หญิงสาวดีกรีปริญญาเอก อาจารย์สอนภาษาเกาหลีเมืองเฉิงตู จบชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์ด้วยการกระโดดตึก หลังสืบทราบว่าสามีเป็นเกย์ แต่หลอกให้เธอแต่งงานด้วยเพื่อปิดบังสถานะชายรักร่วมเพศของตนเอง
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการแถลงอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์เวยปั๋ว(เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์คล้ายทวิตเตอร์) ของสำนักงานสันติบาลเขตอู่โฮ่ว เมืองเฉิงตู สรุปคดีของดอกเตอร์หลัว หงหลิง ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่ถือเป็นเป็นคดีอาญา
กลางดึกของวันที่ 15 มิ.ย. หลัว หงหลิง อาจารย์สอนภาษาเกาหลี ภาควิชาภาษาต่างประเทศของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู ผู้ซึ่งเพิ่งสอบได้ดีกรีปริญญาเอกมาหมาดๆ ได้กระโดดลงมาจากชั้น 13 ของอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งบนถนนเคอหวาหนานลู่ เสียชีวิตคาที่
การตายของ หลัว หงหลิง กลายเป็นกระแสครึกโครม เนื่องจากเธอคือหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มภรรยาที่มีสามีเป็นเกย์ อีกทั้งสามีแซ่เฉิงของเธอ ยังเคยประกาศขอโทษผู้เป็นภรรยาผ่านเว็บไซต์เวยปั๋ว โดยสารภาพว่าแต่งงานเพื่อหวังปกปิดรสนิยมรักร่วมเพศของตน
วันที่ หลัว หงหลิง ฆ่าตัวตาย ครอบครัวของเธอ นักเรียนที่เธอสอน รวมทั้งมิตรสหายต่างพากันไปที่สถานีตำรวจถนนวั่งเจียง เพื่อสอบถามต้นสายปลายเหตุจากสามีแซ่เฉิงที่ต้องไปให้ปากคำ ในตอนนั้นสามีแซ่เฉิงประกาศต่อหน้าธารกำนัลสองข้อ ข้อแรกคือชีวิตคู่ของเขาและภรรยามีปัญหาเพราะรสนิยมทางเพศไม่ตรงกัน ข้อสองคือหลังแต่งงานเขาเคยมีพฤติกรรมนอกใจภรรยา 2 ครั้ง
ส่วนในคืนที่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองหรือไม่นั้น นายเฉิงกล่าวว่าเขากับภรรยาไม่ได้ทะเลาะกัน ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ อย่างไรก็ตาม วันต่อมา สื่อท้องถิ่นติดต่อขอสัมภาษณ์บิดา พี่สาว และลุงของนายเฉิง แต่ถูกปฏิเสธ
หลังจากที่ดอกเตอร์สาวเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อนสนิทของเธอได้เข้าไปดูข้อความที่หลัว หงหลิงโพสต์ทิ้งไว้ในเว็บบอร์ดเมืองจิ้นเจียง(http://www.jjj8.cn/) เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ความว่า "ที่พี่ๆ น้องๆ บอกนั้นถูกต้องแล้ว สามีของฉันเป็นเกย์ เขาหลอกลวงฉัน"
จากนั้น เมื่อสามีแซ่เฉิงเห็นว่าภรรยารู้ความจริงแล้ว จึงได้ส่งข้อความถึง หลัว หงหลิง ว่า "ผมรู้ว่าตัวเองไร้ยางอาย" จากนั้นจึงส่งข้อความขอโทษว่า "ผมมันสารเลว ไม่คู่ควรให้คุณเสียใจ" วันที่ 14 มิ.ย. หลัว หงหลิงเอ่ยปากคุยกับมารดาเรื่องการหย่าเป็นครั้งแรก สองทุ่มของคืนเดียวกัน นายเฉิงโพสต์ข้อความสารภาพบาปผ่านเวยปั๋วว่า "อาจารย์หลัว ผมขอโทษ ผมเป็นเกย์ ผมหลอกลวงคุณให้แต่งงานด้วยเพื่อปกปิดรสนิยมของตัวเอง"
เวลา 03:00 น. ของวันที่ 15 มิ.ย. ข้อความสุดท้ายของดอกเตอร์หลัว ถูกโพสต์ผ่านสังคมออนไลน์เวยปั๋ว "โลกใบนี้ช่างทำให้คนเหนื่อยล้าอ่อนแรงเสียจริง เช่นนั้นก็จบทุกอย่างลงเสียดีกว่า" 2 ชั่วโมงจากนั้น สามี-ภรรยาแซ่หลัว ก็ได้รับโทรศัพท์จากนายเฉิง บอกว่าบุตรสาวของพวกเขากระโดดตึก
ย้อนกลับไป 25 วันก่อนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ขณะที่นายเฉิงอาบน้ำ หลัว หงหลิง บังเอิญพบข้อความในโทรศัพท์มือถือที่ระบุว่าส่งมาจากเซี่ยงไฮ้โดยชายแซ่เป๋า เมื่อตรวจสอบโดยละเอียด เธอก็พบทั้งภาพและข้อความลับเฉพาะระหว่างสามีและเพื่อนชายอีกมากมายในโทรศัพท์มือถือ
"แต่งงาน 5 เดือน มีเซ็กส์กันไม่เกิน 5 ครั้ง ตั้งแต่กลับมาเฉิงตูหลังตรุษจีนก็ขอแยกเตียงนอน ใช้ QQเวยซิ่น (Weixin: โปรแกรมแชตในโทรศัพท์มือถือจีน หรืออีกชื่อคือ WeChat) แอบแชตกับพวกผู้ชายอย่างว่า ถ้าไม่เรียกหลอกให้แต่งงานแล้วจะเรียกอะไร" หลัว หงหลิง ระบายอย่างคับแค้นผ่านโลกออนไลน์
"ตอนใช้เงินฉันเอาเงินไปซื้อของขวัญให้ผู้ชาย เคยรู้สึกผิดบ้างไหม ตอนใช้ไอโฟนที่ฉันซื้อให้ไปแชตลามกกับผู้ชายเคยละอายบ้างไหม" อีกทั้งเธอยังถามนายเฉิงด้วยความโกรธแค้นว่า "ที่ผ่านมาคุณมีโอกาสมากมายที่จะปล่อยให้ฉันไปมีชีวิตที่ดี แล้วเหตุใดจึงต้องลากฉันลงมาเกลือกกลั้วกับเรื่องแบบนี้"
3 เดือนก่อนเกิดเหตุ หลัว หงหลิง ระบายผ่านโลกออนไลน์ว่ากลางวันเวลาทำงานสามีแซ่เฉิงไม่เคยโทรหรือส่งข้อความหา เลิกงานเอาแต่เข้าฟิตเนส วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็เรียนเสริม อีกทั้งสามียังมีท่าทีเย็นชา เพื่อนในอินเตอร์เน็ตให้ความเห็นว่าสามีอาจจะมีความผิดปกติเรื่องเซ็กส์ บางคนถึงกับบอกว่าคงเป็นเกย์ปลอมมาหลอกให้แต่งงานด้วย ทว่าในตอนนั้น ดอกเตอร์หลัว ยังออกโรงคัดค้าน โดยให้ข้อมูลกับเพื่อนๆ ชาวเน็ตว่า ตอนก่อนแต่งงานทุกอย่างเป็นปกติรวมทั้งเรื่องเซ็กส์ แต่ข้อมูลดังกล่าวกลับกลายเป็นความผิดปกติที่ทำให้ชาวเน็ตยิ่งเพิ่มข้อกังขาในตัวของนายเฉิงมากยิ่งขึ้น
จากปากคำของเพื่อนและญาติผู้เสียชีวิต ทำให้ทราบว่า หลัว หงหลิง เป็นคนเรียนเก่ง มีความสามารถจนได้ชื่อว่าเป็น "หญิงเก่ง" ประจำรุ่น ที่ใครๆ พากันชื่นชม ทั้งเธอและสามีแซ่เฉิงเป็นชาวอำเภอเหลียงผิง เทศบาลนครฉงชิ่ง ทั้งคู่รู้จักคบหากันผ่านการแนะนำของเพื่อนแซ่หลิว เวลาผ่านไป 5-6 เดือน ทั้งสองจึงตกลงแต่งงานกันเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาประสบปัญหาชีวิตคู่จนเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวในที่สุด
ในภาษาจีน มีคำศัพท์เฉพาะ ที่เรียกว่า "ถงชี(同妻)" หมายถึงภรรยาที่มีสามีเป็นเกย์(รักร่วมเพศ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาภรรยามีสามีเป็นชาวรักร่วมเพศกลายเป็นปัญหาสังคมที่ชาวจีนต้องเผชิญ โดยเฉพาะสตรีจีนที่ต้องกล้ำกลืนต่อสภาพดังกล่าวเนื่องจากถูกกดดันจากวัฒนธรรมประเพณี จนต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะรักษาสภาพของสถาบันครอบครัวเอาไว้
จากผลการศึกษา ของ จัง เป่ยชวน ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาของชาวรักร่วมเพศ บ่งชี้ว่า นานานชาติระบุจำนวนชายรักชายอยู่ที่ร้อยละ 3-5 ของจำนวนชายทั้งหมด แต่ในสภาพสังคมจีนพบว่าร้อยละ 80 ของชายรักชายตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงเนื่องจากแรงบีบคั้นของครอบครัวและสังคม จากตัวเลขดังกล่าว ทำให้ประมาณการณ์ได้ว่า ประเทศจีนมีภรรยาที่มีสามีเป็นชาวรักร่วมเพศมากถึง 16 ล้านคน
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการแถลงอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์เวยปั๋ว(เว็บไซต์สื่อสังคมออนไลน์คล้ายทวิตเตอร์) ของสำนักงานสันติบาลเขตอู่โฮ่ว เมืองเฉิงตู สรุปคดีของดอกเตอร์หลัว หงหลิง ว่าเป็นการฆ่าตัวตาย ไม่ถือเป็นเป็นคดีอาญา
กลางดึกของวันที่ 15 มิ.ย. หลัว หงหลิง อาจารย์สอนภาษาเกาหลี ภาควิชาภาษาต่างประเทศของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเมืองเฉิงตู ผู้ซึ่งเพิ่งสอบได้ดีกรีปริญญาเอกมาหมาดๆ ได้กระโดดลงมาจากชั้น 13 ของอพาร์ทเมนต์แห่งหนึ่งบนถนนเคอหวาหนานลู่ เสียชีวิตคาที่
การตายของ หลัว หงหลิง กลายเป็นกระแสครึกโครม เนื่องจากเธอคือหนึ่งในสมาชิกของกลุ่มภรรยาที่มีสามีเป็นเกย์ อีกทั้งสามีแซ่เฉิงของเธอ ยังเคยประกาศขอโทษผู้เป็นภรรยาผ่านเว็บไซต์เวยปั๋ว โดยสารภาพว่าแต่งงานเพื่อหวังปกปิดรสนิยมรักร่วมเพศของตน
วันที่ หลัว หงหลิง ฆ่าตัวตาย ครอบครัวของเธอ นักเรียนที่เธอสอน รวมทั้งมิตรสหายต่างพากันไปที่สถานีตำรวจถนนวั่งเจียง เพื่อสอบถามต้นสายปลายเหตุจากสามีแซ่เฉิงที่ต้องไปให้ปากคำ ในตอนนั้นสามีแซ่เฉิงประกาศต่อหน้าธารกำนัลสองข้อ ข้อแรกคือชีวิตคู่ของเขาและภรรยามีปัญหาเพราะรสนิยมทางเพศไม่ตรงกัน ข้อสองคือหลังแต่งงานเขาเคยมีพฤติกรรมนอกใจภรรยา 2 ครั้ง
ส่วนในคืนที่เกิดเหตุ มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นระหว่างคนทั้งสองหรือไม่นั้น นายเฉิงกล่าวว่าเขากับภรรยาไม่ได้ทะเลาะกัน ทุกอย่างดำเนินไปตามปกติ อย่างไรก็ตาม วันต่อมา สื่อท้องถิ่นติดต่อขอสัมภาษณ์บิดา พี่สาว และลุงของนายเฉิง แต่ถูกปฏิเสธ
หลังจากที่ดอกเตอร์สาวเสียชีวิตไปแล้ว เพื่อนสนิทของเธอได้เข้าไปดูข้อความที่หลัว หงหลิงโพสต์ทิ้งไว้ในเว็บบอร์ดเมืองจิ้นเจียง(http://www.jjj8.cn/) เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. ที่ผ่านมา ความว่า "ที่พี่ๆ น้องๆ บอกนั้นถูกต้องแล้ว สามีของฉันเป็นเกย์ เขาหลอกลวงฉัน"
จากนั้น เมื่อสามีแซ่เฉิงเห็นว่าภรรยารู้ความจริงแล้ว จึงได้ส่งข้อความถึง หลัว หงหลิง ว่า "ผมรู้ว่าตัวเองไร้ยางอาย" จากนั้นจึงส่งข้อความขอโทษว่า "ผมมันสารเลว ไม่คู่ควรให้คุณเสียใจ" วันที่ 14 มิ.ย. หลัว หงหลิงเอ่ยปากคุยกับมารดาเรื่องการหย่าเป็นครั้งแรก สองทุ่มของคืนเดียวกัน นายเฉิงโพสต์ข้อความสารภาพบาปผ่านเวยปั๋วว่า "อาจารย์หลัว ผมขอโทษ ผมเป็นเกย์ ผมหลอกลวงคุณให้แต่งงานด้วยเพื่อปกปิดรสนิยมของตัวเอง"
เวลา 03:00 น. ของวันที่ 15 มิ.ย. ข้อความสุดท้ายของดอกเตอร์หลัว ถูกโพสต์ผ่านสังคมออนไลน์เวยปั๋ว "โลกใบนี้ช่างทำให้คนเหนื่อยล้าอ่อนแรงเสียจริง เช่นนั้นก็จบทุกอย่างลงเสียดีกว่า" 2 ชั่วโมงจากนั้น สามี-ภรรยาแซ่หลัว ก็ได้รับโทรศัพท์จากนายเฉิง บอกว่าบุตรสาวของพวกเขากระโดดตึก
ย้อนกลับไป 25 วันก่อนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ขณะที่นายเฉิงอาบน้ำ หลัว หงหลิง บังเอิญพบข้อความในโทรศัพท์มือถือที่ระบุว่าส่งมาจากเซี่ยงไฮ้โดยชายแซ่เป๋า เมื่อตรวจสอบโดยละเอียด เธอก็พบทั้งภาพและข้อความลับเฉพาะระหว่างสามีและเพื่อนชายอีกมากมายในโทรศัพท์มือถือ
"แต่งงาน 5 เดือน มีเซ็กส์กันไม่เกิน 5 ครั้ง ตั้งแต่กลับมาเฉิงตูหลังตรุษจีนก็ขอแยกเตียงนอน ใช้ QQเวยซิ่น (Weixin: โปรแกรมแชตในโทรศัพท์มือถือจีน หรืออีกชื่อคือ WeChat) แอบแชตกับพวกผู้ชายอย่างว่า ถ้าไม่เรียกหลอกให้แต่งงานแล้วจะเรียกอะไร" หลัว หงหลิง ระบายอย่างคับแค้นผ่านโลกออนไลน์
"ตอนใช้เงินฉันเอาเงินไปซื้อของขวัญให้ผู้ชาย เคยรู้สึกผิดบ้างไหม ตอนใช้ไอโฟนที่ฉันซื้อให้ไปแชตลามกกับผู้ชายเคยละอายบ้างไหม" อีกทั้งเธอยังถามนายเฉิงด้วยความโกรธแค้นว่า "ที่ผ่านมาคุณมีโอกาสมากมายที่จะปล่อยให้ฉันไปมีชีวิตที่ดี แล้วเหตุใดจึงต้องลากฉันลงมาเกลือกกลั้วกับเรื่องแบบนี้"
3 เดือนก่อนเกิดเหตุ หลัว หงหลิง ระบายผ่านโลกออนไลน์ว่ากลางวันเวลาทำงานสามีแซ่เฉิงไม่เคยโทรหรือส่งข้อความหา เลิกงานเอาแต่เข้าฟิตเนส วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ก็เรียนเสริม อีกทั้งสามียังมีท่าทีเย็นชา เพื่อนในอินเตอร์เน็ตให้ความเห็นว่าสามีอาจจะมีความผิดปกติเรื่องเซ็กส์ บางคนถึงกับบอกว่าคงเป็นเกย์ปลอมมาหลอกให้แต่งงานด้วย ทว่าในตอนนั้น ดอกเตอร์หลัว ยังออกโรงคัดค้าน โดยให้ข้อมูลกับเพื่อนๆ ชาวเน็ตว่า ตอนก่อนแต่งงานทุกอย่างเป็นปกติรวมทั้งเรื่องเซ็กส์ แต่ข้อมูลดังกล่าวกลับกลายเป็นความผิดปกติที่ทำให้ชาวเน็ตยิ่งเพิ่มข้อกังขาในตัวของนายเฉิงมากยิ่งขึ้น
จากปากคำของเพื่อนและญาติผู้เสียชีวิต ทำให้ทราบว่า หลัว หงหลิง เป็นคนเรียนเก่ง มีความสามารถจนได้ชื่อว่าเป็น "หญิงเก่ง" ประจำรุ่น ที่ใครๆ พากันชื่นชม ทั้งเธอและสามีแซ่เฉิงเป็นชาวอำเภอเหลียงผิง เทศบาลนครฉงชิ่ง ทั้งคู่รู้จักคบหากันผ่านการแนะนำของเพื่อนแซ่หลิว เวลาผ่านไป 5-6 เดือน ทั้งสองจึงตกลงแต่งงานกันเมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาประสบปัญหาชีวิตคู่จนเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าวในที่สุด
ในภาษาจีน มีคำศัพท์เฉพาะ ที่เรียกว่า "ถงชี(同妻)" หมายถึงภรรยาที่มีสามีเป็นเกย์(รักร่วมเพศ) ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ปัญหาภรรยามีสามีเป็นชาวรักร่วมเพศกลายเป็นปัญหาสังคมที่ชาวจีนต้องเผชิญ โดยเฉพาะสตรีจีนที่ต้องกล้ำกลืนต่อสภาพดังกล่าวเนื่องจากถูกกดดันจากวัฒนธรรมประเพณี จนต้องพยายามทุกวิถีทางที่จะรักษาสภาพของสถาบันครอบครัวเอาไว้
จากผลการศึกษา ของ จัง เป่ยชวน ผู้เชี่ยวชาญด้านปัญหาของชาวรักร่วมเพศ บ่งชี้ว่า นานานชาติระบุจำนวนชายรักชายอยู่ที่ร้อยละ 3-5 ของจำนวนชายทั้งหมด แต่ในสภาพสังคมจีนพบว่าร้อยละ 80 ของชายรักชายตัดสินใจแต่งงานกับผู้หญิงเนื่องจากแรงบีบคั้นของครอบครัวและสังคม จากตัวเลขดังกล่าว ทำให้ประมาณการณ์ได้ว่า ประเทศจีนมีภรรยาที่มีสามีเป็นชาวรักร่วมเพศมากถึง 16 ล้านคน
