เอเจนซี/ASTVผู้จัดการ – สื่อจีนด่าทีมชาติตัวเอง “น่าอาย” หลังโดยไทยถล่มถึงบ้าน 1-5 ตีข่าวไล่โค้ชสเปน คามาโช ปลื้ม “ซิโก้” พูดปลอบใจระบุนักเตะจีนคงเหนื่อยจากเกมอุ่นเครื่องกับอัศวินสีส้ม ทั้งหยอดจีนน่าจะพัฒนาไปสู่ทีมแถวหน้าของเอเชียได้ไม่ยาก ยันนักเตะไทยทำตามแผน ทุ่มเทเต็มที่ทุกคน
หลังจากที่ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นำนักฟุตบอลทีมชาติไทย ลงฟาดแข้งเกมอุ่นเครื่องในเกมไปเยือน ทีมชาติจีนชุดใหญ่ ณ เมืองเหอเฝย มณฑลอันฮุย ประเทศจีน เมื่อวันเสาร์ที่ 15 มิ.ย. เวลา 18.30 น. ตามเวลาประเทศไทย โดยสามารถสร้างเซอร์ไพร์สคว้าชัยชนะถล่มทลาย 1 ประตูต่อ 5 เหนือทีมชาติจีนที่นำทีมโดยโค้ชชาวสเปน โฆเซ คามาโช ซึ่งในอดีตมีศักดิ์ศรีเป็นถึงโค้ชทีมชาติสเปน และรีล มาดริด
หลังเกมสื่อกีฬาจีนทุกแขนงได้พาดหัวเรื่องดังกล่าวเป็นข่าวใหญ่ โดยระบุตรงกันว่า “เป็นผลงานที่น่าอับอายของทีมชาติจีน” ทั้งมุ่งเป้าไปที่โค้ชทั้งสองทีม คือ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ ของไทยและคามาโช่ของจีน โดยในเดือนมิถุนายน คามาโช่มีผลงานคุมทีมที่น่าผิดหวังเป็นอย่างยิ่ง คือพาทีมชาติจีนแพ้ 3 นัดรวดในบ้านตัวเอง คือ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. แพ้อุซเบกิสถาน 1-2 เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.แพ้เนเธอร์แลนด์ 0-2 และล่าสุดคือแพ้ให้กับทีมชาติไทยเละเทะ จนล่าสุดมีข่าวว่าทางสมาคมฟุตบอลจีนถูกแฟนบอลกดดันอย่างหนักให้ปลดโค้ชชาวสเปน
หลังเกมเกียรติศักดิ์ให้สัมภาษณ์แบบไว้ไมตรีโดยกล่าวว่า จริงๆ ทีมชาติจีนถือเป็นทีมที่มีศักยภาพมาก ส่วนผลของเกมวันนี้อาจเกิดจากเหตุที่นักฟุตบอลทีมชาติจีนอ่อนล้าจากการเตะกับเนเธอร์แลนด์เมื่อไม่กี่วันก่อน หรือไม่ก็คงเป็นการออมฝีเท้าไว้มากกว่า
“เราเล่นไปตามเกมที่เราได้วางเอาไว้ เนื่องจากรูปร่างของนักเตะไทยค่อนข้างเล็ก ดังนั้นเราจึงเน้นไปที่การครอบครองบอล เราพอใจอย่างมากกับผลการแข่งขันในวันนี้” โค้ชชาวไทยกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงอายุเฉลี่ยของนักเตะทีมชาติไทยที่ลงสนามในวันนี้ โค้ชไทยก็ตอบว่า “นักเตะในทีมของเราชุดมีนี้บางส่วนที่อายุยังน้อย หรือบางคนก็เพิ่งติดทีมชาติเป็นครั้งแรก แต่ทุกคนก็ทุ่มเทให้กับทีมอย่างเต็มที่ ซึ่งผลการแข่งขันวันนี้ทุกคนก็พิสูจน์ตัวเองให้สมาคมฟุตบอลและประเทศบ้านเกิดเห็นแล้ว เราแข่งกับตัวเอง ไม่ได้แข่งกับใคร”
ทั้งนี้ก่อนเกมการแข่งขัน “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ ได้ทักทายกับคามาโช และถ่ายรูปร่วมกัน ขณะที่หลังเกมเมื่อถูกสื่อจีนจี้ถามถึงผลงานการคุมทีมของคามาโช โค้ชชาวไทยก็ให้คำตอบกับสื่อจีนอย่างชาญฉลาด โดยระบุว่า ทั้งตนและคามาโชต่างก็เป็นโค้ชฟุตบอลมืออาชีพ ตนเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้ทีมชาติจีนมีโอกาสที่จะไปยืนอยู่แถวหน้าของฟุตบอลเอเชีย แต่เรื่องผลงานของคามาโชนั้นตนคงไม่สะดวกที่จะไปวิพากษ์วิจารณ์ และทั้งสองทีมก็ต้องพัฒนาฝีเท้าให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป
(ภาพชุดจาก CRI Online)
