xs
xsm
sm
md
lg

จีนแซงสหรัฐฯ ได้รับเอฟดีไอสูงสุดในโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเยนซี - จีนก้าวนำสหรัฐฯ เป็นแหล่งเป้าหมายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) อันดับหนึ่งของโลก ได้รับเอฟดีไอ มูลค่า 5.91 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้

สื่อต่างประเทศรายงาน (24 ต.ค.) อ้างรายงานจากการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (อังค์ถัด, United Nations Conference on Trade and Development, UNCTAD) เมื่อวันที่ 23 ต.ค. ระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ จีนก้าวนำสหรัฐฯ เป็นแหล่งเป้าหมายการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ) อันดับหนึ่งของโลก โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ ได้รับเอฟดีไอ มูลค่า 5.91 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงจาก 6.09 หมื่นล้านดอลลาร์ ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

รายงานฯ ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ สหรัฐฯ ได้รับเอฟดีไอ 5.74 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลงร้อยละ 39 จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งปัจจุบันสหรัฐฯ ได้รับเอฟดีไอ รวมมูลค่า 2.27 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนได้รับ 1.16 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ฮ่องกง ยังได้รับเอฟดีไอ มากที่สุดเป็นอันดับ 3 ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ที่ 4.08 หมื่นล้านดอลลาร์ แซงประเทศเบลเยียม ซึ่งได้รับเอฟดีไอ มูลค่า 1.02 แสนล้านดอลลาร์ และอยู่อันดับ 3 ในปีที่แล้ว

ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ สัดส่วนเอฟดีไอทั้งหมดในโลกนั้น ครึ่งหนึ่งอยู่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ขยับขึ้นมาเท่ากับกลุ่มประเทศพัฒนาได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรป ได้รับเอฟดีไอลดลง และยังไหลไปสู่ประเทศกลุ่ม BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน) ขณะที่ปริมาณเอฟดีไอ ทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ก็ลดลงร้อยละ 8 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว อยู่ที่ 6.68 แสนล้านดอลลาร์

อังค์ถัด ซึ่งคาดการณ์ว่าในไตรมาสที่ 3 และ 4 เงินจะไหลเข้าสู่สหรัฐฯ มากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และน่าจะมียอดรวมเอฟดีไอสูงสุดในโลก ได้เสริมว่า ภาวะผันผวนที่มากขึ้นทุกทีของเศรษฐกิจโลก เกิดจากความวิตกกังวลกับวิกฤติหนี้ยุโรป และเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจใหม่ ส่งผลต่อเอฟดีไอ และมีผลเสียต่อภาคการส่งออก นอกจากนี้ ข้อมูลยังพบว่า ปริมาณการควบรวมกิจการระหว่างประเทศลดลง ทำให้เอฟดีไอ ลดลงในช่วงครึ่งปีแรกด้วย โดยการลงทุนในทั้งยุโรปกลางและยุโรปตะวันออกต่างก็ลดลง ร้อยละ 28 และเอฟดีไอในรัสเซียลดลงร้อยละ 39 ขณะที่ในเอเชียใต้ รวมทั้งอินเดียลดลงร้อยละ 40 ต่างจากการลงทุนฯ ในละตินอเมริกาที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และแอฟริกาขยับขึ้นร้อยละ 5 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนทางด้านตะวันออกกลางนั้นมีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย

อังค์ถัด ประเมินว่ายอดเอฟดีไอ ปีนี้ จะอยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือน ก.ค. ร้อยละ 5 และจะกลับมาสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจ

เจมส์ ซาน ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนฯ ของอังค์ถัด กล่าวว่า การเมืองที่ไม่แน่นอนมีผลต่อการค้าและเศรษฐกิจ ขณะที่สหรัฐฯ อยู่ระหว่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า จีนก็กำลังอยู่ในช่วงผลัดเปลี่ยนผู้นำในรอบสิบปี ซึ่งล้วนทำให้การวางแผนโครงการใหญ่ๆ เหมือนอยู่ในช่วงเฝ้ารอดูทิศทางลม
กำลังโหลดความคิดเห็น