xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ลงทุนจีนซื้อหุ้น บ.เช่าเรือบิน AIG กว่า 80% มูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลล์ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เครื่องบิน เอ 380 สายการบินควอนตัส ออกจากท่าอากาศยานซิดนีย์ (ภาพเอเยนซี)
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - กลุ่มผู้ลงทุนจีนตกลงซื้อหุ้นส่วนหน่วยเช่าเครื่องบินของบริษัทอเมริกัน อินเทอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป หรือ เอไอจี มากถึง 80.1 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่า 4,230 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นับเป็นการครอบครองสัดส่วนการถือครองหุ้นจากผู้ลงทุนจีนที่มากที่สุดของสหรัฐฯ

เอไอจีเผยว่า ผู้ลงทุนร่วมชาวจีนที่เข้ามาซื้อหุ้นของ "อินเทอร์เนชั่นแนล ลีซ ไฟแนนซ์ คอร์ป" หรือ ไอแอลเอฟซี บริษัทในเครือของตน ในครั้งนี้ ประกอบด้วย นิวไชน่าทรัสต์ โค, ไชน่า อาวิเอชั่น อินดัสเตรียลฟันด์ และพีทรี อินเวสต์เมนต์ ผู้ซื้อสามารถเลือกช่องทางเพิ่มสัดส่วนการครอบครองหุ้นได้ 9.9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อปี 2550 กลุ่มอินเวสต์เมนต์คอร์ปของจีนได้ซื้อหุ้นจากแบล็กสโตนกรุ๊ปของมะกันไป 3,000 ล้านเหรียญ ทว่าในครั้งนี้ถือว่าการซื้อหุ้นแซงมาเป็นอันดับหนึ่งด้วยมูลค่าการทำธุรกรรมที่สูงถึง 5,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

ไอแอลเอฟซี เป็นบริษัทผู้ให้เช่าเครื่องบินรายใหญ่สุดในจีน มีสัดส่วนครอบครองตลาดในจีนถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ให้เช่าเครื่องบิน 175 ลำ แก่สายการบิน 16 สายที่บินในแถบประเทศจีน ขณะที่เอไอจีบริษัทแม่ เป็นบริษัทประกันที่มีผู้ลงทุนรายใหญ่สุดเป็นรัฐบาลมะกัน ทว่ากำลังขายหน่วยธุรกิจในลอสแองเจเลส เนื่องจากบอสใหญ่ โรเบิร์ต เบนมอสเช ต้องการเน้นไปที่ด้านการประกันภัยเพียงอย่างเดียว และต้องการปลดหนี้สินในเครือบริษัท

"เอไอจีได้กำหนดยุทธศาสตร์การตัดสินใจต้องการเป็นบริษัทประกันภัยอย่างแท้จริง" พอล นิวซัม นักวิเคราะห์แห่ง แซนเดลอร์ โอ นีล แอนด์พาร์ทเนอร์ ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้าที่เอไอจีจะขายหุ้นให้ผู้ลงทุนจีนถือครองในหน่วยเช่าเครื่องบิน "ผู้ลงทุนในเอไอจีทั้งหมด โดยเฉพาะผู้ลงทุนรายใหญ่ ต้องการเห็นเอไอจีเป็นบริษัทที่เน้นการประกันภัยเพียงอย่างเดียว"

จากแถลงการณ์ระบุว่า เอไอจีจะสูญเสียรายได้จากบริษัทสาขาที่ขายไปมูลค่า 4,400 ล้านเหรียญ อย่างไรก็ตามการทำธุรกรรมนี้ฯ คาดว่าจะผ่านความเห็นจากผู้คุมกฎฯ ทั้งฝ่ายจีนและสหรัฐฯ

เจ้าของรายใหม่ของไอแอลเอฟซี มีเป้าหมายที่จะขยายความมั่นคงการประกอบการในจีน ตลอดจนขยายตลาดในเอเชีย ละตินอเมริกา ตะวันออกกลางและยุโรปตะวันออก เบนมอสเช วัย 68 ปีกล่าวในแถลงการณ์ประชุมแก่เจ้าหน้าที่ฯ การขายบริษัทในเครือออกไปจะช่วยให้เอไอจีสามารถดูแลด้านการประกันวินาศภัยและอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนประกันชีวิตของคนอเมริกันได้ดียิ่งขึ้น

"เอไอจีทุกวันนี้ต่างไปจากเมื่อสี่ปีที่แล้ว พวกเราเรียนรู้ที่จะเน้นการทำงานที่เป้าหมายเดียว" เบนมอสเชย้ำ

ซีอีโอแห่ง ไอเแอลเอฟซี เฮนรี โคพรอน และประธานเฟดเดอริค โครเมอร์ จะมีหน้าที่ด้านการบริหารจัดการธุรกิจต่อไป และยังคงร่วมมือกับสหรัฐฯ โดยคงเป็นสมาชิกภายใต้การกำกับของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯต่อไป รายงานระบุว่า บริษัจะมีการแต่งตั้งผู้บริหารใหม่ ซึ่งในนั้นก็ยังมี เบนมอสเชนั่งตำแหน่งอยู่ด้วย แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนถ่ายผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่แล้วก็ตาม

บริษัทฯ เผยเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมาว่า ไอเอลเอฟซี มีกรรมสิทธิ์หุ้นส่วนมูลค่า 7,900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อสิ้นไตรมาสสามที่ผ่านมา มีพนักงาน 560 คน ซึ่งกว่า 450 คนอยู่ในสหรัฐฯ ทว่าเร็ว ๆ นี้บริษัทประกาศจะรับสมัครพนักงานเพิ่ม เนื่องจากต้องหาคนมาทำงานแทนที่ฝ่ายดำเนินการเก่าของเอไอจี

เอไอจีเคยเผยเรื่องการเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนของบริษัทเช่าเครื่องบินของตนเมื่อปีที่ผ่านมา และเผยอีกครั้งเมื่อช่วงเดือนที่่ผ่านมาว่า การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนอาจจะเริ่มในปีหน้า เอไอจีได้ได้พิจารณาขายไอแอลเอฟซีในปี 2552 เพื่อระดมทุนมาจ่ายหนี้ที่เกิดจากธุรกรรมที่ล้มเหลวมูลค่า 182,300 ล้านเหรียญ ซึ่งจะช่วยมิให้บริษัทล้มละลาย หลังจากเผชิญวิกฤติเศรษฐกิจ

บริษัทได้ขายสินทรัพย์ในครอบครองกว่า 60,000 ล้านเหรียญ อาทิ บริษัทประกันในเอเชีย บริษัทปล่อยกู้แก่ผู้บริโภคในสหรัฐฯ และสำนักงานใหญ่ที่ญี่ปุ่น

เอไอจีได้รับผลประกอบการณ์เพิ่ม 47 เปอร์เซ็นต์ในปีนี้ นิวซัมเผยว่า การขายบริษัทในเครือออกไปบ้างเป็นการช่วยพยุงและช่วยลดหนี้ให้แก่บริษัทแม่
กำลังโหลดความคิดเห็น