สำหรับยุค 80s ทศวรรษที่ธุรกิจบันเทิงฮ่องกงรุ่งเรืองถึงขีดสุด หากจะเอ่ยถึงนางเอกสักคนที่เป็นเอกลักษณ์ของวงการบันเทิงยุคนั้น เชื่อแน่ว่าต้องมีชื่อของเธอผู้นี้ "จง ฉู่หง" อดีตมิสฮ่องกงและนักแสดงชื่อดังรวมอยู่ด้วย ผลงานหลายต่อหลายชิ้นของเธอในอดีตนั้น ปัจจุบันขึ้นหิ้งกลายเป็นผลงานคลาสสิกที่คอหนังฮ่องกงตัวจริงต้องมีสะสมอยู่ในคอลเลคชั่น
จง ฉู่หง(Cherie Chung) เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2503 ที่เกาะฮ่องกง บรรพบุรุษเดิมเป็นชาวก่วงตง(กวางตุ้ง) เธอมีน้องสาวอีก 2 คน ครอบครัวทำธุรกิจร้านขายเครื่องแต่งกายสตรี ในฐานะลูกตนโต จง ฉู่หงจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยบิดาดูแลบัญชีของร้านตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยจนกระทั่งโตเป็นสาว หลังจากที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสตรีเธอเคยทำงานเป็นพนักงานร้านเพชร
ปี พ.ศ. 2522 ภายใต้การสนับสนุนของมารดา จง ฉู่หง เข้าประกวดมิสฮ่องกง ซึ่งเธอจัดว่าเป็นผู้เข้าประกวดที่หน้าตาโดดเด่นเป็นที่จับตามองอย่างมากในปีนั้น ทว่าในท้ายที่สุดกลับไม่ได้ตำแหน่งนางงามติดไม้ติดมือจากการประกวดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จง ฉู่หง ยังได้รับคำชื่นชมจากสื่อมวลชนว่าเป็นนางงามฮ่องกงที่สวยที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์การประกวดเลยทีเดียว
ภายหลังพลาดหวังจากเวทีนางงาม จง ฉู่หง มีโอกาสเทสต์หน้ากล้องกับทีวีบีทว่าไม่ผ่านการคัดเลือก แต่การตกรอบครั้งนั้นถือว่าเป็นโชคดี เพราะบุคลิกอ่อนหวานใสซื่อไม่ปรุงแต่งของเธอไปเข้าตา หลิว ซงเหริน(หลิวสงเหยิน) นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกงผู้รงอิทธิพลแห่งยุค จง ฉู่หง ถูกชักนำเข้าสู่โลกเซลลูลอยด์ ประเดิมบทนางเอกในภาพยนตร์เรื่อง กระบี่สะท้านฟ้า (The Enigmatic Case) ปี พ.ศ. 2523 ซึ่งเป็นงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของผู้กำกับชื่อก้อง ตู้ ฉีเฟิง(ตู้ฉีฟง) จากนั้นความสามารถทางด้านการแสดงของนางเอกใหม่เริ่มเป็นที่ประจักษ์ในวงการเมื่อ ปี พ.ศ. 2525 จงฉู่หงแสดงนำคู่กับ โจวเหวินฟะ ในภาพยนตร์คุณภาพเรื่อง โหดเด็ดเดี่ยว (The Story Of Woo Viet) ของผู้กำกับหญิงมือรางวัล แอน ฮุย
จง ฉู่หง ถือเป็นนางเอกที่ดังที่สุดคนหนึ่งในยุคทองของอุตสาหกรรมบันเทิงฮ่องกง ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 4 ผู้หญิงแถวหน้าของวงการร่วมกับ หลิน ชิงสยา, จัง มั่นอี้ว์ และ เหมย เยี่ยนฟัง เสน่ห์ของ จง ฉู่หง ปรากฏผ่านจอภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ด้วยความงามอย่างเป็นธรรมชาติแฝงกลิ่นไอของความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เรือนผมหยักศกดำขลับ ประกอบกับใบหน้าสะสวย จริงใจ อ่อนน้อม และอุปนิสัยไม่ชอบชิงดีชิงเด่น แม้ว่าเธอจะไม่ตั้งใจ แต่ความเซ็กซี่ของเธอมักจะออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้เธอได้รับฉายาว่าเป็น "เทพธิดาผู้เย้ายวน"
คลิปตัวอย่าง An Autumn's Tale หรือ ดอกไม้กับนายกระจอก ปีพ.ศ.2530 ที่ขึ้นหิ้งกลายเป็นภาพยนตร์ฮ่องกงสุดโรแมนติก
ไม่เพียงหน้าตาสะสวย ผลงานการแสดงของนางเอกคนนี้เรียกได้ว่าเปี่ยมคุณภาพ จง ฉู่หงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสูงสุดด้านการแสดงอย่างฮ่องกง ฟิล์ม อวอดส์ และ ม้าทองคำไต้หวัน รวมทั้งสิ้น 6 ครั้ง โดยในยุคนั้นถึงกับมีคำกล่าวที่ว่า "ดังยังไงก็ดังไม่สู้จง ฉู่หง เด่นยังไงก็เด่นไม่เท่าโจวเหวินฟะ" โดยหลังจาก โหดเด็ดเดี่ยว ทั้งคู่แสดงภาพยนตร์ร่วมกันอีกหลายเรื่อง ที่คนไทยรู้จักดี อาทิ ดอกไม้กับนายกระจอก(An Autumn's Tale) ปี พ.ศ.2530 ที่ขึ้นหิ้งกลายเป็นภาพยนตร์ฮ่องกงสุดโรแมนติกในดวงใจใครหลายคน, ภาพยนตร์โรแมนติกคอมาดี้ ตุ้งติ้งตี๋ต๋า(The Eighth Happiness) ปี พ.ศ.2531, ภาพยนตร์โรแมนติกสยองขวัญ เจ้าสาวโปเย(Spirtual Love )ในปีเดียวกัน, ภาพยนตร์แอกชั่น คนตัดเหลี่ยมคม(Wild Search) พ.ศ.2532 หรือ ตีแสกตะวัน(Once a Thief) ที่รับบทนำร่วมกับโจวเหวินฟะ และ เลสลี จาง เมื่อ ปี พ.ศ.2534 และมีผลงานเด่นอื่นๆ อย่าง เผ็ด สวย ดุ ณ เปไก๋(Peking Opera Blues) ที่แสดงนำร่วมกับหลิน ชิงสยา ทั้งนี้ จง ฉู่ หง แสดงภาพยนตร์ไปทั้งสิ้นราว 60 เรื่อง ตลอดระยะเวลา 11 ปีในวงการ
นอกจากนี้ ในช่วงที่อุตสาหกรรมหนังเกรดสามฮ่องกงเฟื่องฟู จง ฉู่หง เป็นนางเอกอีกคนหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธกระแสธารอันเชี่ยวกราก หลายคนอาจไม่ทราบว่าในยุคแรกที่เพิ่งเข้าวงการ เธอเคยต้องรับบทนำในภาพยนตร์เกรดสามโชว์เนื้อหนังเรื่อง May Be Its Love คู่กับทัง เจิ้นเยี่ย เมื่อปี พ.ศ. 2527 ด้วย
ด้านอุปนิสัยส่วนตัว ผู้คนในแวดวงบันเทิงล้วนลงความเห็นว่า นางเอกคนนี้เป็นคนตรงๆ ง่ายๆ ไม่เสแสร้ง หากชื่นชมใครเธอจะเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่หากไม่ ก็จะทำตัวเฉยๆ นอกจากนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าดาราสาวฮ่องกงยุคนั้นมักจะมีมหาเศรษฐีมายื่นข้อเสนอขอคบหา และน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะไม่มีข่าวฉาว ซึ่ง จง ฉู่หง จัดเป็นนางเอกส่วนน้อยที่ว่า
พ.ศ. 2534 คือปีสุดท้ายนางเอกแถวหน้าแห่งฮ่องกงผู้นี้โลดแล่นในวงการ เธอทิ้งผลงานชิ้นเอกอย่าง ตีแสกตะวัน เอาไว้ให้แฟนๆ ชื่นชม จากนั้น วันที่ 10 ธ.ค. นางเอกสาวเข้าพิธีวิวาห์กับเจ้าพ่อวงการโฆษณา จู จยาติ่ง(Mike Chu Ka-Ting) ณ โรด ไอส์แลนด์ สหรัฐอเมริกา โดยทั้งคู่เห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่มีบุตร พ.ศ.2537 จง ฉู่หง ออกจากวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการเพื่อไปทำหน้าที่ภรรยาเต็มตัวและทำงานทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปด้วย
ทว่าชีวิตคนมักมีเรื่องไม่คาดฝัน จู จยาติ่ง คู่ชีวิตของอดีตนางเอกสาวชื่อก้องจากไปด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อเดือนสิงหาคม ของปี พ.ศ.2550 ความเสียใจจากการสูญเสียทำให้จง ฉู่หง หันไปพึ่งศาสนา และเข้าเป็นคริสตศาสนิกชนเต็มตัว จากนั้น 2 ปีให้หลัง เมื่อสภาพจิตใจดีขึ้น เธอเริ่มกลับเข้ามาในวงการบันเทิงที่คุ้นเคยอีกครั้ง ด้วยการรับงานโฆษณา และเป็นพรีเซนเตอร์พิเศษของสินค้า ซึ่งด้วยความที่นานๆ จะออกมาพบปะผู้คน ทำให้ทุกครั้งที่เธอปรากฏกายผ่านสื่อ จึงสร้างความฮือฮาได้เสมอ เพราะแม้ว่าอดีตนางเอกแถวหน้าคนนี้จะมีอายุเข้าเลขห้าแล้ว แต่ความเป็นศิลปินที่ยังคงเปล่งประกายในตัวเธอ และผลงานคุณภาพที่เธอสร้างสรรค์เอาไว้ยังไม่เคยเลือนหายไปจากใจของแฟนๆ
ประวัติ
ชื่อจีน: จง ฉู่หง(钟楚红)
ชื่ออังกฤษ: Cherie Chung
วันเดือนปีเกิด: 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2503
ราศี : กุมภ์
อายุ: 52 ปี
สถานที่เกิด: ฮ่องกง
สูง: 165 ซ.ม.
หนัก: 51 ก.ก.
จง ฉู่หง(Cherie Chung) เกิดเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2503 ที่เกาะฮ่องกง บรรพบุรุษเดิมเป็นชาวก่วงตง(กวางตุ้ง) เธอมีน้องสาวอีก 2 คน ครอบครัวทำธุรกิจร้านขายเครื่องแต่งกายสตรี ในฐานะลูกตนโต จง ฉู่หงจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยบิดาดูแลบัญชีของร้านตั้งแต่อายุเพียง 11 ปี เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยจนกระทั่งโตเป็นสาว หลังจากที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสตรีเธอเคยทำงานเป็นพนักงานร้านเพชร
ปี พ.ศ. 2522 ภายใต้การสนับสนุนของมารดา จง ฉู่หง เข้าประกวดมิสฮ่องกง ซึ่งเธอจัดว่าเป็นผู้เข้าประกวดที่หน้าตาโดดเด่นเป็นที่จับตามองอย่างมากในปีนั้น ทว่าในท้ายที่สุดกลับไม่ได้ตำแหน่งนางงามติดไม้ติดมือจากการประกวดแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม จง ฉู่หง ยังได้รับคำชื่นชมจากสื่อมวลชนว่าเป็นนางงามฮ่องกงที่สวยที่สุดคนหนึ่งในประวัติศาสตร์การประกวดเลยทีเดียว
ภายหลังพลาดหวังจากเวทีนางงาม จง ฉู่หง มีโอกาสเทสต์หน้ากล้องกับทีวีบีทว่าไม่ผ่านการคัดเลือก แต่การตกรอบครั้งนั้นถือว่าเป็นโชคดี เพราะบุคลิกอ่อนหวานใสซื่อไม่ปรุงแต่งของเธอไปเข้าตา หลิว ซงเหริน(หลิวสงเหยิน) นักแสดงและผู้กำกับภาพยนตร์ชาวฮ่องกงผู้รงอิทธิพลแห่งยุค จง ฉู่หง ถูกชักนำเข้าสู่โลกเซลลูลอยด์ ประเดิมบทนางเอกในภาพยนตร์เรื่อง กระบี่สะท้านฟ้า (The Enigmatic Case) ปี พ.ศ. 2523 ซึ่งเป็นงานกำกับภาพยนตร์เรื่องแรกของผู้กำกับชื่อก้อง ตู้ ฉีเฟิง(ตู้ฉีฟง) จากนั้นความสามารถทางด้านการแสดงของนางเอกใหม่เริ่มเป็นที่ประจักษ์ในวงการเมื่อ ปี พ.ศ. 2525 จงฉู่หงแสดงนำคู่กับ โจวเหวินฟะ ในภาพยนตร์คุณภาพเรื่อง โหดเด็ดเดี่ยว (The Story Of Woo Viet) ของผู้กำกับหญิงมือรางวัล แอน ฮุย
จง ฉู่หง ถือเป็นนางเอกที่ดังที่สุดคนหนึ่งในยุคทองของอุตสาหกรรมบันเทิงฮ่องกง ได้รับการขนานนามว่าเป็น 1 ใน 4 ผู้หญิงแถวหน้าของวงการร่วมกับ หลิน ชิงสยา, จัง มั่นอี้ว์ และ เหมย เยี่ยนฟัง เสน่ห์ของ จง ฉู่หง ปรากฏผ่านจอภาพยนตร์หลายต่อหลายเรื่อง ด้วยความงามอย่างเป็นธรรมชาติแฝงกลิ่นไอของความบริสุทธิ์ไร้เดียงสา เรือนผมหยักศกดำขลับ ประกอบกับใบหน้าสะสวย จริงใจ อ่อนน้อม และอุปนิสัยไม่ชอบชิงดีชิงเด่น แม้ว่าเธอจะไม่ตั้งใจ แต่ความเซ็กซี่ของเธอมักจะออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้เธอได้รับฉายาว่าเป็น "เทพธิดาผู้เย้ายวน"
คลิปตัวอย่าง An Autumn's Tale หรือ ดอกไม้กับนายกระจอก ปีพ.ศ.2530 ที่ขึ้นหิ้งกลายเป็นภาพยนตร์ฮ่องกงสุดโรแมนติก
ไม่เพียงหน้าตาสะสวย ผลงานการแสดงของนางเอกคนนี้เรียกได้ว่าเปี่ยมคุณภาพ จง ฉู่หงได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสูงสุดด้านการแสดงอย่างฮ่องกง ฟิล์ม อวอดส์ และ ม้าทองคำไต้หวัน รวมทั้งสิ้น 6 ครั้ง โดยในยุคนั้นถึงกับมีคำกล่าวที่ว่า "ดังยังไงก็ดังไม่สู้จง ฉู่หง เด่นยังไงก็เด่นไม่เท่าโจวเหวินฟะ" โดยหลังจาก โหดเด็ดเดี่ยว ทั้งคู่แสดงภาพยนตร์ร่วมกันอีกหลายเรื่อง ที่คนไทยรู้จักดี อาทิ ดอกไม้กับนายกระจอก(An Autumn's Tale) ปี พ.ศ.2530 ที่ขึ้นหิ้งกลายเป็นภาพยนตร์ฮ่องกงสุดโรแมนติกในดวงใจใครหลายคน, ภาพยนตร์โรแมนติกคอมาดี้ ตุ้งติ้งตี๋ต๋า(The Eighth Happiness) ปี พ.ศ.2531, ภาพยนตร์โรแมนติกสยองขวัญ เจ้าสาวโปเย(Spirtual Love )ในปีเดียวกัน, ภาพยนตร์แอกชั่น คนตัดเหลี่ยมคม(Wild Search) พ.ศ.2532 หรือ ตีแสกตะวัน(Once a Thief) ที่รับบทนำร่วมกับโจวเหวินฟะ และ เลสลี จาง เมื่อ ปี พ.ศ.2534 และมีผลงานเด่นอื่นๆ อย่าง เผ็ด สวย ดุ ณ เปไก๋(Peking Opera Blues) ที่แสดงนำร่วมกับหลิน ชิงสยา ทั้งนี้ จง ฉู่ หง แสดงภาพยนตร์ไปทั้งสิ้นราว 60 เรื่อง ตลอดระยะเวลา 11 ปีในวงการ
นอกจากนี้ ในช่วงที่อุตสาหกรรมหนังเกรดสามฮ่องกงเฟื่องฟู จง ฉู่หง เป็นนางเอกอีกคนหนึ่งที่ไม่สามารถปฏิเสธกระแสธารอันเชี่ยวกราก หลายคนอาจไม่ทราบว่าในยุคแรกที่เพิ่งเข้าวงการ เธอเคยต้องรับบทนำในภาพยนตร์เกรดสามโชว์เนื้อหนังเรื่อง May Be Its Love คู่กับทัง เจิ้นเยี่ย เมื่อปี พ.ศ. 2527 ด้วย
ด้านอุปนิสัยส่วนตัว ผู้คนในแวดวงบันเทิงล้วนลงความเห็นว่า นางเอกคนนี้เป็นคนตรงๆ ง่ายๆ ไม่เสแสร้ง หากชื่นชมใครเธอจะเป็นฝ่ายเข้าหาก่อน แต่หากไม่ ก็จะทำตัวเฉยๆ นอกจากนี้เป็นที่ทราบกันดีว่าดาราสาวฮ่องกงยุคนั้นมักจะมีมหาเศรษฐีมายื่นข้อเสนอขอคบหา และน้อยยิ่งกว่าน้อยที่จะไม่มีข่าวฉาว ซึ่ง จง ฉู่หง จัดเป็นนางเอกส่วนน้อยที่ว่า
พ.ศ. 2534 คือปีสุดท้ายนางเอกแถวหน้าแห่งฮ่องกงผู้นี้โลดแล่นในวงการ เธอทิ้งผลงานชิ้นเอกอย่าง ตีแสกตะวัน เอาไว้ให้แฟนๆ ชื่นชม จากนั้น วันที่ 10 ธ.ค. นางเอกสาวเข้าพิธีวิวาห์กับเจ้าพ่อวงการโฆษณา จู จยาติ่ง(Mike Chu Ka-Ting) ณ โรด ไอส์แลนด์ สหรัฐอเมริกา โดยทั้งคู่เห็นพ้องต้องกันว่าจะไม่มีบุตร พ.ศ.2537 จง ฉู่หง ออกจากวงการบันเทิงอย่างเป็นทางการเพื่อไปทำหน้าที่ภรรยาเต็มตัวและทำงานทางด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไปด้วย
ทว่าชีวิตคนมักมีเรื่องไม่คาดฝัน จู จยาติ่ง คู่ชีวิตของอดีตนางเอกสาวชื่อก้องจากไปด้วยโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่เมื่อเดือนสิงหาคม ของปี พ.ศ.2550 ความเสียใจจากการสูญเสียทำให้จง ฉู่หง หันไปพึ่งศาสนา และเข้าเป็นคริสตศาสนิกชนเต็มตัว จากนั้น 2 ปีให้หลัง เมื่อสภาพจิตใจดีขึ้น เธอเริ่มกลับเข้ามาในวงการบันเทิงที่คุ้นเคยอีกครั้ง ด้วยการรับงานโฆษณา และเป็นพรีเซนเตอร์พิเศษของสินค้า ซึ่งด้วยความที่นานๆ จะออกมาพบปะผู้คน ทำให้ทุกครั้งที่เธอปรากฏกายผ่านสื่อ จึงสร้างความฮือฮาได้เสมอ เพราะแม้ว่าอดีตนางเอกแถวหน้าคนนี้จะมีอายุเข้าเลขห้าแล้ว แต่ความเป็นศิลปินที่ยังคงเปล่งประกายในตัวเธอ และผลงานคุณภาพที่เธอสร้างสรรค์เอาไว้ยังไม่เคยเลือนหายไปจากใจของแฟนๆ
ประวัติ
ชื่อจีน: จง ฉู่หง(钟楚红)
ชื่ออังกฤษ: Cherie Chung
วันเดือนปีเกิด: 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2503
ราศี : กุมภ์
อายุ: 52 ปี
สถานที่เกิด: ฮ่องกง
สูง: 165 ซ.ม.
หนัก: 51 ก.ก.