xs
xsm
sm
md
lg

จีนไม่มีทางโดดเดี่ยวสหายโสมแดง

เผยแพร่:   โดย: สุรัตน์ ปรีชาธรรม

ภาพธงประจำชาติเกาหลีเหนือโบกสะบัดเหนือสถานทูตฯประจำกรุงปักกิ่งวันที่ 12 ก.พ. วันที่โสมแดงแถลงยืนยันว่าประสบความสำเร็จในการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ใต้ดิน (ภาพ เอเอฟพี)
เอเจนซี-จีนเป็นพันธมิตรหนึ่งเดียวในโลกของเกาหลีเหนือ ผู้ค้ำจุนช่วยเหลือ ทั้งอดทนกับพฤติกรรมยั่วยุ ตลอดจนคอยปกป้องใช้สิทธิเสียงวีโต้ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งประชาชาติ (ยูเอ็น) ล้มมาตรการคว่ำบาตรโสมแดง เมื่อนานาชาตินำโดยสหรัฐฯต้องการโต้ตอบการทดลองอาวุธพลานุภาพทำลายล้างสูงของจอมยั่วยุแห่งย่านเอเชียตะวันออกนี้ โดยให้เหตุผลว่าการคว่ำบาตรฯ จะยิ่งทำให้สถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลีไร้เสถียรภาพ และวอชิงตันก็จะฉวยโอกาสเข้าแผ่อิทธิพล

ในวันอังคาร(12 ก.พ.) ผู้นำเปียงยางก็ได้ลุกขึ้นมาทดสอบเขี้ยวเล็บนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 ในคืนวันเดียวกันกระทรวงต่างประเทศโสมแดงก็ยังออกโรงแถลงอีกว่า การทดลองฯนี้เป็นแค่การเริ่มต้นโต้ตอบ “ภัยคุกคามจากสหรัฐฯ” เป็นครั้งแรก ยังมี “แผนสอง และแผนสาม ที่เด็ดดวงกว่านี้” หากวอชิงตันไม่เลิกทำตัวเป็นปฏิปักษ์
ผู้คนเดินผ่านป้ายโฆษณาชวนเชื่อหน้าสถานทูตเกาหลีเหนือในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 12 ก.พ. เป็นชุดภาพผู้นำ คิม จองอึน และภาพขีปนาวุธต่างๆ (ภาพ เอเอฟพี)
กระแสนักวิเคราะห์ชี้ว่า จีนดูจะไม่ลงโทษพันธมิตรเกาหลีเหนือถึงขั้นโดดเดี่ยวไม่เหลืออะไรเลย แม้ว่าสื่อกระบอกเสียงของผู้นำคอมมิวนิสต์อย่างโกลบอล ไทม์ส ได้เตือนเปียงยางผ่านบทบรรณาธิการด้วยถ้อยคำที่แรงว่า “จะต้องจ่ายราคาสูง” หากเดินหน้าทดลองอาวุธมหาประลัย

ด้านกระทรวงต่างประเทศจีนแถลง “ต่อต้านอย่างเหนียวแน่น” ต่อกรณีทดลองยิงอาวุธนิวเคลียร์ของสหายโสมแดง พร้อมเรียกร้องให้ “รักษาสัญญาการปลดอาวุธนิวเคลียร์” แต่ในแถลงการณ์ของจีน ก็มิได้กล่าวประณามฯ หรือแย้มถึงมาตรการคว่ำบาตรใด ทางการจีนได้แต่กล่อมให้ทุกฝ่าย “ใจเย็น” และแก้ไขปัญหาภายใต้กรอบงาน การเจรจา 6 ฝ่าย (Six-Party Talks) ซึ่งมีฝ่ายญี่ปุน เกาหลีใต้ รัสเซีย และสหรัฐฯอยู่ด้วย

จีนสนับสนุนเกาหลีเหนือมาเป็นประเพณี เนื่องจากกลัวว่าผู้อพยพจากโสมแดงจะทะลักท่วมชายแดน และสหรัฐฯจะเข้ามาขยายอิทธิพลในอาณาบริเวณ หรือกระทั่งอาจเกิดการรวมชาติเกาหลีโดยมีกองกำลังอเมริกันประจำการจ่อคอหอยตน

Stephanie Kleine-Ahlbrandt ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ แห่งสำนักคลังสมอง International Crisis Group กล่าวว่า “ผมคิดว่าจีนโกรธมากต่อการทดลองนิวเคลียร์นี้ แต่จีนก็ดูจะไม่ซัดมาตรการลงโทษ และจะไม่หยุดเกาหลีเหนือ เนื่องจากสิ่งที่จีนกลัวมาที่สุดคือ ความไร้เสถียรภาพในคาบสมุทรเกาหลี” Kleine-Ahlbrandt กล่าว

ผู้นำในปักกิ่งอาจร่วมมือกับชาติอื่นๆโต้ตอบโสมเหนือด้วยมาตรการอย่างจำกัด อาทิ ตัดความช่วยเหลือการเงิน โดยจะไม่ไปไกลถึงขั้นแตกหัก

ในปี 2006 ปักกิ่งได้ลดส่งซับพลายน้ำมันแก่โสมแดงหลังจากที่เปียงยางยิงขีปนาวุธนำวิถี และหนึ่งเดือนก่อนหน้าที่จะทดลองนิวเคลียร์ลูกแรก นอกจากนี้ในปี 2009 จีนยังได้ลดทอนมาตรการโต้ตอบเกาหลีเหนือกรณีทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่สอง และก็ไม่มีใครรู้ว่ามีมาตรการแต่ฝ่ายเดียวแบบใดออกมาปรามโสมแดงอีก

ก่อนหน้าที่โสมแดงทดลองอาวุธฯครั้งล่าสุดนี้ ผู้แทนการทูตเมริกันเผยว่าจีนและสหรัฐฯได้ตกลงฉันทามติกันอย่างชนิดไปไกลมาก อย่างไรก็ตามจีนก็ได้พยายามลดทอนความแรงของมาตรการนานาชาติ และไฟเขียวเพียงข้อตกลงยูเอ็นในการประณามเกาหลีเหนือทดลองขีปนาวุธปพิสัยไกลในเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับเกาหลีเหนือ อาวุธนิวเคลียร์เป็นเสาหลักคุ้มกันความมั่นคงของตน และสิ่งที่ตอกย้ำความเชื่อนี้ ได้แก่ กรณีจุดจบของระบอบกัดดาฟี ซึ่งยอมล้มเลิกกองกำลังนิวเคลียร์ของตน และต่อมาก็ต้องพ่ายแพ้ต่อกลุ่มกบฏที่ตะวันตกหนุนหลังในปี 2011

“กรณีของกัดดาฟีทำให้เกิดข้อสรุปว่าประเทศที่ไร้เขี้ยวเล็บนิวเคลียร์ ก็จะพบจุดจบในที่สุด” Kleine-Ahlbrandt
ภาพปกสื่อจีนจำนวนหนึ่งในนครเซี่ยงไฮ้ ฉบับวันที่ 13 ก.พ. สะท้อนปฏิกิริยาต่อการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ชาวเน็ตที่เข้ามาแสดงความเห็นในสื่อสังคมออนไลน์ ส่วนใหญ่ตำหนิว่าผู้นำจีนอ่อนมากเกินไปในการโต้ตอบเกาหลีเหนือ ทั้งเปรียบเพื่อนบ้านจอมยั่วยุอย่างโสมแดงเป็น “สุนัขบ้า” ที่เหยียบย่ำปักกิ่ง (ภาพ เอเอฟพี)
บนเวทีการวิเคราะห์นโยบายในจีน ก็มีการถกเถียงการให้ความช่วยเหลือเกาหลีเหนืออย่างดุเดือด บางกลุ่มถึงกับชี้ว่าความสัมพันธ์จะสร้างความเสี่ยงแก่จีนในการรับผิดชอบสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้น มากกว่าผลประโยชน์

สำหรับการการทดลองนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 นี้ ได้บ่งชี้ว่าสหายในเปียงยางไม่แยแสความกดดันจากจีนเลย ยิ่งจุดกระแสเรียกร้องให้ผู้นำในปักกิ่งเปลี่ยนกลยุทธในการรับมือกับเพื่อนบ้านจอมยั่วยุรายนี้

ไฉ เจี้ยน ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีศึกษาประจำมหาวิทยาลัยฟู่ตัน นครเซี่ยงไฮ้ คาดหวังว่าจีนจะร่วมมือกับสหรัฐฯ และตัดความช่วยเหลือเกาหลีเหนือ “จีนควรแสดงให้เห็นโลกเห็นว่า ไม่ได้ดีแต่พูดในการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ แต่ได้ลงมือทำอะไรบ้าง”

Sunny Lee ผู้เชี่ยวชาญเกาหลีใต้ ที่ศูนย์การศึกษาระหว่างประเทศและยุทธศาสตร์ (Centre for Strategic and International Studies) ในกรุงวอชิงตัน ชี้ว่า อิทธิพลจีนเหนือโสมแดงดูจะอ่อนลงแล้ว ผู้นำในเปียงยาง “ไม่วางใจ” ปักกิ่งที่หันไปใกล้ชิดกับโสมขาว

จีนยังคงหนุนเพื่อนบ้านจอมยั่วยุส่วนหนึ่งเพราะต้องการเขตกันชน ที่ช่วยสกัดกั้นกองกำลังสหรัฐฯไปพ้นจากชายแดนจีน และรักษาอิทธิพลจีนในอาณาบริเวณ

“บางกลุ่มยังคงเชื่อในทฤษฎีเขตกันชน แม้มีเทคโนโลยีทันสมัยและขีปนาวุธพิสัยไกล จริงๆแล้วจีนไม่จำเป็นต้องมีเขตกันชน ” จย่า ชิ่งกั๋ว อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง ว่า

แต่อาจารย์ ซู หาว จากมหาวิทยาลัยกิจการระหว่างประเทศจีน (China Foreign Affairs University)ก็ว่า เกาหลีเหนือ “รู้ดี” ถึงความกลัวของจีน ว่าโสมแดงผู้โดดเดี่ยวอาจหันไปใช้วิธีต่อสู้ที่รุนแรงมากขึ้น

“ดังนั้น ปักกิ่งต้องการรักษาสัมพันธ์ที่ปกติกับเปียงยาง ด้วยหนทางนี้เองก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากการทดลองนิวเคลียร์”
ภาพถ่ายเมื่อวันที่ 11 ก.พ. สาวเสริฟชาวโสมแดงกำลังเต้นรำหน้าโปสเตอร์เมนูอาหารที่เมืองตานตง ซึ่งอยู่ชายแดนจีน (ภาพ เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น