอบการระดมทุนสำหรับโครงการฯ ส่วนรัฐบาลนิการากัวไม่ได้ลงทุนใดๆ แต่จะช่วยเหลือโดยออกนโยบายสนับสนุนโครงการ อาทิ การอุดหนุนด้านภาษี
นอกจากนี้ หวังยังกล่าวว่าเมื่อมีนักลงทุนรายอื่นๆเข้าร่วมโครงการ หุ้นของ HKND ในโครงการฯ ก็อาจเปลี่ยนแปลงไป แต่ยืนยันว่า HKND จะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในระดับประกันได้ว่าเขายังคงเป็นประธานบริษัท และมีเสียงใหญ่ในโครงการ
การขุดคลองที่ใหญ่กว่าปานามาถึง 3 เท่านี้ มิใช่เรื่องง่าย อุปสรรค์ด่านแรก ได้แก่ สภาพภูมิประเทศแถบอเมริกากลางเต็มไปด้วยป่าดงดิบเขตร้อนอีกทั้งภูเขาไฟที่ยังลุกโชน คลื่นยักษ์อย่างน้อย 20 ฟุต ที่ซัดกระหน่ำระหว่างสองฝากฝั่งมหาสมุทร
หวัง จิ้ง เผยว่าเขาได้เลือกเส้นทางคลองขุด จากตอนกลางของนิการากัว ผ่าแม่น้ำ Río San Juan ช่วงพรมแดนนิการากัวและคอสตา ริกา ซึ่งสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางการเมือง
HKND เชื่อมั่นว่าอนาคตของคลองนิการากัวจะโชติช่วง เนื่องจากการค้นพบแหล่งก๊าซและน้ำมันในชั้นหินดินดาน (shale gas/oil) ขนาดมหึมาในสหรัฐฯ และยังมีเทคโนโลยีการผลิตก๊าซและน้ำมันจากชั้นหินด้วยต้นทุนที่ต่ำ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ได้เขย่าเวทีการค้าพลังงานโลก หากสหรัฐฯต้องการส่งออกก๊าซธรรมชาติมายังเอเชีย ก็ต้องอาศัยเรือขนาดใหญ่จำนวนมากกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งคลองปานามาไม่สามารถรองรับการขนส่งนี้ได้แล้ว
ขณะนี้ Maersk Line ผู้ประกอบการธุรกิจเดินเรือขนส่งตู้คอนเทนเนอร์รายใหญ่สุดของโลก และลูกค้ารายใหญ่สุดของคลองปานามา ต้องปรับการใช้บริการเส้นทางขนส่งจากเอเชียมายังอีสต์ คอสต์ (East Coast) ในสหรัฐฯ ผ่านคลองสุเอซ เนื่องจากเรือขนส่งรุ่นใหม่ของบริษัทมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะแล่นผ่านคลองปานามา แม้หลังจากที่มีการขยายเปิดเลนที่สามในคลองปานามาก็ตาม ดังนั้น โฆษกของ Maersk Line ในอเมริกากลางและแคริบเบียน จึงกล่าวว่า การคาดการณ์ใดๆเกี่ยวกับโครงการคลองนิการากัวในเวลานี้ เป็นเรื่องที่ยังเร็วเกินไป ยังต้องติดตามพัฒนาการของปัจจัยต่างๆต่อไป
แต่ก็มีกลุ่มนักวิเคราะห์และนักลงทุนในวงการต่างๆไม่น้อยออกมาแสดงความสงสัย เช่น “บรรดาบริษัทเดินเรือสมุทรขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ จะเชื่อได้อย่างไรว่า เจ้าหนุ่มคนหนึ่งที่มีประสบการณ์เล็กน้อยในกิจการโทรคมนาคม จะเป็นผู้ผนึกรวมระบบต่างๆและผลักดันอภิมหาโครงการ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในประเทศที่มีปัญหาเรื่องความโปร่งใส?” Evan Ellis ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่งหชาติ ของมหาวิทยาลัยการป้องกันดินแดน แห่งสหรัฐอเมริกา (National Defense University) กล่าว
จากข้อมูลของ Hong Kong Companies Registry ระบุว่าHKND Group เพิ่งจดทะเบียนที่เกาะเคย์แมนเมื่อปีที่แล้ว(2555) โดยหวัง จิ้ง ถือหุ้น 100 เปอร์เซนต์ มีการลงทุนธุรกิจเหมืองแร่ในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธุรกิจการกีฬา อีกทั้งมีหุ้นอยู่ในธุรกิจด้านอวกาศ และภาคธุรกิจต่างๆที่เชื่อมโยงใน 30 ประเทศ
สำหรับนาย หวัง จิ้ง เป็นนักกฎหมายและนักธุรกิจที่ดูลึกลับในสายตาวงการ จากข้อมูลที่สืบทราบกันมา ระบุว่า เขาเกิดเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ปี 2515 (1972) ที่กรุงปักกิ่ง ก่อนหน้านี้ไม่มีใครในวงการใดรู้จักเขาเลย จนกระทั่งปี 2553 เมื่อเขาขึ้นเป็นนายใหญ่ ซิ่นเวย เทเลคอม ฯ (Xinwei Telecom Enterprise Group)บริษัทโทรคมนาคมไร้สาย เมื่อปีที่แล้วหวังเดินทางไปยังนิการากัว และได้ลงนามสัญญาโทรคมนาคม สื่อจีนเผยว่า หวัง จิ้ง เป็นเพื่อนสนิทกับบุตรชายของประธานาธิบดี ดาเนียล ออร์เตกา แห่งนิการากัว
จากเว็บไซต์ของซิ่นเวยได้ระบุตลาดธุรกิจของบริษัท ได้แก่ โทรคมนาคมสาธารณะ ความมั่นคง บ่อน้ำมัน โรงไฟฟ้า การอนุรักษ์น้ำ และการคมนาคม ตลอดจนระบบการสื่อสารฉุกเฉิน รวมทั้งบริษัทในเครือมากมายทั้งในจีน ฮ่องกง รัสเซีย และไซปรัส ในเว็บไซต์ยังได้ โชว์ภาพถ่าย สี จิ้นผิง ซึ่งปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี และหลี่ เค่อเฉียง ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาเยี่ยมเยือนบริษัท
“อนาคตของพวกคุณสดใสมาก เต็มไปด้วยความหวัง” เป็นคำบรรยายใต้ภาพภาพหนึ่ง ที่เว็บไซต์ อ้างว่าเป็นคำกล่าวของ หลี่ กล่าวถึงซินเว่ย ในภาพ มีหวัง อยู่ด้วย
อนึ่ง ในโลกนี้ มีคลองที่ทรงความสำคัญทางยุทธศาสตร์อยู่ 3 แห่ง ได้ปแก่ คลองสุเอซ 190 กิโลเมตร สร้างในปี 2409 (1859) แล้วเสร็จปี 2412 (1869) อียิปต์เป็นผู้สร้าง, คลองปานามา ความยาวทั้งสิ้น 82 กิโลเมตร บริษัทฝรั่งเศสเป็นผู้เริ่มขุดในปี 2426 (1883) ต่อมา บริษัทฝรั่งเศสผู้ก่อสร้างล้มละลาย อเมริกาจึงลงนามสัญญากับปานามา ดำเนนการขุดคลองต่อ คลองปานามาเปิดใช้บริการในปี 2463 (1920).
....................
(**หมายเหตุ : ทีมงานมุมจีน ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็น ที่ไม่เกี่ยวกับประเด็นข่าวฯ ใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ และขอความร่วมมือผู้อ่าน ผู้ร่วมแสดงความคิดเห็นฯ ร่วมตรวจสอบข้อความที่ไม่เหมาะสมได้ โดยการกดปุ่ม "แจ้งลบ")