xs
xsm
sm
md
lg

บรรยากาศงานฉลองปีใหม่ปีงูน้ำของชาวทิเบต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เด็ก ชาวทิเบตในเครื่องแต่งกายตามประเพณีกำลังฉลองวันปีใหม่ 11 ก.พ.  2556 ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตกานหนาน มณฑลกานซู่ – ซินหวา
ไชน่าเดลี่ / รอยเตอร์ - บรรยากาศฉลองวันปีใหม่ของชาวทิเบตอบอวลไปด้วยความสุขจากการไหว้พระสวดมนต์ อย่างไรก็ตาม ในเขตที่มีการเผาตัวตายไร้เงาแห่งการฉลองรื่นเริง

โลซาร์ (Losar) หรือวันปีใหม่ของชาวทิเบต ซึ่งในปีนี้เป็นปีงูน้ำ ตรงกับวันจันทร์ ที่ 11 ก.พ. ห่างจากวันตรุษจีนในวันที่ 10 ก.พ. เพียงวันเดียว และตามปกติแล้วมีการฉลองนาน 15 วัน

ทราชี ดอนดรุป (Trashi Dondrup) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตื่นนอนเมื่อเวลา 04.00 น. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในวันแรกของการฉลองที่ทางเข้าปาร์กอร์ (Pargor) ถนนย่านธุรกิจสายสำคัญ ซึ่งแล่นรอบวัดโจคัง (Jokhang Temple ) ในกรุงลาซา เขาและเพื่อนร่วมงานมีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยและเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อม เพื่อคอยตรวจตราและยึดวัตถุ ที่เป็นอันตราย เช่น ไฟแช็กจากนักท่องเที่ยว
บรรยากาศฉลองวันปีใหม่ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตเมื่อวันที่ 11 ก.พ.  2556 – ซินหวา
“นี่เป็นวันแรกของปีใหม่ชาวทิเบต ผู้ศรัทธาชาวพุทธและนักท่องเที่ยวแห่มาที่นี่จำนวนมาก เราต้องตรวจตราความปลอดภัยอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันเหตุร้ายครับ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มกับนักท่องเที่ยวทุกคน
การเต้นระบำของสตรีชาวทิเบตในวันขึ้นปีใหม่ 11 ก.พ. 2556 ในเขตปกครองตนเองชนชาติทิเบตกานหนัน  มณฑลกานซู่ – ซินหวา
ด้านปาซัง (Pasang) วัย 38 ปี พนักงานขับรถโดยสารประจำทางหมายเลข 19 ในกรุงลาซาร์ ยิ้มแห้งๆ เมื่อบอกว่า เขาเสียวันหยุดฉลองปีใหม่ไป 2 วัน เพราะต้องทำหน้าที่รับส่งผู้คนจากท้องถิ่นชนบทในเขตปกครองตนเองทิเบตที่หลั่งไหลเดินทางมายังเมืองเอกแห่งนี้มากกว่าวันธรรมดา เขารู้สึกอิจฉาผู้ที่ได้หมุนวงล้อสวดมนต์ และไปไหว้พระตามวัดต่างๆ

เซริง พันต์ซ็อก (Tsering Puntsog) เดินทางมาถึงวัดโจคังตั้งแต่รุ่งสาง หนุ่มชาวพุทธ วัย 25 ปี ต่อแถวยาวเหยียด ที่ค่อยๆ เคลื่อนไปสู่วัดอย่างช้าๆ เพื่อนมัสการพระศรีศากยมุนี ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ที่ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ อันเป็นประเพณี ที่เขาและครอบครัวปฏิบัติในวันขึ้นปีใหม่ทุกปี
รอยมือบนกำแพงวัดลับรัง (Labrang Monastery) ระหว่างวันขึ้นปีใหม่ของชาวทิเบตในเมืองเซี่ยเหอ มณฑลกานซู่ 11 ก.พ.  2556 –รอยเตอร์
พันต์ซ็อกถวายเนยใส และผืนผ้า ซึ่งทอจากไหมและลินินดิบ พร้อมกับอธิษฐานขอให้ครอบครัวของเขามีสุขภาพแข็งแรง และมีความเจริญรุ่งเรือง
หญิงชาวทิเบตกำลังสวดมนต์ที่วัดลับรัง เมืองเซี่ยเหอ มณฑลกานซู่ในวันขึ้นปีใหม่ 11 ก.พ. 2556 –รอยเตอร์
ขณะที่ชาวทิเบตอีกหลายคนได้รายงานบรรยากาศฉลองปีใหม่ใน Sina Weibo เว็บไซต์ทวิตเตอร์แดนมังกร โดยชายคนหนึ่งเล่าว่า เขาต้องเสียเวลาฝ่าฝูงชนนานกว่า 5 ชั่วโมงจึงไปถึงวัดโจคังได้ ขณะที่หญิงอีกคนเล่าว่า ใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการขึ้นบันไดด้านหน้าพระราชวังโปตาลา

นักท่องเที่ยวอีกหลายคนโพสต์ข้อความว่า ร้านอาหารในท้องถิ่นหลายแห่งในกรุงลาซาพากันปิดหมดในวันปีใหม่ จึงต้องพึงร้านอาหารฟ้าสฟู้ดระงับความหิว

นอกจากคลื่นผู้แสวงบุญแล้ว ยังแลเห็นธงทิวมนตรา ซึ่งพิมพ์คัมภีร์ในศาสนาพุทธ ประดับประดาอยู่ทั่วทุกหนแห่งในกรุงลาซาจากวัดวาอารามไปจนถึงบนหลังคาบ้านเรือนผู้คนด้วยความเชื่อของชาวทิเบต ที่ว่า เมื่อธงมนต์ หรือ “ลัง-รตา” (Lung-rta) ในภาษาทิเบต โบกไสวในสายลม ก็เหมือนราวกับว่ากำลังมีการสวดสาธยายพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ไปพร้อมๆ กัน
การสวดมนต์ของชาวทิเบตในวันขึ้นปีใหม่ที่วัดลับรัง – รอยเตอร์
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศแห่งการฉลองรื่นเริงไม่ปรากฏให้เห็นในดินแดน ซึ่งเป็นใจกลาง ที่เกิดเหตุการณ์เผาตัวตายของชาวทิเบต เพื่อประท้วงต่อต้านการปกครองของจีน

ในเมืองเซี่ยเหอ ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของชาวทิเบตจำนวนมากในมณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน และเป็นที่ตั้งของวัดลับรัง (Labrang) ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาพุทธนิกายทิเบต มีผู้เผาตัวตายไปแล้วอย่างน้อย 20 คนเมื่อปีที่แล้ว จากข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชนและชาวทิเบตพลัดถิ่น

ชาวทิเบตหลายคนในเมืองกล่าวว่าจะไม่มีการฉลองสนุกสนานในปีนี้

“มันไม่เหมาะสมจริงๆ ครับ เนื่องจากเหตุเผาตัวตาย เราจึงไม่จัดงานฉลองปีใหม่” ชายชาวทิเบตซึ่งบอกนามของเขาว่า “ดอร์เจ” (Dorje) กล่าว

“ในทิเบตคุณจะไม่ฉลองปีใหม่ ถ้าคุณกำลังไว้ทุกข์” เขาอธิบาย

ขณะที่ทางการจีนเองไม่คลายกฎเหล็กในการรักษาความมั่นคงในเมืองเซี่ยเหอ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหลันโจว เมืองเอกของมณฑลเพียงขับรถ 4 ชั่วโมง โดยมีการตั้งเครื่องกีดขวางบนถนน ไม่ให้คนภายนอกเข้ามา
คู่สามีภรรยาชาวทิเบตกราบแบบอัษฎางคประดิษฐ์ ในวันปีใหม่ที่วัดลับรัง – รอยเตอร์
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีชาวทิเบตเผาตัวตายแล้วเกือบ 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิต ด้านรัฐบาลจีนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็ได้เริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ด้วยการจับและตัดสินลงโทษคุมขังในเรือนจำผู้ก่อเหตุยั่วยุปลุกปั่นให้มีการเผาตัวตาย เพื่อสยบการประท้วงต่อต้านด้วยวิธีที่น่ากลัวนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น