เอเยนซี - ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา และบรรดาผู้นำจีนต่างออกมาเรียกร้องให้ความสำคัญกับความช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ในพื้นที่ตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 67 คน
รายงานข่าวกล่าวว่า ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างเดินทางไปประชุมเอเปก ที่กรุงวลาดิวอสต็อก ประเทศรัสเซีย ได้ออกแถลงการณ์ย้ำให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกหน่วยเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯ ในพื้นที่แผ่นดินไหว ขณะที่ผู้นำคนอื่นๆ อาทิ นายอู๋ ปังกว๋อ ประธานสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ นายเวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรี นายหุย เหลียงอี้ว์ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ. กัว โป๋สุง รองประธานคณะกรรมาธิการทหารแห่งรัฐ
ในการประชุมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยนั้น นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่า ย้ำหนักแน่นให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ในทุกวิถีทางทั้งค้นหาผู้สูญหาย และรักษาผู้บาดเจ็บ รวมทั้งฟื้นคืนสภาพบ้านเรือน และระบบสาธารณูปโภค น้ำดื่มสะอาด อาหาร เสื้อผ้า และที่พักอาศัยชั่วคราว
เว็บไซต์ศูนย์แผ่นดินไหวแห่งชาติ รายงานเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ว่า เกิดเหตุแผ่นดินไหวสองครั้งซ้อน โดยครั้งแรกมีความรุนแรงระดับ 5.7 ริกเตอร์ บริเวณอำเภออี๋เหลียง เมืองเจาทง ในมณฑลอวิ๋นหนัน และเขตปกครองตนเองชนชาติแม้ว ชนชาติหุย ชนชาติอี๋ เสียนหนิง เขตปี้เจี๋ย มณฑลกุ้ยโจว จุดกำเนิดแรงสั่นสะเทือนลึกลงไป 14 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนนี้ยังกระทบไปถึงเมืองเฉิงตูในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เมืองฉงชิ่ง และมณฑลก่วงซี (กวางสี) ต่อมาในเวลา 12.16 น. เกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.6 ริกเตอร์ ศูนย์กลางแผ่นดินไหวห่างจากอำเภออี๋เหลียง เมืองเจาทงของอวิ๋นหนันไปราว 15 กิโลเมตร มีจุดกำเนิดแรงสั่นสะเทือนลึกลงไปเพียง 10 กิโลเมตร โดยมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 67 คน บาดเจ็บอีกกว่า 715 คน บ้านเสียหายกว่า 20,000 หลัง มีประชาชนกว่า 7 แสน ได้รับความเดือนร้อน
ทั้งนี้ บริเวณภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เป็นพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวได้ โดยเมื่อเดือนพ.ค. 2551 เกิดแผ่นดินไหวระดับ 8.0 ริกเตอร์ในมณฑลซื่อชวน และบางส่วนของมณฑลซ่านซีและกานซู่ คร่าชีวิตผู้คนไปถึงหมื่นกว่าคน เกิดความเสียหายอย่างหนักในพื้นที่