"เธอ" อาจจะไม่ได้มีความสามารถทางการแสดงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เทียบชั้น จาง มั่นอี้ว์ ไม่ได้มีพรสวรรค์ที่จะแสดงได้ทั้งบทชาย-หญิงเหมือน หลิน ชิงเสีย ไม่ได้เก่งรอบด้านเหมือนเหมย เยี่ยนฟัง อีกทั้งไม่ได้มีไหวพริบในการแสดงเท่า หวัง จู่เสียน แต่เธอยังคงอยู่ในความทรงจำของแฟนหนังฮ่องกงไม่เสื่อมคลาย เธอผู้นี้ มีชื่อว่า "จางหมิ่น"
จางหมิ่น หรือ จางเหมี่ยน ดาราฮ่องกงที่ชาวไทยเรียกขาน พื้นเพเดิมมาจากเมืองเซี่ยงไฮ้ เริ่มเข้าวงการเมื่อปี พ.ศ.2530 จากการเป็นนักแสดงฝึกหัดค่าย ATV ฮ่องกง เข้าประกวดมิสเอเชียจนไปเข้าตาผู้กำกับใหญ่นักปั้นดารา หวังจิง จากนั้นเซ็นสัญญาเข้าสังกัดบริษัทผลิตภาพยนตร์หย่งเซิ่ง(Win's Entertainment) แสดงภาพยนตร์เรื่อง Magic Crystal ประกบหลิว เต๋อหัว อู๋ ม่งต๊ะ และ ดาราเด็ก เสี่ยว ปินปิน ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความสำเร็จพอสมควร แต่ที่ทำให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นนางเอกแถวหน้าของวงการอย่างแท้จริงคือการร่วมงานกับซูเปอร์สตาร์ฮ่องกง โจว เหวินฟะ ในภาพยนตร์หักเหลี่ยมนักพนันอันเป็นตำนานอย่าง God of Gamblers หรือคนตัดคน ปี พ.ศ.2532 นอกจากนั้นในปีเดียวกัน เธอยังได้แสดงละครค่าย ATV คู่กับ เจิ้ง เส้าชิว ในผลงานเรื่อง Storm in Shanghai ด้วย
ตัวอย่างภาพยนตร์เรื่อง "คนตัดเซียน"
ทศวรรษที่ 90 อาจเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของจางหมิ่น เธอมีผลงานร่วมกับนักแสดงหนุ่มแถวหน้าในยุคนั้นมาแล้วแทบทุกคน ไม่ว่าจะเป็น โจว ซิงฉือ, หลิว เต๋อหัว, โจว เหวินฟะ, เคนนี บีโดยเฉพาะ โจว ซิงฉือ ที่ในช่วงปี พ.ศ.2531 - 2537 แทบจะเรียกได้ว่า จางหมิ่นผูกขาดบทนางเอกของคิงออฟคอมิดี้ผู้นี้ ติดกันนับ 10 เรื่อง ส่งผลให้ทั้งสองตกเป็นข่าวซุบซิบว่ามีความสัมพันธ์กันเกินเพื่อนร่วมงาน โดยผลงานอันเป็นที่รู้จักมีอาทิ God of Gamblers II (คนตัดคน2 ปี 2533), All for the Winner(คนตัดเซียน ปี 2533), Fist of Fury (คนเล็กต้องใหญ่ ปี2534), Fight Back to School (คนเล็กนักเรียนโต ปี 2534), Royal Tramp(อุ้ยเสี่ยวป้อ จอมยุทธเย้ยยุทธจักร ปี 2535), King of Beggars(ยาจกซู ไม้เท้าประกาศิต ปี 2535) เป็นต้น
จางหมิ่น มักจะได้บทนำในหนังแอ็กชั่นหรือกำลังภายในอย่างเช่นในเรื่อง SWORDSMAN (เดชคัมภีร์เทวดา ปี 2533) ที่มีแซมฮุย จาง เสวียโหย่ว และ เยี่ยถง ร่วมนำแสดง ต่อด้วย Handsome Siblings (เซียวฮื่อยี้ กระบี่ไม่มีคำตอบ ปี 2535) ที่แสดงกับหลิว เต๋อหัว รวมทั้ง Kung Fu Cult Master (ดาบมังกรหยก ปี 2536) คู่กับ เจ็ท ลี เป็นต้น
นอกจากนั้นเธอยังถือว่าได้รับการจดจำเป็นพิเศษกับหนังแนว “นักพนัน” ทั้ง “คนตัดคน” และ “คนตัดเซียน” ที่ชื่อ “ฉีม่ง” ของตัวละครที่เธอแสดงเอาไว้ในเรื่องหลัง ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของแฟนๆ หลายคนจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้เธอยังเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมเวที Hongkong Film Festival ครั้งที่ 11 จากภาพยนตร์เรื่อง Dances with Dragon (มังกรขันจอหว่อ ปี 2534) ที่แสดงคู่กับพระเอกตลอดกาล หลิว เต๋อหัว อีกด้วย
หลังจากเสร็จภารกิจในงานแสดงภาพยนตร์เรื่อง Ten Brothers (10 คนมหัศจรรย์ )เมื่อปี พ.ศ.2538 จางหมิ่นประกาศถอนตัวออกจากวงการบันเทิง เนื่องจากปัญหารุมเร้าทั้งเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว โดยว่ากันว่า ในช่วงนั้นหลังจากที่เธอเดินออกจากชายคาของอาณาจักรหย่งเซิ่ง ได้ร่วมลงทุนสร้างภาพยนตร์เรื่อง Dream Lover กับเพื่อนรักในวงการอย่าง เหลียง เจียฮุย และ อู๋ เชี่ยนเหลียน ทว่าหนังยังไม่ทันฉายกลับเกิดความขัดแย้งขึ้นในหมู่เพื่อน ทำให้เหลียง เจียฮุยถอนตัวกลางคัน ส่วนหนังก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จาง หมิ่น สูญเงินไปกับการทำหนังครั้งนั้นร่วม 10 ล้านเหรียญฮ่องกง และค่อยมาถอนทุนคืนได้เล็กน้อยจาก Romantic Dream หนังเรื่องต่อมาที่เธอรั้งตำแหน่งโปรดิวเซอร์และแสดงนำเอง
เมื่อออกจากวงการ เธอหันไปทุ่มเทให้กับธุรกิจเสื้อผ้า ธุรกิจด้านความสวยความงาม และอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มที่ ทว่าโชคไม่เข้าข้าง ธุรกิจไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร บางสาขาขาดทุนจนต้องปิดกิจการ ปี พ.ศ.2546 เธอหวนคืนวงการบันเทิงด้วยการเซ็นสัญญากับ จิ่วโจวย่าหัว บริษัทเอเยนซีดูแลศิลปินในจีนแผ่นดินใหญ่ รับแสดงละครชุด 2 ชิ้นและโฆษณาอีกจำนวนหนึ่ง ต่อมา ปี พ.ศ.2549 จางหมิ่นกลับมาในฐานะผู้อำนวยการสร้างซีรีย์ทางโทรทัศน์เรื่อง BIG SHOT ของซีซีทีวีจีน มี ดาราดาวรุ่งฮ่องกง เซี่ย ถิงเฟิง แสดงนำ อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นเป็นต้นมาข่าวคราวของเธอเงียบหายไปจากวงการบันเทิงอีกครั้ง จนกระทั่งล่าสุดเพิ่งจะมีภาพของเธอตีพิมพ์ในสื่อเล่มหนึ่ง ระบุว่าถ่ายที่กรุงปักกิ่ง โดยจางหมิ่น อดีตดาราสุดสวยในวัย 45 ปี ยังคงดูสวยสมวัย และแต่งตัวมีสไตล์เหมือนเดิม
ในด้านชีวิตส่วนตัว จางหมิ่น เป็นนักแสดงที่ไม่ขยันเป็นข่าว ข่าวลือที่ค่อนข้างโด่งดังของเธอ นอกจากปั๊ปปี้เลิฟกับ คิงออฟคอมาดี้ โจว ซิงฉือ ก็มีเพียงเรื่องราวความรักของเธอ กับ เซี่ยง หัวเซิ่ง นักธุรกิจมาเฟียเจ้าของธุรกิจภาพยนตร์แห่งอาณาจักรหย่งเซิ่ง ผู้สยายปีกปกคลุมวงการบันเทิงฮ่องกง ณ เวลานั้น ซึ่งสื่อจีนวิเคราะห์ว่าสาเหตุหนึ่งที่จางหมิ่นเป็นดาราที่ไม่ค่อยมีข่าวทางลบก็เพราะมีผู้ทรงอิทธิพลอย่างเซี่ยง หัวเซิ่ง หนุนหลังอยู่นั่นเอง อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเป็นที่รู้กันในวงการ แต่ทั้งสองก็ไม่เคยออกมายืนยันข่าวลือดังกล่าว ยิ่งไปกว่านั้นฝ่ายชายยังมีภรรยาอยู่แล้ว และแม้ว่าภายหลังเขาจะหย่าขาดจากภรรยาแต่ก็ไม่ได้มาลงเอยกับนักแสดงสาวผู้นี้แต่อย่างใด ล่าสุดหลังการปรากฏตัวในวัย 45 ปีที่ยังสาวสะพรั่ง สื่อจีนรายงานว่า จาง หมิ่น วางแผนที่จะเข้าพิธีวิวาห์กับ หลิว หย่งฮุย ผู้จัดการดารา ที่คบหาเป็นแฟนกันมานานหลายปี ในปี 2556 นี้
ผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์ฮ่องกงให้ความเห็นว่า จางหมิ่นอาจจะไม่ได้มีความสามารถทางการแสดงโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เทียบชั้น จาง มั่นอี้ว์ ไม่ได้มีพรสวรรค์ที่จะแสดงได้ทั้งบทชาย-หญิงเหมือน หลิน ชิงเสีย ไม่ได้เก่งรอบด้านเหมือนเหมย เยี่ยนฟัง อีกทั้งไม่ได้มีไหวพริบในการแสดงเท่า หวัง จู่เสียน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า จาง หมิ่น มีความงามที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ เธอคือตำนานที่น่าจดจำอีกบทหนึ่งแห่งฟ้าบันเทิงฮ่องกง