เอเยนซี่--จากเหตุแผ่นดินไหวสองครั้งซ้อนเมื่อวันที่ 7 ก.ย.จนถึง 12.00 น.ของวันนี้ (8ก.ย.)นับแรงสั่นสะเทือนได้ 182 ครั้ง และมียอดผู้เสียชีวิตล่าสุด 89 คน บาดเจ็บ 795 คน และกว่า 740,000 คนได้รับความเดือดร้อน
จากเหตุแผ่นดินไหวซ้อนสองครั้งเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ในระดับ 5.7 ริกเตอร์และ 5.6 ริกเตอร์ ที่บริเวณอำเภออี๋เหลียง เมืองเจาทง ในมณฑลอวิ๋นหนัน และเขตปี้เจี๋ย มณฑลกุ้ยโจว โดยมีจุดกำเนิดแรงสั่นสะเทือนลึกลงไปจากพื้นดิน 14 กม.และ 10 กม. ตามลำดับ โดยนับแต่เกิดเหตุแผ่นดินไหวจนถึงขณะนี้ (8 ก.ย.)ยังคงมีแรงสั่นสะเทือนประปราย ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 89 คน บาดเจ็บ 795 คน และกว่า 740,000 คนได้รับความเดือดร้อน
โดยขณะนี้หน่วยงานบรรเทาภัยพิบัติของจีนหลายหน่วยงานได้ร่วมมือร่วมใจกันในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอาทิ เจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมสุนัขกู้ภัยและรถกู้ภัย เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ พยาบาล เป็นจำนวนมากได้ลงพื้นที่ และกำลังดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ตามที่ลาดเขาสูงชัน ถนนถูกตัดขาด ประชาชนบางส่วนยังไม่ได้อพยพไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
หัวหน้าสำนักแผ่นดินไหวประจำมณฑลยูนนานวิเคราะห์ว่าสาเหตุที่ทำให้แผ่นดินไหว 5.7 ริกเตอร์ในครั้งนี้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากเนื่องมาจาก ความหนาแน่นของผู้อยู่อาศัยในเขตประสบภัยโดยเฉลี่ยมีถึง 205 คน/ตรกม.ในขณะที่ความหนาแน่นประชากรโดยเฉลี่ยของมณฑลยูนนานอยู่ที่ 117 คน/ตรกม. ซึ่งเขตประสบภัยมีมากกว่าเกือบ 2 เท่า อีกทั้งชาวบ้านส่วนใหญ่มีฐานะยากจน บ้านเรือนไม่ได้ถูกสร้างให้มีโครงสร้างที่รองรับต่อสภาพแผ่นดินไหว ประกอบกับภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงชัน ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดความเสียหายเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรณีวิทยา และที่สำคัญความลึกของจุดกำเนิดแรงสั่นสะเทือนทั้งสองครั้งนี้อยู่ที่ประมาณ 10-14 กม.ซึ่งเป็นความลึกที่ลึกจากพื้นดินไม่มาก จึงก่อให้เกิดความเสียหายได้มากกว่า
ประมวลภาพในเหตุการณ์แผ่นดินไหวสองครั้งซ้อนที่มณฑลยูนนานและกุ้ยโจว (ภาพ-เอเยนซี่)