เซาท์ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์- โครงการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างได้รับผลกระทบจากคำสั่งของรัฐบาลท้องถิ่นเซินเจิ้นที่ตรวจสอบพบว่าทรายที่ใช้ผสมคอนกรีตมีอัตราส่วนของเกลือและคลอไรด์สูงมาก ซึ่งอาจกัดกร่อนโครงสร้างเหล็กส่งผลให้ตัวอาคารทรุดหรือถล่มได้ในอนาคต
สำนักที่อยู่อาศัยและการโยธาเซินเจิ้น ออกแถลงการณ์เตือนและดำเนินการตรวจสอบโรงผสมปูนภายในพื้นที่ พบโรงงานผสมปูน 15 จาก 90 แห่ง ใช้ทรายทะเลคุณภาพต่ำเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับผลิตคอนกรีตใช้ในก่อสร้างตึกอาคาร คอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ถูกจัดจำหน่ายให้นักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น
ทางการเซินเจิ้นได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ที่สร้างโดยคอนกรีตไม่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศระงับโครงการก่อสร้างที่ต้องสงสัยชั่วคราว อาทิ ศูนย์การเงินผิงอัน (Pingan Financial Centre) ที่มีโครงสร้างอาคารสูง 660 เมตร ซึ่งตามกำหนดการคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2559 เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสิ้นจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในมณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง)
สถานีทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือ CCTV รายงานว่านักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเซินเจิ้นใช้ทรายทะเลแทนที่ทรายแม่น้ำ และตั้งข้อสงสัยแหล่งบ่อทราย 2 แห่งใช้น้ำทะเลทำความสะอาดทรายแทนที่จะใช้น้ำจืด เพื่อลดต้นทุนการผลิต
นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่าโครงการก่อสร้างหลายแห่งที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ใช้วัตถุดิบหลักที่ไม่ได้คุณภาพเหล่านี้ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่หน่วยงานด้านขนส่งมวลชนนครเซินเจิ้น ได้ออกมายืนยันถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่ตรงตามมาตรฐานนานาชาติ
ผู้ประกอบการก่อสร้างฮ่องกงชี้ว่า “ผู้ประกอบการในฮ่องกงจะไม่ยอมเสี่ยงใช้ทรายทะเล เพราะถ้ากระบวนการทำความสะอาดทรายทะเลไม่ดีพอจะส่งผลให้อาคารแตกร้าวได้ในระยะเวลาเพียง 10 ปี ”
จู ลี่หง เจ้าหน้าที่ประจำสำนักที่อยู่อาศัยและการโยธา ยอมรับว่ามีการใช้ทรายทะเลในการก่อสร้างอย่างกว้างขวางเพราะขาดแคลนทรายแม่น้ำ
โข่ว โจวหมิง อดีตสถาปนิกในเซินเจิ้น กล่าวว่า “การใช้ทรายทะเลในการก่อสร้าง เผยให้เห็นว่าเจ้าของโครงการและผู้ควบคุมการก่อสร้างต่างรู้ดีแต่ทำเป็นมองไม่เห็น”
อนึ่ง จากหมู่บ้านชาวประมงในอดีต ปัจจุบันนี้เมืองเซินเจิ้นเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและศูนย์กลาง เศรษฐกิจระดับนานาชาติ ตามข้อมูลของสำนักงานสถิตินครเซินเจิ้น เมืองนี้มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน หรือจีดีพี อยู่ลำดับที่ 27 ของโลก และสถาบันวิจัยศักยภาพการแข่งขันแห่งชาติจีนจัดอันดับให้เมืองเซินเจิ้น เป็นเมืองที่มีศักยภาพการแข่งขันสูงอันดับ 4 ของประเทศจีน
สำนักที่อยู่อาศัยและการโยธาเซินเจิ้น ออกแถลงการณ์เตือนและดำเนินการตรวจสอบโรงผสมปูนภายในพื้นที่ พบโรงงานผสมปูน 15 จาก 90 แห่ง ใช้ทรายทะเลคุณภาพต่ำเป็นวัตถุดิบหลักสำหรับผลิตคอนกรีตใช้ในก่อสร้างตึกอาคาร คอนกรีตที่ไม่ได้มาตรฐานเหล่านี้ถูกจัดจำหน่ายให้นักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ท้องถิ่น
ทางการเซินเจิ้นได้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยจำนวนโครงการที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์ที่สร้างโดยคอนกรีตไม่ได้มาตรฐาน อย่างไรก็ดี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกาศระงับโครงการก่อสร้างที่ต้องสงสัยชั่วคราว อาทิ ศูนย์การเงินผิงอัน (Pingan Financial Centre) ที่มีโครงสร้างอาคารสูง 660 เมตร ซึ่งตามกำหนดการคาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2559 เมื่อโครงการก่อสร้างเสร็จสิ้นจะเป็นอาคารที่สูงที่สุดในมณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง)
สถานีทัศน์กลางแห่งประเทศจีน หรือ CCTV รายงานว่านักพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเซินเจิ้นใช้ทรายทะเลแทนที่ทรายแม่น้ำ และตั้งข้อสงสัยแหล่งบ่อทราย 2 แห่งใช้น้ำทะเลทำความสะอาดทรายแทนที่จะใช้น้ำจืด เพื่อลดต้นทุนการผลิต
นอกจากนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่าโครงการก่อสร้างหลายแห่งที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล ใช้วัตถุดิบหลักที่ไม่ได้คุณภาพเหล่านี้ อาทิ โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน แต่หน่วยงานด้านขนส่งมวลชนนครเซินเจิ้น ได้ออกมายืนยันถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่ตรงตามมาตรฐานนานาชาติ
ผู้ประกอบการก่อสร้างฮ่องกงชี้ว่า “ผู้ประกอบการในฮ่องกงจะไม่ยอมเสี่ยงใช้ทรายทะเล เพราะถ้ากระบวนการทำความสะอาดทรายทะเลไม่ดีพอจะส่งผลให้อาคารแตกร้าวได้ในระยะเวลาเพียง 10 ปี ”
จู ลี่หง เจ้าหน้าที่ประจำสำนักที่อยู่อาศัยและการโยธา ยอมรับว่ามีการใช้ทรายทะเลในการก่อสร้างอย่างกว้างขวางเพราะขาดแคลนทรายแม่น้ำ
โข่ว โจวหมิง อดีตสถาปนิกในเซินเจิ้น กล่าวว่า “การใช้ทรายทะเลในการก่อสร้าง เผยให้เห็นว่าเจ้าของโครงการและผู้ควบคุมการก่อสร้างต่างรู้ดีแต่ทำเป็นมองไม่เห็น”
อนึ่ง จากหมู่บ้านชาวประมงในอดีต ปัจจุบันนี้เมืองเซินเจิ้นเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและศูนย์กลาง เศรษฐกิจระดับนานาชาติ ตามข้อมูลของสำนักงานสถิตินครเซินเจิ้น เมืองนี้มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน หรือจีดีพี อยู่ลำดับที่ 27 ของโลก และสถาบันวิจัยศักยภาพการแข่งขันแห่งชาติจีนจัดอันดับให้เมืองเซินเจิ้น เป็นเมืองที่มีศักยภาพการแข่งขันสูงอันดับ 4 ของประเทศจีน