เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ผลสำรวจล่าสุดระบุ มีประชาชนในเขตปกครองพิเศษฮ่องกงเพิ่มมากขึ้น ที่คิดว่าตนเองเป็นทั้งพลเมืองของจีนและฮ่องกง ขณะเดียวกันสำนึกการมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของเกาะยังพุ่งสูงสุด นับตั้งแต่อังกฤษส่งมอบคืนอดีตอาณานิคมแห่งนี้ให้แก่จีนเมื่อ 15 ปีก่อน
จากผลสำรวจของมหาวิทยาลัยฮ่องกง ซึ่งสอบถามประชาชนราว 1,000 คน เพื่อประเมินสำนึกทางชาติพันธุ์ (ethnic identity) พบว่า ผู้ถูกสำรวจเกือบครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 49 เห็นว่าตนเองเป็น “พลเมืองฮ่องกงเชื้อสายจีน” ซึ่งเพิ่มขึ้นอีก 15 จุดจากการสำรวจเดียวกันเมื่อ 6 เดือนก่อน และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากการสำรวจเมื่อปี 2550 ซึ่งผู้ถูกสอบถามร้อยละ 48 เห็นว่า ตนเองเป็นทั้งพลเมืองจีนและพลเมืองฮ่องกง
การสำรวจล่าสุดนี้ยังพบว่า ทั้งผู้ที่เห็นว่าตนเองเป็น “พลเมืองฮ่องกงเชื้อสายจีน” และผู้ที่ระบุว่าตนเองเป็น “พลเมืองฮ่องกง” ร้อยเปอร์เซ็นต์ ล้วนมีสำนึกการเป็นเจ้าของเกาะฮ่องกงเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่าครั้งใด ๆ นับตั้งแต่มีการมอบคืนเกาะฮ่องกงให้แก่จีนในปี 2540 กล่าวคือเพิ่มถึง 81.7 จุดจาก 100 จุด โดยผู้ถูกสอบถามอายุระหว่าง18-29 ปีมีแนวโน้มให้คะแนนสูงกว่าผู้มีอายุไม่ต่ำกว่า 30 ปี
นอกจากนั้น ผู้ถูกสอบถาม ที่เห็นว่าตนเองเป็น “พลเมืองจีน” แท้ เพิ่มจากร้อยละ 18 เป็นร้อยละ 21
ขณะที่มีผู้เห็นว่าตนเองเป็น “พลเมืองฮ่องกง” แท้ราวร้อยละ 27 ซึ่งลดลงถึง 19 จุดจากการสำรวจเมื่อ 6 เดือนก่อน
รายงานผลสำรวจนี้ระบุว่า กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือร้อยละ 60 ของผู้ถูกสำรวจระบุว่า ตนเองเป็น “ชาวฮ่องกง” ในความหมายที่กว้างขึ้นกล่าวคือเป็นพลเมืองฮ่องกงเชื้อสายจีน หรือเป็นพลเมืองฮ่องกงอย่างเดียวเท่านั้น
นักวิชาการด้านรัฐศาสตร์ระบุว่า การอภิปรายถกเถียง ที่เกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ เกี่ยวกับการศึกษาของชาติและการปกครองตนเองของฮ่องกงมีส่วนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยอาจทำให้เกิดความรู้สึกหลอมรวมกันระหว่างฮ่องกงกับแผ่นดินใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้น ชาวฮ่องกงยังเริ่มตระหนักด้วยว่ากิจการของฮ่องกงไม่อาจอยู่ในการควบคุมของชาวฮ่องกงได้ทั้งหมด และฮ่องกงไม่อาจแบ่งแยกจากจีนได้