ยอดส่งออกญี่ปุ่นไปจีนลดลงต่อเนื่อง วิกฤตพิพาทเกาะ “เตียวอี๋ว์” เป็นเหตุ

เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ยอดการส่งออกของญี่ปุ่นไปยังจีนลดต่ำลงเมื่อเดือนที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะระหว่างญี่ปุ่นและจีนในทะเลจีนตะวันออก ที่ลุกลามจนส่งผลกระทบต่อการค้า และปลุกกระแสต่อต้านสินค้า “เมด อิน เจแปน” ครั้งใหญ่ไปทั่วแดนมังกร

การเปิดเผยข้อมูลเบื้องต้นของกระทรวงการคลังญี่ปุ่นในวันจันทร์ (22) พบว่า ปริมาณการส่งสินค้าจากญี่ปุ่นไปยังสาธารณรัฐประชาชนจีนลดลง 14.1 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และถือเป็นการลดลงของตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นไปยังจีนอย่างต่อเนื่อง หลังจากในเดือนสิงหาคมยอดส่งออกจากญี่ปุ่นไปจีนได้ปรับตัวลดลง 9.9 เปอร์เซ็นต์มาแล้ว

ตัวเลขการส่งออกของญี่ปุ่นที่ลดลงดังกล่าวเป็นผลโดยตรง จากปัญหาข้อพิพาทเหนือหมู่เกาะเซนกากุ หรือ “เตียวอี๋ว์” ในทะเลจีนตะวันออกซึ่งตกอยู่ใต้การปกครองของญี่ปุ่น แต่ทั้งจีนและไต้หวันต่างยังคงอ้างกรรมสิทธิ์

ขณะเดียวกัน การนำเข้าสินค้าจากจีนของญี่ปุ่นกลับเพิ่มสูงขึ้น 3.8 เปอร์เซ็นต์ และปฏิเสธไม่ได้ว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำสั่งซื้อจากญี่ปุ่นที่มีล้นหลามต่อโทรศัพท์อัจฉริยะ “ไอโฟน 5” ของค่ายแอปเปิล อิงก์ที่ประกอบในจีน

นอกจากการส่งออกของญี่ปุ่นไปยังจีนจะปรับตัวลดลงแล้ว การส่งออกของญี่ปุ่นในภาพรวมยังปรับตัวลดลง 10.3 เปอร์เซ็นต์ในเดือนกันยายน จากช่วงเดียวกันของปีก่อนจากผลของความอ่อนแอและวิกฤตที่เรื้อรังของเศรษฐกิจยุโรปที่ทำให้มีคำสั่งซื้อสินค้าจากญี่ปุ่นลดน้อยลง สวนทางกับคำสั่งซื้อสินค้ายุโรปของทางญี่ปุ่นที่เพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ญี่ปุ่นต้องประสบภาวะขาดดุลการค้าต่อยุโรปคิดเป็นวงเงินกว่า 559,000 ล้านเยน (ราว 215,738 ล้านบาท) ซึ่งเป็นตัวเลขการขาดดุลการค้าที่สูงกว่าการประเมินของรัฐบาลแดนปลาดิบ

ด้านทาคาฮิโระ เซกิโดะ นักวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์จากธนาคารโตเกียว-มิตซูบิชิ และอดีตเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นเผยว่า ข้อพิพาททางการเมืองจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้แนวโน้มความต้องการสินค้าญี่ปุ่นจากจีนยังอยู่ในเกณฑ์ที่เลวร้ายต่อไปอีกระยะหนึ่ง