ไชน่าเดลี่ / รอยเตอร์ - บรรยากาศฉลองวันปีใหม่ของชาวทิเบตอบอวลไปด้วยความสุขจากการไหว้พระสวดมนต์ อย่างไรก็ตาม ในเขตที่มีการเผาตัวตายไร้เงาแห่งการฉลองรื่นเริง
โลซาร์ (Losar) หรือวันปีใหม่ของชาวทิเบต ซึ่งในปีนี้เป็นปีงูน้ำ ตรงกับวันจันทร์ ที่ 11 ก.พ. ห่างจากวันตรุษจีนในวันที่ 10 ก.พ. เพียงวันเดียว และตามปกติแล้วมีการฉลองนาน 15 วัน
ทราชี ดอนดรุป (Trashi Dondrup) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ตื่นนอนเมื่อเวลา 04.00 น. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ในวันแรกของการฉลองที่ทางเข้าปาร์กอร์ (Pargor) ถนนย่านธุรกิจสายสำคัญ ซึ่งแล่นรอบวัดโจคัง (Jokhang Temple ) ในกรุงลาซา เขาและเพื่อนร่วมงานมีอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยและเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อม เพื่อคอยตรวจตราและยึดวัตถุ ที่เป็นอันตราย เช่น ไฟแช็กจากนักท่องเที่ยว
“นี่เป็นวันแรกของปีใหม่ชาวทิเบต ผู้ศรัทธาชาวพุทธและนักท่องเที่ยวแห่มาที่นี่จำนวนมาก เราต้องตรวจตราความปลอดภัยอย่างระมัดระวัง เพื่อป้องกันเหตุร้ายครับ” เขากล่าวด้วยรอยยิ้มกับนักท่องเที่ยวทุกคน
ด้านปาซัง (Pasang) วัย 38 ปี พนักงานขับรถโดยสารประจำทางหมายเลข 19 ในกรุงลาซาร์ ยิ้มแห้งๆ เมื่อบอกว่า เขาเสียวันหยุดฉลองปีใหม่ไป 2 วัน เพราะต้องทำหน้าที่รับส่งผู้คนจากท้องถิ่นชนบทในเขตปกครองตนเองทิเบตที่หลั่งไหลเดินทางมายังเมืองเอกแห่งนี้มากกว่าวันธรรมดา เขารู้สึกอิจฉาผู้ที่ได้หมุนวงล้อสวดมนต์ และไปไหว้พระตามวัดต่างๆ
เซริง พันต์ซ็อก (Tsering Puntsog) เดินทางมาถึงวัดโจคังตั้งแต่รุ่งสาง หนุ่มชาวพุทธ วัย 25 ปี ต่อแถวยาวเหยียด ที่ค่อยๆ เคลื่อนไปสู่วัดอย่างช้าๆ เพื่อนมัสการพระศรีศากยมุนี ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ที่ประดิษฐานอยู่ในโบสถ์ อันเป็นประเพณี ที่เขาและครอบครัวปฏิบัติในวันขึ้นปีใหม่ทุกปี
พันต์ซ็อกถวายเนยใส และผืนผ้า ซึ่งทอจากไหมและลินินดิบ พร้อมกับอธิษฐานขอให้ครอบครัวของเขามีสุขภาพแข็งแรง และมีความเจริญรุ่งเรือง
ขณะที่ชาวทิเบตอีกหลายคนได้รายงานบรรยากาศฉลองปีใหม่ใน Sina Weibo เว็บไซต์ทวิตเตอร์แดนมังกร โดยชายคนหนึ่งเล่าว่า เขาต้องเสียเวลาฝ่าฝูงชนนานกว่า 5 ชั่วโมงจึงไปถึงวัดโจคังได้ ขณะที่หญิงอีกคนเล่าว่า ใช้เวลา 4 ชั่วโมงในการขึ้นบันไดด้านหน้าพระราชวังโปตาลา
นักท่องเที่ยวอีกหลายคนโพสต์ข้อความว่า ร้านอาหารในท้องถิ่นหลายแห่งในกรุงลาซาพากันปิดหมดในวันปีใหม่ จึงต้องพึงร้านอาหารฟ้าสฟู้ดระงับความหิว
นอกจากคลื่นผู้แสวงบุญแล้ว ยังแลเห็นธงทิวมนตรา ซึ่งพิมพ์คัมภีร์ในศาสนาพุทธ ประดับประดาอยู่ทั่วทุกหนแห่งในกรุงลาซาจากวัดวาอารามไปจนถึงบนหลังคาบ้านเรือนผู้คนด้วยความเชื่อของชาวทิเบต ที่ว่า เมื่อธงมนต์ หรือ “ลัง-รตา” (Lung-rta) ในภาษาทิเบต โบกไสวในสายลม ก็เหมือนราวกับว่ากำลังมีการสวดสาธยายพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ไปพร้อมๆ กัน
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศแห่งการฉลองรื่นเริงไม่ปรากฏให้เห็นในดินแดน ซึ่งเป็นใจกลาง ที่เกิดเหตุการณ์เผาตัวตายของชาวทิเบต เพื่อประท้วงต่อต้านการปกครองของจีน
ในเมืองเซี่ยเหอ ซึ่งเป็นถิ่นอาศัยของชาวทิเบตจำนวนมากในมณฑลกานซู่ ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน และเป็นที่ตั้งของวัดลับรัง (Labrang) ซึ่งเป็นศูนย์กลางสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของศาสนาพุทธนิกายทิเบต มีผู้เผาตัวตายไปแล้วอย่างน้อย 20 คนเมื่อปีที่แล้ว จากข้อมูลของกลุ่มสิทธิมนุษยชนและชาวทิเบตพลัดถิ่น
ชาวทิเบตหลายคนในเมืองกล่าวว่าจะไม่มีการฉลองสนุกสนานในปีนี้
“มันไม่เหมาะสมจริงๆ ครับ เนื่องจากเหตุเผาตัวตาย เราจึงไม่จัดงานฉลองปีใหม่” ชายชาวทิเบตซึ่งบอกนามของเขาว่า “ดอร์เจ” (Dorje) กล่าว
“ในทิเบตคุณจะไม่ฉลองปีใหม่ ถ้าคุณกำลังไว้ทุกข์” เขาอธิบาย
ขณะที่ทางการจีนเองไม่คลายกฎเหล็กในการรักษาความมั่นคงในเมืองเซี่ยเหอ ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากหลันโจว เมืองเอกของมณฑลเพียงขับรถ 4 ชั่วโมง โดยมีการตั้งเครื่องกีดขวางบนถนน ไม่ให้คนภายนอกเข้ามา
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา มีชาวทิเบตเผาตัวตายแล้วเกือบ 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่เสียชีวิต ด้านรัฐบาลจีนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ก็ได้เริ่มใช้กลยุทธ์ใหม่ด้วยการจับและตัดสินลงโทษคุมขังในเรือนจำผู้ก่อเหตุยั่วยุปลุกปั่นให้มีการเผาตัวตาย เพื่อสยบการประท้วงต่อต้านด้วยวิธีที่น่ากลัวนี้