ฮิลลารี คลินตัน เยือนจีน หวังลดความตึงเครียดทะเลจีนใต้

เอเยนซี - นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เดินทางถึงกรุงปักกิ่ง เมื่อวันอังคาร (4 ก.ย.) เพื่อลดบรรยากาศความตึงเครียดในความสัมพันธ์กรณีที่สหรัฐฯ เข้าไปเกี่ยวข้องกับพื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้ และยังเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาคดังกล่าว

รายงานข่าวได้เผยคำแถลงของนางคลินตัน ที่กล่าวเน้นย้ำความสัมพันธ์ในการมาเยือนครั้งนี้ ว่ามีความเชื่อมั่นต่อความสัมพันธ์ของสหรัฐฯ กับจีน และจะแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งส่วนที่เห็นพ้องและที่ขัดแย้งกันด้วยท่าทีที่เปิดกว้าง สร้างสรรค์และยั่งยืนต่ออนาคต

ด้านสื่อจีนหลายแห่ง ต่างมองว่าการเดินทางมาของนางคลินตัน ว่า ขณะที่จีนกำลังมีความตึงเครียดกับญี่ปุ่น และบรรดาชาติในอาเซียน สหรัฐฯ ก็กำลังมองหาโอกาสในการเข้ามาเกี่ยวข้องกับพื้นที่นี้อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ หมู่เกาะเตี่ยวอิ๋ว์ หรืออีกชื่อหนึ่งในภาษาญี่ปุ่นว่า เซนกากุ เป็นพื้นที่พิพาทที่สร้างความขัดแย้งกับจีนและญี่ปุ่น ที่ต่างกล่าวอ้างสิทธิในพื้นที่ดังกล่าว โดยล่าสุดสื่อญี่ปุ่นได้รายงานเมื่อวันที่ 5 ก.ย. อ้างแหล่งข่าวภายในรัฐบาลว่า โตเกียวเตรียมลงนามในสัญญาซื้อหมู่เกาะเซ็งกากุหรือเตี้ยวอี๋ว์จากเอกชนชาวญี่ปุ่นที่ถือครองกรรมสิทธิ์อยู่ เป็นเงินถึง 2,050 ล้านเยน (ราว 816 ล้านบาท) แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่ในรัฐบาลญี่ปุ่นออกมายืนยันรายงานดังกล่าว

ด้านเจ้าหน้าที่อาวุโสของสหรัฐฯ กล่าวว่า รองประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ได้ยกเลิกกำหนดการพบปะกับนางฮิลลารี่ คลินตันด้วย เช่นเดียวกับที่ได้ยกเลิกหมายกำหนดการกับนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ก่อนหน้านี้

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นางคลินตัน ได้เรียกร้องให้จีนและชาติอาเซียน เร่งหาข้อยุติร่วมกับความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ โดยหลีกเลี่ยงการใช้กำลังทางทหารและความร้าวฉานต่างๆ

ขณะที่ หง เล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวแนะว่าสหรัฐฯ ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับข้อขัดแย้งของจีน กับชาติในอาเซียน พร้อมกับกล่าวว่าการพบปะกับประธานาธิบดีหู จิ่นเทา และหยัง เจี๋ยฉือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน รวมทั้งผู้นำคนอื่นๆ อาจจะยังไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนัก แต่ทั้งนี้การมาพบปะครั้งนี้ ก็ยังมีกิจการต่างประเทศอีกหลายกรณี ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการความร่วมมือจากจีน อาทิ ปัญหาของเกาหลีเหนือ และโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน รวมถึงวิกฤติในซีเรีย