เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ผู้เดือดร้อนหลายร้อยคนได้รับการปล่อยตัวจากคุกมืดที่ใหญ่สุดแห่งหนึ่งของกรุงปักกิ่ง อันเป็นซังเตศูนย์กลางจองจำผู้ร้องเรียนจากทั่วประเทศจีน ที่ถูกจับขังแบบไร้ข้อหา เพียงพวกเขาเดินทางมาร้องเรียนปัญหาความไม่เป็นธรรมในท้องถิ่น
การปล่อยนักโทษจำนวนมากนี้ ประจวบเหมาะกับเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาซึ่งเป็นวันสนับสนุนหลักนิติธรรม ซึ่งก็เป็นการส่งสัญญาณว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนน่าจะนำหลักนิติธรรมมาใช้จริงบ้างแล้ว
ขณะที่นักเคลื่อนไหวเรียกร้องสิทธิและนักกฎหมายยังเรียกร้องให้รัฐบาลจีนมีมาตรการที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้ บางคนเผยว่า ผู้ที่เข้ามาร้องทุกข์ในกรุงปักกิ่งในช่วงสองวันที่ผ่านมาขณะนี้ยังคงถูกกักบริเวณอยู่
การปล่อยตัวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากสื่อแผ่นดินใหญ่เริ่มพบข้อหามากมายที่อัยการได้ฟ้องประชาชนจำนวนมาก จากนั้นก็พาตัวไปสอบสวนยังคุกมืด ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลจีนที่ปฏิบัติต่อผู้ร้องเรียนอย่างผิดกฎหมาย
ศูนย์กลางทางใต้ของหมู่บ้านจิ่วจิ้งจวงกรุงปักกิ่ง หรือเป็นที่อยู่จักกันในนามทางการว่า ศูนย์บริการและบรรเทาทุกข์จิ่วจิ้งจวง ได้ปล่อยตัวผู้ร้องทุกข์จำนวน 300 คน เมื่อคืนวันอังคาร 4 ธ.ค. ผู้ร้องเรียนชาวเจ้อเจียงสองคนเล่าว่า พวกเขาถูกส่งตัวไปยังศูนย์ดังกล่าวโดยรถบัสตอนเช้า และได้รับการปล่อยตัวในตอนค่ำ
อย่างไรก็ดี จำนวนประชาชนที่ถูกกักบริเวณนั้นไม่เป็นที่แน่ชัด บางคนโพสต์ในออนไลน์ว่ามีมากถึงหมื่นคน
เซิ่น จื้อหวา สตรีจากเมืองอานจี้ มณฑลเจ้อเจียง เผยว่า เธอถูกกักบริเวณอยู่ในห้องที่เรียกว่า “ห้องเจ้อเจียง” หลังจากที่เดินทางมาถึงอาคารศูนย์กลางสถานีโทรทัศน์จีนในเขตไห่เตี้ยน กรุงปักกิ่ง เพื่อต้องการร้องเรียน เธอถูกนำตัวไปรวมกับผู้ร้องทุกข์อีกหลายคนที่จิ่วจิ้งจวงในเช้าวันอังคาร
“มีห้องหลายห้องในศูนย์ดังกล่าว แต่ละห้องเป็นของแต่ละมณฑล” เธอกล่าว “ผู้ร้องเรียนจะถูกจับตัวแยกไปตามห้องมณฑลที่ตนเองเดินทางมา ขณะที่ในห้องเจ้อเจียงมีจำนวนคนประมาณ 300-400 คน ที่ตอนเย็นได้รับการปล่อยตัว”
เธอเล่าว่า ผู้ร้องเรียนจากซานตงเล่าให้เธอฟังว่า “ห้องซานตง” ก็ถูกปล่อยตัวในคืนเดียวกันนั้นด้วย
เสินถู ต้าปิง ผู้ร้องเรียนจากเมืองอานจี้ เผยว่า เขาเห็นห้องต่างๆ หลายสิบห้องในศูนย์ดังกล่าว แต่ไม่อาจมองเห็นได้ว่ามีคนถูกกักบริเวณอยู่เท่าใด
เป็นธรรมเนียมที่ผู้ร้องทุกข์จะต้องรวมตัวกันหน้าอาคารสถานีโทรทัศน์แห่งรัฐ ในวันสนับสนุนหลักนิติธรรม และตำรวจจะต้องจัดการเรื่องสร้างภาพนี้ให้เรียบร้อย หลี่ เว่ย ผู้ร้องเรียนจากปักกิ่งกล่าว เขาประมาณตัวเลขว่ามีผู้ร้องเรียนที่ถูกนำตัวส่งไปยังจิ่วจิ้งจวงเมื่อวันอังคารจำนวน 1,500 คน
หลี่เล่าว่า ปีนี้ไม่เห็นตัวรวจฉุดกระชากผู้ร้องเรียนขึ้นรถเหมือนทุกปี คนที่ขึ้นไปบนรถบัสบางคนกระซิบบอกว่า ปีนี้เหมือนจะดีกว่าทุกปี
เฉิน หย่งเหมียว นักวิเคราะห์ทางการเมืองกรุงปักกิ่งและนักเคลื่อนไหวสิทธิมนุษยชนแทบไม่เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง “เวลาเปลี่ยนผู้นำใหม่ คนก็จะมีแนวโน้มความหวังว่าอะไรจะดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น หรือไม่ก็อาจไม่มีอะไรเปลี่ยนเลย”
เขาเผยว่า สิ่งที่สี จิ้นผิงกล่าวเกี่ยวกับหลักกฎหมายของประเทศเมื่อวันอังคาร ไม่ต่างไปจากที่หู จิ่นเทากล่าวเมื่อสิบปีที่แล้ว
หยวน อี้ว์ไหล นักกฎหมายผู้เชี่ยวชาญด้านระเบียบบริหารจากเจ้อเจียงเผยว่า รัฐบาลจีนมีปฏิบัติการเชิงรุกมากขึ้น สภาผู้แทนประชาชนระดับมณฑลมีสิทธิมากขึ้นในการแต่งตั้งหรือถอดถอนผู้มีอำนาจ ดังนั้นหลายกรณีที่ประชาชนร้องเรียนรัฐบาลกลาง อาจจะสามารถแก้ไขได้ในระดับท้องถิ่น