รอยเตอร์ส – เพียงช่วงครึ่งแรกของเดือนกรกฎาคม สี่ธนาคารรายใหญ่ของจีน เร่งปล่อยเงินกู้เพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า แต่ก็ยังคาดว่ายอดเงินกู้ฯ คงจะลดต่ำลงราวหนึ่งในสาม อยู่ที่ 650,000 ล้านหยวน
ซั่งไห่ ซีเคียวริตี้ส์นิวส์ รายงานวันพฤหัสบดี (19 ก.ค.) ว่า ในช่วงสองสัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคมนี้ ธนาคารรายใหญ่ต่างๆ ของจีนทั้ง 4 แห่งได้อนุมัติปล่อยเงินกู้ไปแล้วประมาณ 50,000 ล้านหยวน เทียบเป็นสัดส่วนที่สูงกว่าเดือนมิถุนายนถึงสองเท่า
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อเดือนที่ผ่านมา จากการติดตามข้อมูลอย่างใกล้ชิด พบว่าวงเงินการให้กู้ยืมของธนาคารรอบใหม่นี้ เพิ่มขึ้นจากสามเดือนที่ผ่านมา เพิ่มความหวังว่านโยบายผ่อนคลายทางด้านสินเชื่อ อาจจะดึงดูดการลงทุน และแก้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเจริญเติบโตในอัตราร้อยละ 7.6 ช้าที่สุดในรอบสามปี
จากข้อมูลของซั่งไห่ ซีเคียวริตี้ส์ แม้ตัวเลขปล่อยสินเชื่อกู้ยืมใหม่ ในมิถุนายน จะเพิ่มขึ้น แต่บรรดาธนาคารบิ๊กโฟร์ ยังประเมินการเติบโตติดลบ ด้วยว่าสินเชื่อกู้ยืมใหม่ยังต่ำ
สำหรับ “บิ๊กโฟร์” หรือธนาคารรายใหญ่ทั้ง 4 ของจีนนี้ได้แก่ อินดัสเทรียลแอนด์คอมเมอร์เชียลแบงก์ออฟไชน่า, ไชน่าคอนสตรักชั่นแบงก์คอร์ป, แบงก์ออฟไชน่า และอะกริคัลเชอรัลแบงก์ออฟไชน่า ซึ่งตามปกติแล้ว การปล่อยเงินกู้งวดใหม่ของธนาคารบิ๊กโฟร์นี้มีสัดส่วนร้อยละ 30-40 ของการปล่อยเงินกู้ทั้งหมดในระบบธนาคารของจีน และความเคลื่อนไหวของวงเงินสินเชื่อของธนาคารทั้ง 4 รายนี้ บ่งชี้ถึงความต้องการขอกู้ยืมของภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งหากยังคงมีน้อยมาก รัฐบาลอาจจะต้องดำเนินการนโยบายผ่อนคลายสินเชื่อเพิ่มขึ้น รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง