เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กลุ่มสิทธิมนุษยชนเปิดโปงชีวิตจริงแสนโหดร้ายของหญิงขายบริการทางเพศในจีน ถูกตำรวจกดขี่ข่มเหงสารพัด เรียกร้องรัฐบาลตรากฎหมายคุ้มครอง ยุติการปราบปราม ห้ามตำรวจจับกุมและสั่งขังตามอำเภอใจ
รายงานของฮิวแมนไรต์วอตช์ ซึ่งมีที่ทำการในนครนิวยอร์กเมื่อวันอังคาร (14 พ.ค.) ประเมินว่า มีหญิงขายบริการทางเพศ หรือโสเภณีราว 4-6 ล้านคนบนแผ่นดินใหญ่ ที่ถูกข่มเหงทารุณและดูถูกเหยียดหยามจากลูกค้าและจากตำรวจผู้รักษากฎหมาย
รายงานฉบับนี้ทำขึ้นโดยอาศัยข้อมูลจากการสัมภาษณ์หญิงขายบริการ ลูกค้า ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่องค์การพัฒนาภาคเอกชน หรือ เอ็นจีโอ จำนวน 140 คน
รายงานระบุว่า อาชีพหญิงขายบริการเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยเป็นโรค และตกเป็นเบี้ยล่างของตำรวจ ซึ่งการปราบปราม มีแนวโน้มทำให้ตำรวจมีการข่มเหงทารุณหญิงขายบริการมากขึ้น โดยการจับกุม สั่งปรับ ซ้อมและทรมานได้ตามใจชอบ
โสเภณีที่ถูกจับมักถูกสั่งปรับเงิน หรือถูกควบคุมตัวระยะเวลาสั้น ๆ แต่ในรายที่กระทำผิดบ่อย ๆก็อาจถูกกักขังนานถึง 2 ปี
เมิ่ง เซียง ซึ่งเป็นนามสมมุติของหญิงขายบริการผู้หนึ่งเล่าว่า เธอเคยเปิดสถานบริการอาบอบนวดในเมืองอู่ฮั่น มีคราวหนึ่งสถานบริการถูกตำรวจบุกตรวจค้น บรรดาผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ได้ทุบกระจกหน้าต่าง โทรทัศน์ โต๊ะเก้าอี้ และยังบังคับให้หญิงขายบริการเปลือยกายถ่ายรูป ถ้าใครไม่ยอมทำตามก็ถูกชกต่อย ทุบตี ส่วนเมิ่งนั้นไม่ยอมจ่ายค่าคุ้มครองให้คุณโปลิศ ก็เลยต้องไปนอนในห้องกรงอยู่นาน 15 วัน
นอกจากนั้น รายงานยังกล่าวว่า ด้วยความกลัวจะถูกตำรวจจับ โสเภณีหลายคนจึงไม่พกถุงยางอนามัย ซึ่งยิ่งเพิ่มความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ทั้งตัวของโสเภณีเอง และผู้ซื้อบริการ
หญิงขายบริการหลายคนยังถูกบังคับให้ตรวจหาเชื้อไวรัสเอชไอวี แต่ผลตรวจมักถูกปิดบังไม่ให้พวกเธอรู้ และถูกนำไปเปิดเผยกับบุคคลที่สาม
หญิงที่ยึดอาชีพนี้ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพจากชนบท และต้องขายตัวเพื่อแลกกับเงินก็เพราะความยากจน ไร้โอกาสทางการศึกษาและเศรษฐกิจ นอกจากนั้น ความไม่เท่าเทียมกันทางเพศก็เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่ง
เสี่ยว หลิว ซึ่งนามสมมุติของโสเภณี วัย 43 ปีเปิดเผยว่า เธอเคยทำงานในโรงงานเคมีภัณฑ์ในมณฑลเสฉวน ซึ่งเป็นบ้านเกิด แต่โรงงานล้มละลายเมื่อสิบกว่าปีก่อน เธอจึงถูกลอยแพ และตัดสินใจยึดอาชีพ ที่สังคมประณาม เมื่อลูกของเธออายุได้เพียง 2 ขวบ เพื่อหาเงินจุนเจือครอบครัว
ในรายงานของฮิวแมนไรต์วอตช์เรียกร้องให้รัฐบาลจีนตรากฎหมายให้โสเภณีมีโอกาสร้องทุกข์ ยุติการปราบปราม และห้ามตำรวจจับกุม หรือกักขังหญิงขายบริการตามอำเภอใจ นอกจากนั้น ยังเรียกร้องให้ตำรวจหยุดการใช้กำลัง การบังคับให้สารภาพ และทำร้ายร่างกาย
สำหรับการตรวจเชื้อเอชไอวีนั้นควรเป็นการเข้ารับการตรวจด้วยความสมัครใจ และควรแจ้งผลแก่ผู้เข้ารับการตรวจ
ด้านนักรณรงค์สิทธิมนุษยชนผู้หนึ่งของจีนยังเสนอด้วยว่า หากรัฐบาลช่วยให้ชาวชนบทมีงานทำ และพัฒนาการประกอบธุรกิจในชนบท ก็จะเป็นสิ่งป้องกันไม่ให้มีผู้หญิงเข้ามาสู่อาชีพนี้เพิ่มขึ้นได้