อัจฉริยะสร้างได้! เด็กชายวัยกระเตาะ สอบเข้าเรียนมหาลัยในจีน

ซินหวา - หลังจากฤดูการสอบแข่งขันเข้ามหาวิทยาลัย หรือเกาเข่า (高考) ของนักเรียนจีนทั่วประเทศผ่านพ้นไป หลายพื้นที่เริ่มประกาศผลคะแนนสอบให้เด็กๆ ได้ทราบกันแล้ว โดยมีเด็กชาย “จังเจ๋อ” วัย 13 ปี เป็นหนึ่งในเด็กนักเรียนที่สอบผ่านเกณฑ์เข้ามหาวิทยาลัย ขึ้นชื่อ “เด็กอัจฉริยะ” เป็นข่าวโด่งดังอยู่ในสังคมจีนขณะนี้

จังเจ๋อ … “เด็กชายข้ามชั้น”

เด็กชายวัย 13 ปี ชาวเมืองเฉาหู มณฑลอันฮุยทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของจีนรายนี้ เป็นเด็กที่มีประวัติการศึกษาที่น่าประหลาดใจ เพราะเขาเข้าเรียนชั้นประถมตั้งแต่อายุเพียง 4 ขวบ และเรียนแบบข้ามระดับชั้นอยู่หลายครั้งหลายครา เริ่มจากจบชั้น ป.1 ข้ามไปชั้น ป.3 และพอเรียนจบชั้น ป.4 ก็ข้ามไปเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้นทันที โดยหลังจากจบม.ต้นแล้ว ทางบ้านประสบกับปัญหาความยากจน ทำให้เขาต้องออกจากโรงเรียน ทว่า จางเจ๋อก็มิได้ย่อท้อ เขาเลือกใช้วิธีอ่านหนังสือ และเรียนรู้ด้วยตนเองอยู่ 1ปี ก็สามารถสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายได้ตอนอายุเพียง 11 ปีเท่านั้น

หลังจากนั้น จังเจ๋อก็เริ่มสอบเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ผ่านการเข้าโดยสอบครั้งแรกในปี พ.ศ.2554 แต่ยังไม่สามารถสอบผ่านเกณฑ์ได้ การสอบครั้งที่สองในปีถัดมา ก็ขาดไป 44 คะแนนจากเกณฑ์มาตรฐาน และครั้งสุดท้ายในปี พ.ศ.2556 เขาสอบได้คะแนน 394 คะแนน ซึ่งเกินเกณฑ์มาตรฐานมา 7 คะแนน ทำให้สามารถยื่นผลสอบ เข้าเรียนในระดับปริญญาตรีได้สำเร็จ

เป้าหมายการเรียนของจังเจ๋อ คือ การเรียนในสาขาบริหารธุรกิจและการตลาด ซึ่งเขาก็ได้อ่านตำราเรียนต่างๆ และเตรียมขอทุนการศึกษาของมหาวิทยาลัย เพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัว

ครอบครัวยากจน ถึงขั้นยืมหนังสือเพื่อนมาเรียน

จังเจ๋อเป็นหนึ่งในลูกแฝดของครอบครัวที่มีฐานะยากจน เขามีแฝดผู้พี่ชื่อว่า จังเจวี๋ย ที่ตอนนี้เรียนอยู่ระดับชั้น ม.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในมณฑลอันฮุย ทั้งนี้ จังจวิน ผู้เป็นบิดาได้แยกทางกับภรรยาไปเมื่อปี พ.ศ.2547 โดยให้พี่คนโตอยู่กับแม่ ส่วนน้องคนเล็กอยู่กับพ่อ

ด้วยฐานะที่เคยยากจน การดำเนินชีวิตของสองพ่อลูกจึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเรียนส่วนต่างๆ ล้วนได้รับการอนุเคราะห์จากทางโรงเรียน แม้แต่ตอนที่จังเจ๋อออกจากโรงเรียน และใช้วิธีอ่านหนังสือ เรียนรู้ด้วยตนเอง ก็ยังต้องหยิบยืมตำราเรียนมาจากเพื่อนเก่าร่วมโรงเรียนเดิมของเขา

ทั้งนี้ เมื่อนักข่าวได้สัมภาษณ์จังเจ๋อ พบว่า เขาเป็นเด็กที่ร่าเริง พูดคุยเก่ง โดยในแต่ละวัน หากอ่านหนังสือ ทบทวนบทเรียนด้วยตัวเองเสร็จแล้ว เขาก็มักจะเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต และเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ เหมือนเด็กๆ ในวัยเดียวกันกับเขา