เอเยนซี - ธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีในปีนี้ โดยลดลงจากร้อยละ 8.3 มาอยู่ที่ 7.7 หลังข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดของจีนในเดือนเมษายน สะท้อนว่าเศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนแอต่อเนื่องจากเดือนมีนาคม
สื่อจีนรายงาน (17 พ.ค.) เผยการปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพี (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ) จีน โดยธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด โดยระบุว่า ในปี 2556 จะลดลงเหลือร้อยละ 7.7 จากเดิมที่เคยคาดการณ์ครั้งก่อนหน้านี้ที่ร้อยละ 8.3
รายงานข่าวกล่าวว่า สาเหตุของการปรับลดคาดการณ์ ของธนาคารนั้น มาจากข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดของจีนในเดือนเมษายน ซึ่งสะท้อนว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนยังคงอ่อนแอต่อเนื่องจากเดือนมีนาคม ในการนี้ ธนาคารยังคาดการณ์ว่าจีดีพีของจีนในไตรมาส 2 ของปีนี้ จะอยู่ที่ร้อยละ 7.6 ต่ำกว่าการขยายตัว 7.7 ในไตรมาสแรก อีกทั้งปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีจีนในปีหน้าด้วย (2557) โดยลดความคาดการณ์จากร้อยละ 8.2 เหลือ 7.5
อย่างไรก็ดี สแตนชาร์ดระบุว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจจีนอาจส่งสัญญาณฟื้นตัวมากขึ้น ด้วยแรงหนุนจากภาคอสังหาริมทรัพย์ โครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน และการส่งออก โดยธนาคารประเมินว่า ในไตรมาส 3 และ 4 จีดีพีจีนจะขยายตัวได้ที่ร้อยละ 7.8 และ 7.7 ตามลำดับ
ทั้งนี้ ดัชนีภาคการผลิตจีน (PMI) ประจำเดือน เม.ย ปรับตัวลง เนื่องจากคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกงวดใหม่ลดลงมาอยู่ที่ 48.6 จาก 50.5 ในเดือน มี.ค.สะท้อนถึงความต้องการของตลาดโลก ที่อ่อนแอกว่าเดิมท่ามกลางสภาพการณ์ที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงฟื้นตัวอย่างแผ่วเบา ขณะที่เศรษฐกิจกลุ่มชาติยูโรโซนติดอยู่ในภาวะถดถอย โดยคำสั่งซื้อสินค้าส่งออกไปยังไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในภูมิภาค ได้ลดลงเหนือการคาดหมาย อันเป็นการส่อเค้าว่า เศรษฐกิจของชาติในเอเชีย ซึ่งพึ่งพาการค้าอาจกำลังสูญเสียแรงขับเคลื่อนต่อไป