ซินหัว/ASTVผู้จัดการ – รายงานของผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น 3 บริษัทระบุว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนพฤศจิกายนในจีนยังคงซบเซาต่อเนื่อง โดยลดลงเป็นตัวเลขสองหลักเมื่อเทียบกันปีต่อปี จากความระหองระแหงเรื่องดินแดนระหว่างสองชาติ
จากรายงานที่เผยแพร่เมื่อวันศูกร์ (21 ธ.ค.) ที่ผ่านมาระบุว่าเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ยอดการผลิตของบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ในจีนลดต่ำลงร้อยละ 38.7 เมื่อเทียบกันปีต่อปี เหลือเพียง 50,528 หน่วย อย่างไรก็ตามตัวเลขความหดตัวลงดังกล่าวของโตโยต้าก็ยังคือว่ากระเตื้องขึ้นจากตัวเลขเดือนตุลาคมที่ลดลงถึงร้อยละ 61.1
ด้านยอดการผลิตของ บ.นิสสัน มอเตอร์ในจีนก็ลดลงร้อยละ 43.3 เหลือ 68,090 หน่วย ขณะที่ บ.ฮอนด้า มอเตอร์ ก็ลดลงเช่นกันร้อยละ 59.9 เหลือ 26,592 หน่วย
อย่างไรก็ตาม ยอดการผลิตรถยนต์ในต่างแดนของโตโยต้าและฮอนด้าต่างก็เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการผลิตในอเมริกาเหนือ และในกลุ่มประเทศอาเซียน โดยยอดการผลิตรถยนต์ในต่างแดนของโตโยต้าเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 21.8 เป็น 435,413 หน่วย ขณะที่ยอดการผลิตของฮอนด้าก็เพิ่มขึ้นร้อยละ 47.6 เป็น 247,393 หน่วย ส่วนยอดการผลิตในต่างประเทศของนิสสันกลับลดลงร้อยละ 6.8 เหลือ 301,165 หน่วย
นับตั้งแต่เดือนกันยายน 2555 ยอดจำหน่ายรถยนต์ของบริษัทญี่ปุ่นในจีนต่างลดลงถ้วนหน้า อย่างเช่น ยอดของโตโยต้าในจีนช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมาลดลงฮวบฮาบถึงร้อยละ 40 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว หลังรัฐบาลโตเกียวขอซื้อหมู่เกาะเซนกากุ/เตี้ยวอี๋ว์ในทะเลจีนตะวันออกจากเจ้าของเอกชน โดยหมู่เกาะดังกล่าวเป็นหมู่เกาะที่ญี่ปุ่นกับจีนมีปัญหาข้อพิพาทเรื่องพรมแดน จนทำให้ชาวจีนนับหมื่นคนออกมาประท้วงต่อต้านญี่ปุ่นในหลายเมืองทั่วประเทศจีน
