เฟิ่งหวง-ผู้ต้องสงสัยแทงเพื่อนวัยรุ่นเสียชีวิตที่บาร์แห่งหนึ่งในมณฑลไหหลำ ได้เข้ามอบตัวพร้อมสารภาพเหตุเพราะวิวาทกันเรื่องใครจะเป็นผู้ชนะระหว่างจีนและญี่ปุ่นในศึกชิงเกาะพิพาทเตี้ยวอี๋ว์
เมื่อคืนวันหยุด 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ตำรวจเมืองว่านหนิง มณฑลไห่หนัน(ไหหลำ)ได้รับแจ้งเหตุว่ามีวัยรุ่นทะเลาะวิวาทฆ่ากันตายในอำเภอซิ่งหลง เมื่อรุดไปที่เกิดเหตุก็พบวัยรุ่นชายคนหนึ่งถูกแทงบาดเจ็บสาหัสบริเวณท้องนอนจมกองเลือดอยู่ เจ้าหน้าที่ฯจึงรีบทำการปิดล้อมบริเวณและนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ซึ่งได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา เจ้าหน้าที่ได้ยึดมอเตอร์ไซด์และมือถือซึ่งผู้ต้องสงสัยมือสังหารทำหล่นไว้เพื่อประกอบการสืบสวน อีกทั้งได้สอบถามผู้อยู่ในที่เกิดเหตุ แต่ไม่มีใครรู้จักผู้ต้องสงสัยรายนี้
เมื่อวันที่ 8 ต.ค.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับรายงานว่าพบเบาะแสผู้ต้องสงสัยบริเวณด้านหลังภูเขาของหมู่บ้านต้าโจว แต่เมื่อสนธิกำลังไปค้นหาทั่วทั้งภูเขาก็ไม่พบ โดยผู้ต้องสงสัยมีนามว่า นายหวัง โหม่วเฉิง อายุ 36 ปี เคยติดคุกแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกในปี 1999 และอีกครั้งในปี 2000 เป็นเวลาร่วม 10 ปี ออกจากคุกเมื่อปี 2007 ทำงานก่อสร้างและยังโสด เนื่องจากนายหวังเกิดและโตในภูเขา จึงรู้จักเส้นทางและชำนาญการใช้ชีวิตในป่าเป็นอย่างดี
เรื่องมีอยู่ว่าในวันหยุดดังกล่าว นายหวังกับนายจี๋ เพื่อนร่วมหมู่บ้านเดียวกันพากันขับมอเตอร์ไซด์ไปกินเหล้าที่บาร์แห่งหนึ่งในอำเภอซิ่งหลง สักราว 5 ทุ่ม เพื่อนของนายจี๋โทรมาชวนให้ย้ายไปกินด้วยกันในบาร์อีกแห่งหนึ่ง ทั้งสองจึงบึ่งมอเตอร์ไซด์ออกไป
ภายใต้แสงไฟหลากสี ผู้คนโยกตัวไปตามจังหวะเนิบช้าของดนตรี วัยรุ่น 7-8 คนนั่งดื่มกันอยู่ที่มุมหนึ่งของบาร์ นายหวังและนายจี๋ร่วมอยู่ด้วยในกลุ่ม สักพักนายฟู่ที่นั่งข้างนายหวังตั้งถามคำถามขึ้นมาว่า หากจีนรบกับญี่ปุ่นเพื่อชิงเกาะเตี้ยวอี๋ว์ใครจะเป็นฝ่ายชนะ จากนั้นก็ยืนยันว่าญี่ปุ่นต้องเป็นฝ่ายชนะแน่ นายหวังได้ยินก็โต้กลับทันควันว่าจีนต่างหากที่เป็นฝ่ายชนะ แล้วทั้งสองก็เริ่มโต้เถียงกัน
ราวนาทีกว่าๆ การโต้เถียงของทั้งสองก็ยิ่งเผ็ดร้อนขึ้น นายฟู่เริ่มโมโหคว้าขวดเบียร์เปล่าตบเข้าที่ใบหน้านายหวัง ยังไม่ทันได้ตั้งตัวนายหวังก็ถูกผลักซ้ำลงไปกองบนพื้น ขอบตาซ้ายแตกเลือดไหลเป็นทาง พวกเพื่อนๆของนายฟู่กรูกันเข้ามาเตรียมกระทืบซ้ำ นายหวังเห็นท่าไม่ดี จึงคว้าขวดเบียร์เปล่าบนพื้นขึ้นไว้ในมือก่อนวิ่งหนี แต่นายฟู่ยังไม่ยอมรามือ วิ่งตามมาติดๆ นายหวังเห็นดังนั้นจึงฟาดขวดเบียร์แตก หันปากฉลามเข้าหานายฟู่ที่โถมเข้ามา สักพักช่วงท้องของนายฟู่ก็เต็มไปด้วยเลือด ต่อมานายฟู่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลประชาชนประจำเมืองว่านหนิง หมอและพยาบาลได้ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่เป็นผล นายฟู่เสียชีวิตลงด้วยวัยเพียง 25 ปี
ส่วนนายหวัง หลังแทงนายฟู่เสร็จก็โยนขวดเบียร์แตกทิ้ง แล้วจึงหนีออกจากบาร์ ลัดเลาะไปตามขอบบ่อเลี้ยงปลาของโรงแรมตกปลาซิ่งหลง ไปหลบซ่อนตัวอยู่บนภูเขาด้านหลังโรงแรมฯ หนึ่งคืน
8 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น นายหวังได้ลงจากเขา นั่งรถเมล์ไปยังโรงพยาบาลเวชศาสตร์เชิงบูรณาการว่านเฉิง เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ขณะเดินออกจากโรงพยาบาลเห็นข่าวจึงพึ่งรู้ว่านายฟู่เสียชีวิตด้วยน้ำมือตน ในใจเกิดความหวาดกลัวและสับสน รีบนั่งรถกลับไปยังอำเภอซิ่งหลง ก่อนลงเดินไปตามทางแคบๆเข้าไปเร้นกายบนภูเขาหลังหมู่บ้านต้าโจว
บนเขา นายหวังได้โยนเสื้อตัวเก่าที่เลอะคราบเลือดทิ้ง แล้วนำเสื้อผ้าที่ชาวสวนยางตากไว้มาเปลี่ยน ด้วยความหิวเขาจึงนำผักป่ามาต้มกินโดยใช้ถ้วยรองน้ำยางเป็นพาชนะ ตกค่ำก็ลงเขามาขโมยมะละกอในหมู่บ้านประทังชีวิต กลางคืนก็ต้องนอนในพงหญ้า วันเวลาราวสองอาทิตย์ผ่านไปอย่างทุลักทุเล จนวันหนึ่งนายหวังเห็นจดหมายที่พ่อแม่พี่น้องเขียนถึงตนเข้า ก็ให้นึกเสียใจ ตัดสินใจลงเขามอบตัวกับตำรวจในที่สุด
เจ้าหน้าที่ฯได้พานายหวังไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันที่ 15 ต.ค.และสรุปว่าผู้ตายกับนายหวังเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน และมักไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ด้วยฤทธิ์เหล้า ทำให้ทั้งคู่ขาดสติสัมปชัญญะในการควบคุมตัวเอง จึงเกิดเหตุฆ่ากันตาย โดยการมอบตัวของนายหวังครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ฯได้ใช้วิธีตามประกบครอบครัวนายหวังอย่างใกล้ชิด พร้อมกับเกลี้ยกล่อมให้ร่วมมือกันเขียนจดหมายขอร้องให้ลูกชายเข้ามอบตัว พร้อมบอกเบอร์โทรติดต่อกลับ ก่อนนำไปแจกจ่ายในบริเวณภูเขา จนทำให้นายหวังสำนึกได้ดังกล่าว