เอเจนซี—เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อินเดีย โวยพาสปอร์ตใหม่ของจีน ดันอุณหภูมิศึกพิพาทดินแดนร้อนขึ้นอีก วอชิงตันขอแจมแสดงความวิตก
สืบเนื่องจากเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาจีนได้เปลี่ยนหนังสือเดินทางแบบใหม่ ซึ่งมีไมโครชิฟฝังอยู่ (หรืออี-พาสปอร์ต) โดยที่หน้าที่ 8 ของพาสปอร์ตมีภาพแผนที่แสดงดินแดนภายใต้อธิปไตยจีน กินพื้นที่ครอบคลุมดินแดนพิพาทหมู่เกาะทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด และแถบเทือกเขาหิมาลัยรวมอยู่ด้วย ภาพแผนที่นี้ได้สร้างความไม่พอใจแก่กลุ่มคู่กรณีในศึกพิพาทดินแดนฯ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไต้หวัน บรูไน มาเลเซีย รวมทั้งอินเดียซึ่งก็มีข้อพิพาทเขตชายแดนกับจีน
ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ไต้หวัน ออกโรงประท้วงพาสปอร์ตจีน โดยชี้ว่าภาพแผนที่นี้ได้ละเมิดอธิปไตยแห่งชาติของพวกเขา
วานนี้(27 พ.ย.) เจ้าหน้าที่สนามบินนานาชาติกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ปฏิเสธประทับตราวีซ่าบนพาสปอร์ตจีนฉบับใหม่ เนื่องจากกลัวว่าการประทับตราวีซ่าจะเป็นการยอมรับการอ้างสิทธิเหนือดินแดนของจีน นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ประจำชายแดนเวียดนาม-จีน ก็ไม่ยอมประทับตราวีซ่าแก่ผู้ถือพาสปอร์ตจีนแบบใหม่ แต่ได้ประทับตราบนกระดาษเปล่าอีกแผ่นให้แทน
สภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน ซึ่งรับผิดชอบความสัมพันธ์กับจีน แถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า “นี่เป็นการเพิกเฉยต่อความเป็นจริง และมีแต่ยั่วยุข้อพิพาท”
ด้านอินเดียก็แถลง “รับไม่ได้” พาสปอร์ตใหม่ของจีน เนื่องจากมีภาพแผนที่แสดงอาณาเขตจีน ครอบคลุมเขตเทือกเขาหิมาลัย 2 แห่ง ที่อินเดียอ้างสิทธิเป็นของตน ผู้นำภารตะโต้ตอบโดยออกแบบภาพวีซ่าสำหรับประทับตราบนหนังสิอเดินทางใหม่ เป็นภาพแสดงเขตชายแดนอินเดีย
โฆษกกระทรวงต่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกา แถลงความวิตกต่อภาพแผนที่ใหม่บนหนังสือเดินทางของจีน ที่ระบุสิทธิเหนือดินแดนพาทในทะเล
“เรากังวลว่า ภาพแผนที่จะจุดชนวนความตึงเครียดและความวิตกในหมู่ประเทศบริเวณทะเลจีนใต้
"เราจะพูดคุยเรื่องนี้กับจีน โดยชี้ว่าการกระทำดังกล่าวจะทำให้การคลี่คลายข้อพิพาทดินแดนเป็นไปอย่างยากลำบากยิ่งขึ้น” โฆษกหญิง วิคตอเรีย นูแลนด์ แห่งกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯกล่าวในที่ประชุมข่าวเมื่อวานนี้(27 พ.ย.)
อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯซึ่งเคยเรียกร้องให้จีนและชาติเพื่อนบ้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ให้การรับรองแนวปฏิบัติ (code of conduct) เป็นก้าวแรกในการลดความตึงเครียดศึกพิพาทดินแดนในทะเลจีนใต้ ก็ยังคงยอมรับพาสปอร์ตใหม่ของจีนว่าสอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยเอกสารการเดินทาง.
