ตร.ซินเจียง ออกกฎห้ามพกอาวุธและแพร่ลัทธิแบ่งแยกดินแดน พร้อมตั้งรางวัลแสนหยวนนำจับคนร้าย

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - เจ้าหน้าที่ตำรวจซินเจียง ประกาศข้อห้ามประชาชนครอบครองอาวุธ วัตถุระเบิด และเผยแพร่ข้อความกระตุ้นการแบ่งแยกดินแดน หากผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกลงโทษอย่างหนัก พร้อมทั้งตั้งเงินรางวัลนับแสนหยวน สำหรับเบาะแสที่นำไปสู่ตัวก่อเหตุความไม่สงบในช่วงที่ผ่านมาด้วย

รายงานข่าวกล่าวว่า เมื่อวันอังคาร (2 ก.ค.) ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ได้ประกาศข้อห้ามและบทลงโทษ สำหรับประชาชนที่ครอบครองอาวุธ วัตถุระเบิด และเผยแพร่ข้อความกระตุ้นการแบ่งแยกดินแดน โดยรายละเอียดสำคัญคือ ห้ามครอบครองอาวุธ “มีด” ที่มีความยาวเกิน 22 เซนติเมตร (ใบมีดต้องไม่ยาวเกิน 15 เซนติเมตร) และให้ประชาชนส่งมอบชิ้นวัตถุที่อยู่ในรายการข้อห้ามแก่ทางการภายใน 10 วัน หากผู้ใดฝ่าฝืน จะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตั้งเงินรางวัลมูลค่า 50,000 - 100,000 หยวน (ประมาณ 250,000 - 500,000 บาท) สำหรับผู้ที่แจ้งเบาะแสจนสามารถนำไปสู่การจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุความไม่สงบที่ผ่านมาด้วย

อย่างไรก็ดี นายพาน จื้อผิง เจ้าหน้าที่พิเศษแผนกเอเชียกลาง สำนักวิชาการสังคมศาสตร์ประจำเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ กล่าวว่า “ข้อห้ามการครอบครองมีดดังกล่าว ยากที่จะบังคับใช้ในซินเจียง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนพกพามีดไว้ใช้ในการทำงานแต่ละวัน”

นายเจี่ยง เจ้าหย่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านชนกลุ่มน้อยในประเทศจีน ยังตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของระบบการดูแลความปลอดภัยในสังคม

“มันแสดงถึงความไร้สามารถของระบบความปลอดภัยสาธารณะ รวมถึงความไร้ประสิทธิภาพของกลไกต่อต้านการก่อการร้าย”

“ผมไม่คิดว่าสิ่งนี้จะเป็นประโยชน์ เพราะเส้นสัมพันธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับประชาชนในพื้นที่นั้น ไม่ได้ดีพอที่จะสร้างแรงจูงใจให้คนในท้องถิ่นช่วยเหลือมากนัก” นายเจี่ยง กล่าว

ทั้งนี้ ข้อห้ามและบทลงโทษดังกล่าว ประกาศออกมาหลังจากนายจัง ชุนเซียน เลขาธิการพรรคฯ ประจำเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ ได้แสดงทัศนะ (1 ก.ค.) ต่อเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน โดยเขากล่าวย้ำถึง ความสำคัญของการรักษาความมั่นคงในพื้นที่ ให้ปลอดภัยจาก “ขบวนการก่อการร้าย” และ “พวกลัทธิแบ่งแยกดินแดน” ที่เขาอ้างว่าได้รับแรงสนับสนุนและการช่วยเหลือจากต่างชาติ

ปัจจุบัน รัฐบาลจีนได้ตรึงกำลังทหารที่ได้รับการฝึกฝนมาโดยเฉพาะ อยู่ตามพื้นที่สำคัญในเขตปกครองตนเองซินเจียงอุยกูร์ หลังจากเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบสองครั้งซ้อน โดยครั้งแรกเมื่อวันพุธ (26 มิ.ย.) เกิดเหตุจลาจลในเมืองลุกชุน นอกเมืองเทอร์ปัน จนมีผู้เสียชีวิตกว่า 35 ราย และครั้งที่สองเมื่อวันศุกร์ (28 มิ.ย.) เกิดเหตุกลุ่มคนร้ายติดอาวุธเข้าโจมตีประชาชนบนถนนสายหนึ่งในเมืองโฮทัน ทว่า ไม่รายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากเหตุโจมตีนี้