เอเอฟพี/ไชน่าเดลี่--สื่อจีนรายงาน วานนี้ (8 ต.ค.) เกิดเหตุขู่วางระเบิดบนเครื่องบินโดยสารจีน จนต้องลงจอดฉุกเฉิน ไม่นานตำรวจก็สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ในเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง
สำนักข่าวซินหวาอ้างรายงานจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงว่า ชายผู้ต้องสงสัยแซ่หวัง ยอมรับสารภาพว่า ตนเอง “โทรขู่หลอกๆ”
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 17.30 น. เครื่องบินของสายการบินไชน่า เซาท์เทิร์น แอร์ไลน์ ขณะกำลังบินจากอู่หลู่มู่ฉีไปปักกิ่งอยู่นั้น ก็เกิดเหตุขู่วางระเบิด จนทำให้ต้องลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินจงชวนในเมืองหลันโจว มณฑลกานซู่
สำนักข่าวซินหวารายงานอีกว่า เครื่องบินฯ ลำดังกล่าว เป็นเครื่องบินโบอิ่ง 757 เที่ยวบินที่ CZ680 ซึ่งบินมาจากเมืองอิสตันบุลในประเทศตุรกี ผ่านเมืองอูหลู่มู่ฉีในซินเจียง และมีจุดหมายลงจอดที่กรุงปักกิ่ง บรรทุกผู้โดยสาร 186 คน และลูกเรือ 10 คน ภายหลังจากการตรวจสอบนั้น ไม่พบวัตถุต้องสงสัยหรือเหตุระเบิดใดๆ ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. จึงขึ้นบินตามปกติ
ผู้ใช้เน็ตคนหนึ่งที่อ้างว่าเป็นหนึ่งในผู้โดยสารบนเครื่องบินที่เกิดเหตุ เขียนในเว็บไซต์ซีน่า เวยปั๋ว (เว็บบล็อกคล้ายทวิตเตอร์) ว่า ไม่มีคำอธิบายใดๆ ทั้งก่อนและหลังลงจอด “ไม่มีข้อมูลแผนที่บนมือถือเลย ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนั้นกำลังอยู่ที่ไหน” เขากล่าว
ส่วนสาเหตุการขู่วางระเบิดนั้น กำลังอยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนต่อไป
เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนส.ค. โดยเครื่องบินของแอร์ไชน่า ที่มุ่งหน้าสู่มหานครนิวยอร์ค ต้องวกกลับสนามบินนานาชาติกรุงปักกิ่งกะทันหัน หลังได้รับข้อความข่มขู่ แต่พอตรวจสอบในเครื่องฯ กลับไม่พบสิ่งอันตรายใดๆ
ในเดือนเดียวกันนั้นเอง (ส.ค.) เครื่องบินภายในประเทศของสายการบินเซินเจิ้น แอร์ไลน์ ได้รับข้อความขู่วางระเบิดเช่นกัน ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ โดยเขายอมรับสารภาพว่า ประดิษฐ์ระเบิดปลอม เพื่อหยุดเจ้าหนี้ของเขา
เมื่อปีที่ผ่านมา (2554) เคยเกิดเหตุเครื่องบินสายการบินไชน่า ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ บินจากปักกิ่งไปอูหลู่มู่ฉี ต้องลงจอดฉุกเฉิน หลังจากที่ผู้โดยสารคนหนึ่งอ้างว่ามีระเบิดอยู่บนเครื่อง ต่อมาไม่นาน ตำรวจจีนก็สามารถจับกุมผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้โดยสารในเครื่องบินฯ อายุ 27 ปี ส่วนสาเหตุนั้น เธออ้างว่ามีปัญหากับแฟนหนุ่ม และกำลังนั่งเครื่องบินไปซินเจียงเพื่อปรับความเข้าใจกับเขา
ซินเจียงซึ่งเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ มีประชากร 9 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ที่นับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งพวกเขาไม่พอใจการกดขี่ของรัฐบาลจีนมาเป็นเวลานาน
รัฐบาลจีนอ้างว่า จะช่วยนำความเจริญทางเศรษฐกิจและความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ซินเจียง ซึ่งมีพื้นที่ติดกับเอเชียกลาง รวมทั้ง รัฐฯ ยังตำหนิต่อความไม่สงบในพื้นที่ กรณีถือคตินิยมสุดขีด คตินิยมการแยกตัวออกมา และการก่อการร้าย