เอเจนซี—หมอกมลพิษครองเมืองจีนทั้งนครหลวงปักกิ่งและหลายๆเมืองอย่างน่ากลัว วานนี้(13 ม.ค.) กรุงปักกิ่งได้ประกาศเตือนภัยหมอกมลพิษระดับสีส้ม ซึ่งเป็นระดับรองสูงสุด เป็นครั้งแรก หมอกหนาจนผู้คนไม่อาจมองเห็นได้ไกลกว่า 200 เมตร การคมนาคมทางอากาศ และบนทางหลวงหลายจุดชะงักงัน ประชาชนต้องสวมหน้ากากป้องกันมลพิษ สำหรับปักกิ่งตกอยู่ในสภาพเมืองในหมอกอย่างสาหัสเป็นวันที่สี่ คาดการณ์ว่าจะดีขึ้นกลางสัปดาห์
นอกจากนี้ เขตมณฑลต่างๆที่ตกอยู่ในม่านหมอกหนาได้แก่ ในภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ไปถึงภาคใต้ของประเทศ
เมื่อวานนี้(13 ม.ค.) มีการยกเลิกเที่ยวบินระหว่างประเทศและภายในที่จะมาลงที่สนามบินนานาชาติปักกิ่งอย่างน้อย 25 เที่ยวบิน วิกฤตหมอกมลพิษยังส่งผลกระทบเที่ยวบินที่ไปยังมณฑลเหอเป่ย หูหนัน อวิ๋นหนัน(ยูนนาน) กุ้ยโจว เจ้อเจียง เจียงซู จี๋หลิน เฮยหลงเจียง และซื่อชวน (เสฉวน) สนามบินบางแห่ง มองเห็นเพียงในระยะราว 100 เมตร
หน่วยติดตามสิ่งแวดล้อมประจำเทศบาลนครปักกิ่ง รายงานการวัดค่าคุณภาพอากาศ มีฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เกินระดับ 700 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตรในหลายๆย่านของเมืองปักกิ่ง ขณะที่องค์การอนามัยโลก ระบุมาตรฐานฝุ่นขนาดเล็กที่ปนเปื้อนในอากาศแต่ละวัน ระดับปลอดภัยอยู่ที่ 25 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ฝุ่นขนาดเล็ก หรือ PM2.5 เป็นฝุ่นละอองในอากาศ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน สามารถแทรกเข้าไปในปอด และก๊าซโอโซนได้
กรมอุตุนิยมวิทยาปักกิ่งพยากรณ์ นครหลวงจะมีหมอกหนาไปถึงวันพุธ(16 ม.ค.) โดยจะมีลมแรงพัดพาฝุ่นพิษออกไปจากเมือง
ตารางแสดงผลกระทบจากมลพิษของจีน
ต่ำกว่า 50 ระดับ: 1 ดีมาก ทำกิจกรรมได้ปกติ
51-100 ระดับ: 2 ดี ทำกิจกรรมได้ปกติ
101-200 ระดับ: 3 มลพิษเบา ระยะยาวกลุ่มภูมิแพ้จะป่วยหนักขึ้น กลุ่มแข็งแรงมีอาการป่วย
201-300 ระดับ: 4 มลพิษปานกลาง กลุ่มโรคหัวใจและปอดจะมีอาการหนักขึ้น ความทนทานในการออกกำลังกายลดลง กลุ่มแข็งแรงก็จะมีอาการป่วย
มากกว่า 300 ระดับ: 5 มลพิษรุนแรง ความทนทานในการออกกำลังกายของคนแข็งแรงตกลง มีอาการที่บ่งชี้ความป่วยไข้
ศูนย์ติดตามสิ่งแวดล้อมแห่งชาติจีน เผยการวัดค่ามลพิษใน 33 เมืองทั่วประเทศ ที่เลวร้ายที่สุดคือ ฉางซา เมืองเอกของหูหนาน ได้ประกาศเตือนภัยระดับสีแดง ระดับสูงสุด ระยะการมองเห็นน้อยกว่า 50 เมตร และเมืองที่มีหมอกมลพิษเลวร้ายยังมี เทียนจิน อู่ฮั่น มณฑลเหอเป่ยจมอยู่ในหมอกนานเข้าวันที่สิบในวานนี้ กรมอุตุประจำมณฑลหูหนันประกาศเตือนภัยหมอกระดับสีแดง เมืองชิงเต่าในมณฑลซานตงถูกหมอกหนาจู่โจมสาหัสเช่นกัน เป็นต้น
นอกจากนี้ ข้อมูลจากสถานทูตสหรัฐฯในนครก่วงโจว (กวางเจา) มณฑลก่วงตง วัดค่ามลพิษอากาศในเมืองก่วงโจวเมื่อเช้าวานนี้(13 ม.ค.) เท่ากับ 152 จัดว่าเป็นระดับที่เป็นอันตายต่อสุขภาพ
สภาพหมอกหนายังส่งผลให้ต้องปิดทางหลวง 10 สาย ใน 5 มณฑล รวมทั้ง หูเป่ย เหลียวหนิง นอกจากนี้ยังเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุในกุ้ยหลิน มณฑลกว่างซี ยานพาหนะชนกัน 20 คันวินาศสันตะโร มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 15 ราย รถไฟความเร็วสูงจากปักกิ่ง-อู่ฮั่น ล่าช้ากว่า 3 ชั่วโมงในเช้าวันเสาร์(12 ม.ค.)
สนามบินในฉางซา และคุนหมิง ปิดเมื่อเช้าวานนี้(13 ม.ค.) เนื่องจากหมอกหนามาก แม้ช่วงบ่ายได้เปิดสนามบินแล้วก็ตาม สภาพหมอกหนาก็ยังส่งผลให้เที่ยวบิน มากกว่า 400 เที่ยว ล่าช้า
ตวน เล่ย อาจารย์ประจำวิทยาลัยสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยชิงหวา ในปักกิ่ง กล่าวว่า “ก๊าซ ไอเสียจากรถยนต์ เป็นสาเหตุหลักที่สร้างปัญหามลพิษอากาศในปักกิ่ง รัฐบาลต้องรับผิดชอบในการควบคุมจำนวนรถบนถนน ปักกิ่งยังมีปัญหารถยนต์บนถนนมีจำนวนมากเกินไปแม้มีมาตรการควบคุมการซื้อขายและการขับขี่ในไม่กี่ปีมานี้แล้วก็ตาม”
คณะกรรมการการศึกษา เทศบาลนครปักกิ่งสั่งการเร่งด่วนในวันเสาร์(12 ม.ค.) ระบุให้โรงเรียนประถมและมัธยมในพื้นที่หมอกหนา ออกกำลังกายในอาคาร นอกจากนี้ ยังระบุให้กลุ่มโรงงานมากกว่า 30,000 แห่ง เพลาการปล่อยก๊าซเสียสู่อากาศ ตลอดจนคำสั่งการให้ยานพาหนะของหน่วยงานรัฐ งวดออกถนน
ด้านผู้อยู่อาศัยในเมืองก็ทำอะไรไม่ได้มาก นอกจากซื้อหาหน้ากากป้องกันอากาศพิษ และจำกัดการออกนอกบ้าน
“ประชาชนต้องแกร่วอยู่ในบ้าน เนื่องจากอากาศมันแย่มาก ไม่ใช่เพราะสงครามหรือกองกำลังต่างชาติมารุกราน แต่เป็นเพราะการรจัดการที่ไร้น้ำยาของผู้บริหารบ้านเมืองและจีดีพีที่เปื้อนเลือด” ชาวเน็ต ผู้หนึ่ง บ่นในไมโครบล็อก ซีน่า
สื่อจีน ไชน่า เดลี่ รายงาน จากงานศึกษามหาวิทยาลัยปักกิ่งและกลุ่มรณณรงค์สิ่งแวดล้อมกรีนพีซ ระบุว่าฝุ่นขนาดเล็กในอากาศ ทำให้ผู้คนเสียชีวิตก่อนกาล ถึง 8,600 คน ในปี 2555 ก่อความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ การศึกษาฉบับนี้ยังเรียกร้องให้ออกมามาตรการลดฝุ่นขนาดเล็กในนครปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ก่วงโจว และซีอัน ให้อยู่ในระดับปลอดภัยตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลก ซึ่งจะช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากมลพิษได้ถึง 80 เปอร์เซ็น