เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - ความคืบหน้ายอดรวมผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมกรุงปักกิ่งอย่างเป็นทางการในที่สุดรัฐก็เปิดเผยว่าสูงกว่ายอดเดิมถึงสองเท่า หลังประชาชนโวยให้เจ้าหน้าที่เร่งแถลงยอดผู้เสียชีวิต
คืนวานนี้ (26 ก.ค.) เจ้าหน้าที่รัฐบาลปักกิ่ง ปรับเพิ่มยอดรวมผู้เสียชีวิตในการแถลงข่าว จาก 37 ราย เป็น 77 รายเฉพาะที่ถูกพบในปักกิ่ง และมีจำนวน61 รายที่สามารถยืนยันได้ แบ่งเป็น ชาย 36 คน และหญิง 25 หนึ่งในนั้นมีทารกวัย 8 เดือนรวมอยู่ด้วย และมีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 5 ราย
บริเวณชานเมืองปักกิ่ง โดยเฉพาะในเขตฝังซานที่ถูกถล่มหนัก มีผู้เสียชีวิต 38 ราย และอีก 7 ราย เสียชีวิตในเขตเฉาหยางและเขตตงเฉิงบริเวณใจกลางกรุงปักกิ่ง
ก่อนหน้านี้รัฐบาลเข้มงวดต่อการรายงานข่าวของสื่อมวลชนให้นำเสนอแต่ข่าวในแง่บวก ซาบซึ้ง เรียกน้ำตา ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ ก็ไม่ยอมเผยยอดผู้เสียชีวิต
ท่ามกลางกระแสเศร้าโศกกับผู้เสียชีวิต หลายคนคิดว่าตัวเลขรวมเหยื่ออุทกภัยน่าจะสูงกว่านี้
ผู้ใช้นามแฝง “ต้าจุ้ยโฮ่วเย่” โพสต์ข้อความในไมโครบล็อกซิน่า เวยปั๋วของจีน ว่า “มีผู้เสียชีวิต 77 ราย จากเหตุน้ำท่วมกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นเมืองเจ้าภาพจัดการแข่งขันโอลิมปิก พวกคุณจะเชื่อได้ไหม”
บางส่วนเห็นว่า การรับมือกับอุทกภัยของหน่วยงานรัฐถูกตำหนิและวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก และตั้งคำถามว่าใครจะเป็นผู้รับผิดชอบและขอโทษต่อประชาชน “รัฐบาลจะลดธงครึ่งเสาเพื่อไว้อาลัยผู้เสียชีวิตหรือเปล่า”
ผู้ใช้ไมโครบล็อกหลายคนจึงเก็บรวบรวมจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดตามรายงานอื่นๆ “รายละเอียดนี้ถูกเก็บรวบรวมมาเพราะพวกเราไว้ใจรัฐบาลไม่ได้ และนี่ยังเป็นวิธีการไว้อาลัยถึงผู้เสียชีวิตของผมเช่นกัน พวกเขาไม่ควรที่จะถูกลืมเลือนไป” นายเวิน อวินเชา ชาวเน็ตคนหนึ่งกล่าว
นอกจากนี้ ความล่าช้าในการแก้ไขยอดรวมผู้เสียชีวิตทำให้ประชาชนต่างขุ่นเคืองหน่วยงานรัฐ กระทั่งหนังสือพิมพ์พีเพิลเดลี กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์ วิพากษ์วิจารณ์การตัดสินใจไม่ปรับข้อมูลด้วย กล่าวว่า “ประชาชนต่างกังวลกับผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ และจะไม่ยอมจนกว่าจะได้ตัวเลขที่ถูกต้องแน่นอน”
ปักกิ่งกลายเป็นเมืองร้างดั่งเหตุการณ์เกิดโรค “ซาร์ส” ระบาด
ในช่วงกลางสัปดาห์ 25-26 ก.ค. ถนนในกรุงปักกิ่งกลายเป็นถนนร้าง ชาวเมืองต่างเก็บตัวอยู่ในบ้าน หวาดกลัวและไม่วางใจหน่วยงานรัฐฯ เจ้าหน้าที่เองต่างปิดปากเงียบ
นางจูเลียต ซุน พนักงานออฟฟิสในเขตเฉาหยัง เผยว่า ตอนที่เธอเดินทางกลับบ้าน มีรถที่อยู่บนถนนเพียง 1 ใน 3 จากปริมาณรถปกติเท่านั้น
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้นึกย้อนไปถึง ฤดูร้อน ปี 2546 เมื่อกรุงปักกิ่งเกิดโรคระบาด “ซาร์ส”
“มันทำให้ฉันนึกถึงช่วงเวลาของโรคระบาดซาร์ส” นางจูเลียตกล่าว
ผู้ใช้ไมโครบล็อก ซิน่า เวยปั๋ว ลงรูปถ่ายในรถไฟใต้ดินและชานชาลาว่างเปล่าไร้ผู้คนในช่วงเวลาเร่งรีบ “เมืองทั้งเมืองกำลังเป็นที่หลบภัย เนื่องมาจากฝน มันเลวร้ายกว่าช่วงที่เกิดโรคซาร์สอีก”
นางหวัง ฮุ่ย โฆษกเทศบาลนครปักกิ่ง กล่าวว่า ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง “พวกเราได้บทเรียนจากเหตุการณ์โรคซาร์สมาแล้ว ทุกคนน่าจะรู้ว่าพวกเราก็จะพูดความจริง”
ในปี 2003 เจ้าหน้าที่ปกปิดข้อมูลผู้เสียชีวิตจากโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือโรคซาร์ (Severe Acute Respiratory Syndrome: SARS) กว่าสัปดาห์ จนกระทั่งเกิดข่าวลือรุกลามเกี่ยวกับโรคลึกลับนี้ ซึ่งเริ่มต้นมาจากมณฑลก่วงตง
เมื่อเชื้อโรคแพร่ถึงกรุงปักกิ่ง เจ้าหน้าที่พยายามปิดข่าว ขณะจัดการประชุมใหญ่ประจำปี เมื่อยอดรวมผู้เสียชีวิตถูกเปิดเผย ชาวเมืองต่างหวาดกลัว ต่อมานายเมิ่ง เสวี่ยน่ง นายกเทศมนตรีกรุงปักกิ่ง และนายจัง เวินคัง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
เทียนจินเจอวิกฤตน้ำท่วม
ฝั่งเมืองเทียนจินที่อยู่ใกล้กับกรุงปักกิ่ง วานนี้พายุฝนยังคงต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่คืนวันพุธที่ผ่านมา (25 ก.ค.) ทางเหนือของเมืองได้รับผลกระทบหนักสุด โดยชุมชนต้าซื่อ เขตซีชิง มีระดับน้ำสูงถึง 34.5 เซนติเมตร
จากเหตุดังกล่าวทำให้การจราจรเป็นอัมพาต และต้องยกเลิกสายการบินมากกว่า 20 เที่ยว และล่าช้า 34 เที่ยว อย่างไรก็ตามไม่มีรายงานความเสียหายใดๆ
ประชาชนในเมืองเทียนจินกล่าวว่า พวกเขาได้รับการเตือนภัยจากเทศบาลผ่านทางโทรศัพท์มือถือล่วงหน้า
