xs
xsm
sm
md
lg

อดีตทูตญี่ปุ่นแฉ สัมพันธ์ร้าวจีน-ยุ่น มะกันอยู่เบื้องหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อูเครุ มาโกซากิ (ซ้าย) เผยว่า สหรัฐฯเป็นผู้วางแผนปลดนายยูคิโอะ ฮาโตยามา (กลาง) และนายอิชิโร โอซาวา ออกจากตำแหน่งทางการเมือง (ภาพเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์)
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - อดีตทูตญี่ปุ่นแฉ สหรัฐอเมริกาครอบงำชักใยญี่ปุ่นนับแต่สงครามโลกครั้งที่สองเป็นต้นมา มีการวางแผน "กำจัด" นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นผู้มีแนวนโยบายต้องการสานสัมพันธ์ดีกับปักกิ่ง พร้อมชี้ ปัญหาพิพาทชิงเกาะเตี้ยวอี๋ว์ในทะเลจีนตะวันออกเป็นเพียงยุทธศาสตร์ถ่วงดุลอำนาจจีนของมะกัน

นายอูเครุ มาโกซากิ ผู้เคยนั่งเก้าอี้หัวหน้าคณะมันสมองของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักการวิเคราะห์ฯ แดนซามูไร ได้เขียนหนังสือขึ้นมาเล่มหนึ่ง ขายดิบขายดีติดอันดับหนังสือขายดีที่สุดในญี่ปุ่น

หนังสือนามว่า "เซนโกชิ โนะ โชทาอิ" หรือ ความจริงเบื้องหลังประวัติศาสตร์ยุคหลังสงคราม (The Truth Behind Post-war History) ได้ชี้ว่า สหรัฐฯไม่เคยถอนฐานทัพออกจากอาณาเขตของญี่ปุ่นเลย ไม่ว่าคนญี่ปุ่นจะออกมาประท้วงขับไล่อย่างไรก็ตาม มาโกซากิยังเผยด้วยว่า เขาเชื่อว่ากลุ่มการเมืองในสหรัฐฯ ขณะนี้ต้องการเห็นญี่ปุ่นพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ด้วย

มาโกซากิเผยในกรุงโตเกียว ว่าในหนังสือดังกล่าว เขาได้แบ่งผู้นำญี่ปุ่นออกเป็นสองกลุ่ม คือกลุ่มที่ต้องการผลักดันประเทศให้มีอิสรภาพในการกำหนดนโยบายต่างประเทศ และอีกกลุ่มคือพวกที่เดินตามนโยบายจากอเมริกา "พวกผู้นำกลุ่มแรกไม่เป็นที่ต้องการของรัฐบาลมะกัน และมักจะต้องจรลีออกจากตำแหน่งอย่างรวดเร็ว"

อย่างไรก็ตาม เขาชี้ว่า การขับไล่ฝ่ายตรงข้ามนี้ไม่ได้เป็นผลมาจากวอชิงตันโดยตรง แต่เป็นการแผ่อิทธิพลผ่านนักการเมืองตัวหลัก สื่อมวลชน เจ้าหน้าที่ภาครัฐฯ และผู้บริหารระดับอาวุโสของบริษัทใหญ่ ๆ

โฆษกหญิงสถานทูตสหรัฐฯในกรุงโตเกียว ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข้อกล่าวหาสหรัฐฯ ในหนังสือของมาโกซากิ

เพื่อให้สามารถควบคุมกิจกรรมทางการเมืองของญี่ปุ่นได้ วอชิงตันได้เข้ามาแทรกแซงการทำงานของสื่อมวลชน กระตุ้นพรรคฝ่ายค้าน โน้มน้าวชักนำความเห็นของประชาชน และบางครั้งก็ล้มล้างรัฐบาลโดยการกำจัดสมาชิกสภาฯ คนสำคัญ มาโกซากิกล่าว

นักการเมืองญี่ปุ่นสองคนที่มาโกซากิชี้ว่าเป็นผู้ที่ต้องการเรียกร้องอิสรภาพให้แก่ญี่ปุ่นได้แก่ ยูกิโอะ ฮาโตยามา ผู้ที่นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีไม่ถึงเก้าเดือนและต้องหลุดจากตำแหน่งเมื่อเดือนมิ.ย. 2553 และอีกคนนายอิชิโร โอซาวา ผู้ที่ถูกทำให้ชื่อเสียงพินาศด้วยเรื่องอี้อฉาวทางการเงินและต้องคดีความตามกฎหมาย

มาโกซากิเชื่อว่า หากฮาโตยามายังคงอยู่ในอำนาจ รัฐบาลก็จะไม่สามารถเดินหน้าโครงการเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ได้ จะทำการปิดเตาฯ หลังจากเกิดภัยพิบัติโรงนิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิชิ นอกจากนั้นก็จะไม่ขึ้นภาษีการบริโภคจับจ่ายสินค้า หรือไม่ยอมให้สหรัฐฯระดมอากาศยานมายังโอกินาวาเป็นแน่

ประเด็นต่าง ๆ เหล่านี้ยังเหมารวมไปถึงประเด็นร้อนแรงที่กำลังถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้คือ กรณีพิพาทเกาะเตี้ยวอี๋ว์ หรือเซนกากุระหว่างจีนและญี่ปุ่น ประเด็นการอภิปรายเรื่องเขตการค้าเสรีในแปซิฟิกก็ดี ล้วนแล้วแต่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของมะกันในด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งสิ้น มาโกซากิกล่าว

สหรัฐฯ ได้ไปบอกให้นักการเมืองอย่างมาเอฮารา (รัฐมนตรีด้านนโยบายของชาติ) แสดงปฏิริยาต่อต้านจีน ซึ่งการกระทำดังกล่าวส่งผลดีต่อสหรัฐฯ

ขณะที่สหรัฐฯต้องการเกี่ยวดองผลประโยชน์ทางธุรกิจกับจีน ทว่าอีกด้านหนึ่งก็เดินหน้ายุทธศาสตร์ถ่วงดุลอำนาจทางทะเลโดยอาศัยชาติเพื่อนบ้านจีน ไม่ว่าจะเป็นเกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และญี่ปุ่น ล้วนแล้วแต่ถูกกระตุ้นให้แสดงท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ต่อจีนทั้งสิ้น

"ประเด็นเกาะเซนกากุก็เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์อเมริกา" เขากล่าว

"วันนี้ บางคนในสหรัฐฯ อยากให้ญี่ปุ่นมีนิวเคลียร์เป็นของตัวเอง ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์การถ่วงดุล ไว้เผชิญหน้ากับจีน โดยอาศัยกำลังทหารของญี่ปุ่นเป็นเครื่องมือ"

มาโกซากิทิ้งท้ายว่า "จากมุมมองของจีน นายกโยชิฮิโกะ โนดะ เป็นนายกที่แย่สุด รัฐบาลจีนไม่สามารถไว้วางใจได้ ซึ่งหากเปลี่ยนนายกใหม่ ก็อาจเป็นที่ต้อนรับของรัฐบาลจีนก็เป็นได้"
กำลังโหลดความคิดเห็น