ต้าจ้งหว่าง – เด็กมัธยมซานตงเลือดร้อน เห็นเทศกิจไล่จับพ่อค้าแม่ขายรอบโรงเรียน และเกิดอุบัติเหตุจนหัวแตก เข้าใจผิดรุมประชาทัณฑ์เจ้าหน้าที่จนน่วม ก่อน ตร.เข้าเคลียร์
ผู้สื่อข่าวต้าจ้งหว่างในมณฑลซานตง ทางตะวันออกของประเทศจีนได้รับแจ้ง จากศูนย์ข่าวประจำเมืองเจ่าจวง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของมณฑลซานตงว่า เมื่อเวลาประมาณ 17.50น. ของวันที่ 11 มิถุนายน 2555 ได้เกิดเหตุความวุ่นวายที่บริเวณโรงเรียนมัธยม หมายเลข 15 ของเมืองโดยเด็กนักเรียนมัธยมจำนวนหนึ่งเข้ารุมทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่เทศกิจที่กำลังดูแลความเรียบร้อยบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ขายอาหารและสิ่งของบริเวณรอบโรงเรียน เพราะเข้าใจผิดว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจทำร้ายคนขายของจนหัวแตก
เนื่องจาก ต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ทางเมืองเจ่าจวงมีนโยบายในการจัดระเบียบพ่อค้าแม่ค้ารอบสถานศึกษา เพราะในช่วงเวลานี้ในประเทศจีนเป็นช่วงเวลาของการสอบคัดเลือกเข้าเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา โดยมหาวิทยาลัย และโรงเรียนต่างๆ ในเมืองจะถูกใช้เป็นสถานที่จัดสอบคัดเลือก
ผู้เห็นเหตุการณ์ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ว่า ในวันและเวลาดังกล่าว เจ้าหน้าที่เทศกิจของเมืองแซ่จางนายหนึ่งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้มีปากเสียงกับเจ้าของแผงขายของแซ่หม่า จนถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน โดยเจ้าของแผงขายของแซ่หม่าพยายามหยิบแผงไม้ข้างตัวมาเป็นอาวุธ และเจ้าหน้าที่พยายามป้องกันตัว ทว่า แผงไม้กลับดีดสะท้อนไปถูกหัวเจ้าของแผงแซ่หม่าจนหัวแตกเลือดออก ทำให้เจ้าหน้าที่รีบนำตัวเจ้าของแผงแซ่หม่าส่งไปรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล
ระหว่างนั้นเอง ได้มีเด็กนักเรียนของโรงเรียนมัธยม หมายเลข 15 จำนวนหนึ่งเพิ่งเลิกเรียนและเดินออกมาเห็นเหตุการณ์พอดี ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่า เจ้าหน้าที่เทศกิจลุแก่อำนาจทำร้ายร่างกายพ่อค้าคนดังกล่าวจนได้รับบาดเจ็บหัวแตกจึงเข้าไปรุมต่อว่าเจ้าหน้าที่เทศกิจแซ่จาง โดยระหว่างที่เจ้าหน้าที่เทศกิจแซ่จางและเพื่อนเทศกิจอีกคน กำลังพยายามอธิบายข้อเท็จจริงให้เหล่านักเรียนเข้าใจ ก็มีเด็กนักเรียนบางส่วนคุมอารมณ์ไม่อยู่ชักเข่าชักศอกเข้าทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ แต่เจ้าหน้าที่ก็มิได้โต้ตอบ ได้แต่ถอยร่นจนไปติดรั้วโรงเรียน โดยเหตุการณ์ดังกล่าวดำเนินไปกว่า 5 นาที และมีผู้อยู่ในเหตุการณ์สามารถบันทึกภาพวิดีโอไว้ได้
เหตุการณ์สงบลงเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดมาในที่เกิดเหตุ และรีบนำตัวเจ้าหน้าที่เทศกิจส่งไปรักษาตัวยังโรงพยาบาล ขณะที่นายกเทศมนตรีของเมืองเจ่าจวงเมื่อทราบเรื่องก็รีบดำเนินการสอบสวน และเรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก
