วิกฤต “การศึกษา” จ่อคอหอยพ่อเมืองฮ่องกง ยกเลิกไปซัมมิตเอเปค

เหลียง เจิ้นอิง ผู้บริหารสูงสุดแห่งเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ยกเลิกเข้าร่วมการประชุมสุกยอดเอเปก เป็นครั้งแรกนับจากฮ่องกงคืนสู่การปกครองจีน ที่พ่อเมืองฮ่องกงไม่ไปเข้าร่วมประชุมเอเปก (ภาพ เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์)

เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์--ผู้บริหารสูงสุดแห่งฮ่องกง เหลียง เจิ้นอิง ยกเลิกการเดินทางเข้าร่วมการประชุมสุดยอดกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปค ซึ่งจัดขึ้นที่รัสเซีย เพราะต้องอยู่โยงคอยรับมือวิกฤตปัญหาแปดด้านในบ้าน ที่ล้อมกรอบจ่อคอหอยเขาอยู่ในขณะนี้

ความขัดแย้งในบ้านที่น่าวิตกมากสุด ที่เหลียง เจิ้นอิง (Leung Chun-ying) ต้องคลี่คลายมิให้เกิดศึกวุ่นวาย คือ การชุมนุมต่อต้านหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ นอกจากนี้ พ่อเมืองฮ่องกงยังต้องตัดสินใจแผนจำกัดการซื้อขายบ้านหลังใหม่ในฮ่องกง อีกทั้งคอยรับมือกับคลื่นผู้มาเยือนจากแผ่นดินใหญ่ ที่ส่อเค้าหลั่งไหลเข้ามายังดินแดนหลังจากที่ 6 เมืองในแผ่นดินใหญ่ประกาศผ่อนปรนกฏข้อบังคับการเดินทางไปยังฮ่องกงแก่ประชาชนของตน

การยกเลิกเดินทางไปประชุมสุดยอดเอเปคนี้ เกิดขึ้นเพียง 9 ชั่วโมง ก่อนกำหนดการเดินทางฯ ซึ่งตามกำหนดเหลียงจะบินไปเมืองวลาดิวอสต็อกในคืนวานนี้(5 ก.ย.) เป็นครั้งแรกนับจากปีที่ฮ่องกงคืนสู่การปกครองจีน ที่ผู้บริหารสูงสุดแห่งเขตปกครองพิเศษฮ่องกงไม่ได้เข้าร่วมการประชุมเอเปค เหลียง ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการคลัง นาย John Tsang Chun-wah (ชื่อจีนกลาง เจิง จวิ้นหวา) จะไปเข้าร่วมประชุมฯแทน

การตัดสินใจของเหลียง เกิดขึ้นเมื่อ นาง Anna Wu Hung-yuk (ชื่อจีนกลาง หู หงอี้ว์ ) ประธานคณะกรรมการปฏิบัติงานการศึกษาและจริยธรรมแห่งชาติ ออกมากล่าวว่าคณะปฏิบัติงานฯกำลังพิจารณาทางเลือกในการแก้ไขวิกฤตการศึกษาแห่งชาติ โดยรวมถึงการล้มเลิกหลักสูตรตำราที่จุดชนวนขัดแย้งฯ

ทั้งนี้ กลุ่มต่อต้านการศึกษาแห่งชาติในฮ่องกง ได้แก่ นักวิชาการ อาจารย์ นักเรียน นักศึกษา พ่อแม่ ฯลฯ กำลังประท้วงกันหลังชนฝา และมีแผนบอยคอตไม่เฃ้าห้องเรียนกันทั้งเกาะในสัปดาห์หน้า เพื่อบีบให้รัฐบาลล้มเลิกหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งได้กำหนดตำราเรียนอบรมความรักชาติ ซึ่งพวกเขาชี้ว่าเป็นวิธีการยัดเยีอด ล้างสมอง โดยในวันเปิดเทอมเมื่อวันจันทร์(3 ก.ย.) เป็นวันเริ่มต้น “ช่วงเกริ่นนำ” ของหลักสูตรฯ ซึ่งจะกำหนดเป็นวิชาบังคับในโรงเรียนประถมและมัธยมปี 2558 และ 2559 ตามลำดับ
เด็กน้อยคนหนึ่งที่พ่อแม่ชาวฮ่องกงพามาเข้าร่วมประท้วงหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มประท้วงฯชี้ หลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งกำหนดตำราที่มีเนื้อหาอบรมความรักชาติแบบโฆษณาชวนเชื่อ เป็นการล้างสมอง เด็กๆ และแผ่อิทธิพลริดรอนเสรีภาพของชาวฮ่องกง (แฟ้มภาพ เอเจนซี)

เด็กน้อยคนหนึ่งที่พ่อแม่ชาวฮ่องกงพามาเข้าร่วมประท้วงหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมา กลุ่มประท้วงฯชี้ หลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งกำหนดตำราที่มีเนื้อหาอบรมความรักชาติแบบโฆษณาชวนเชื่อ เป็นการล้างสมอง เด็กๆ และแผ่อิทธิพลริดรอนเสรีภาพของชาวฮ่องกง (แฟ้มภาพ เอเจนซี)

แหล่งข่าวรัฐบาลฮ่องกงเผยว่า เหลียงยกเลิกเดินทางไปประชุมเอเปค เพื่อที่จะติดตามวิกฤตต่อต้านโครงการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งดูจะบานปลาย นอกจากนี้ เหลียงยังยุ่งมากกับการระบุรายละเอียดในโครงการที่พักอาศัยของพลเมืองฮ่องกง ซึ่งจะระบุห้ามกลุ่มที่ไม่ใช่คนท้องถิ่น (non-locals) ซื้อบ้านหลังใหม่ที่เขตที่กำหนด โดยแผนการนี้เป็นหนึ่งในมาตรการสิบชุด ที่รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสฯ(30 ส.ค.) เพื่อเพลาความร้อนแรงในตลาดอสังหาริมทรัพย์

Michael Choi Ngai-min ที่ปรึกษาด้านที่อยู่อาศัยคนสำคัญคนหนึ่งของเหลียน เผยว่า มาตรการลดความร้อนในตลาดอสังหาฯนี้ จะมีผลบังคับใช้ใน 1 หรือ 2 เขต จากเขตต่างๆทั้งหมด 6 เขตที่จะมีการประมูลซื้อขายบ้านระหว่างเดือนต.ค.-ธ.ค.นี้

นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่ถั่งโหมเข้ามาอีก สืบเนื่องจากเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลท้องถิ่นเซินเจิ้นได้เสนอออกหนังสืออนุญาตการเดินทางข้ามดินแดนแบบมากกว่าหนึ่งครั้ง (multiple-visit permits) ไปยังฮ่องกง ให้แก่กลุ่มผู้อาศัยชั่วคราว 4.1 ล้านคนในเซินเจิ้น โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันเสาร์ที่แล้ว(1 ก.ย.) นอกจากนี้ ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ ฉงชิ่ง และกว่างตง ก็ผ่อนปรนกฎฯหนังสือเดินทางแบบเที่ยวเดียว (single-entry permits) ไปยังฮ่องกง การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างความไม่พอใจแก่ชาวฮ่องกง ที่กลัวชาวแผ่นดินใหญ่จะแห่กันเข้ามาแย่งใช้สาธารณูปโภคของดินแดน

เหลียงประกาศเมื่อวันศุกร์(31 ส.ค.) ในช่วง 21 วันนี้จะไม่มีการอนุมัติหนังสือเข้าเมืองประชาชนจาก 6 เมืองที่ผ่อนปรนกฎฯดังกล่าว แหล่งข่าวเผยว่า “เหลียงจะต้องตัดสินใจทั้งแผนลดความร้อนในอสังหาริมทรัพย์และแผนอนุมัติหนังสือเดินทางฯในสองวันนี้”

“หากเขาไม่ถอนหลักสูตรการศึกษาแห่งชาติ เขาจะอยู่ในฮ่องกงได้อีกหรือ?” ผู้สังเกตุการณ์