รอยเตอร์ - ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า รัฐบาลปักกิ่งจะออกมาตรการเชิงนโยบายเพิ่มเติม เพื่อหนุนเศรษฐกิจเติบโตในระยะสั้น แม้ตัวเลขภาคบริการของจีนประจำเดือนมิ.ย. ขยายตัวอย่างรวดเร็วที่สุดในรอบ 3 เดือน ก็ตาม
สำนักงานสถิติแห่งชาติและสมาพันธ์โลจิสติกส์และการจัดซื้อ (CFLP) ของจีนระบุเมื่อวันอังคาร (3 ก.ค.) ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (PMI) นอกภาคการผลิตของจีนประจำเดือนมิ.ย.โตร้อยละ 56.7 จากร้อยละ 55.2 ในเดือนพ.ค.นับเป็นการขยายตัวมากที่สุด หลังจากเมื่อเดือนมี.ค. เคยทำสถิติโตสูงสุดในรอบ 10 เดือนถึงร้อยละ 58.0
ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับร้อยละ 50 หมายถึงภาคบริการขยายตัว แต่หากต่ำกว่าร้อยละ 50 แสดงว่าภาคบริการหดตัว
ขณะที่ผลสำรวจดัชนี PMI ที่ประกาศก่อนหน้านี้ในภาคอุตสาหกรรมการผลิตแดนมังกรระบุว่า การผลิตประจำเดือนมิ.ย. ลดลงต่ำสุดในรอบ 7 เดือน เนื่องจากผลกระทบจากความอ่อนแอของเศรษกิจภายในและภายนอกประเทศ
ภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนราวร้อยละ 43 ของผลผลิตในเศรษฐกิจจีน สามารถรอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจโลก ที่ชะลอตัวได้ดีกว่าภาคการผลิตมาจนถึงขณะนี้
นายไฉ จิ้น รองประธานCFLP แถลงว่า ผลสำรวจดัชนี PMI ล่าสุดนี้บ่งชี้ว่า แรงขับเคลื่อนการเติบโตในภาคบริการของจีนมีความมั่นคงอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในขณะนี้ส่งสัญญาณว่ากำลังมีเสถียรภาพ
อย่างไรก็ตาม นักเศรษฐศาสตร์และเทรดเดอร์ยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะประกาศลดสัดส่วนทุนสำรองของธนาคารพาณิชย์รอบใหม่ในเร็ว ๆ นี้ ท่ามกลางสภาวการณ์ ที่แรงกดดันของราคาผ่อนคลายลง ซึ่งเปิดช่องให้มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินที่เข้มงวด โดยที่ไม่กระตุ้นเงินเฟ้อแต่อย่างใด