วอลล์สตรีทเจอร์นัล - ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด
ส่งสัญญาณยอมรับระบบการธนาคารของจีน และเปิดประเทศต้อนรับธนาคารพาณิชย์จากแดนมังกรมากขึ้น หลังจากอนุมัติแผนขยายกิจการของธนาคารยักษ์ใหญ่ ซึ่งเป็นของรัฐบาลจีนถึง 3 ราย
เมื่อวันพุธ (9 พ.ค.) เฟดได้อนุมัติให้อินดัสเทรียลแอนด์คอมเมอร์เชียลแบงก์ออฟไชน่า (ICBC) ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเข้าซื้อหุ้นร้อยละ 80 ในธนาคารสาขาบนแดนลุงแซมของแบงก์ออฟอีสต์เอเชีย ซึ่งเป็นธนาคารของฮ่องกงและมี 13 สาขาในนครนิวยอร์กและรัฐแคลิฟอร์เนีย หลังจากธนาคารทั้งสองประกาศทำข้อตกลงกันเมื่อเดือนม.ค.ปีที่แล้ว แต่รอการเห็นชอบด้านกฎระเบียบเสียก่อน โดยการอนุมัติข้อตกลงของ ICBC นี้ นับเป็นครั้งแรก ที่เฟดได้รับรองการเข้าซื้อกิจการโดยธนาคารของจีน
นอกจากนั้น เฟดยังอนุมัติให้อะกริคัลเชอรัลแบงก์ออฟไชน่าเปิดสาขาในนครนิวยอร์ก และให้แบงก์ออฟไชน่าเปิดสาขาในนครชิคาโก โดยธนาคารทั้งสองรายมีฐานอยู่ในกรุงปักกิ่ง และแบงก์ออฟไชน่าเปิดสาขา 2 แห่งในนครนิวยอร์กและ 1 แห่งในนครลอสแองเจลิสมาก่อนหน้านี้แล้ว
การอนุมัติครั้งนี้เกิดขึ้นภายหลังการเจรจาประจำปีด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจที่กรุงปักกิ่งระหว่างจีนกับคณะผู้แทนจากสหรัฐฯ ซึ่งนำโดย นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศ นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลัง และนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นักวิเคราะห์ระบุว่า การอนุมัติครั้งนี้เป็นย่างก้าวสำคัญที่จะขยายโอกาสให้ธนาคารจีนเข้าทำธุรกิจและเข้าเทกโอเวอร์ธนาคารในสหรัฐฯ หลังจากธนาคารของจีนพยายามเจาะตลาดภาคธนาคารแดนลุงแซมเพื่อให้บริการด้านการเงินแก่บริษัทจีนในต่างแดน และทำธุรกิจกับนักลงทุนต่างชาติ ที่ต้องการทำธุรกรรมในรูปเงินหยวน แต่ถูกถ่วงเวลา และถูกปฏิเสธมานานแล้ว โดยการอนุมัติของเฟดกำลังเป็นการยืนยันรับรองระบบการวางกฎระเบียบควบคุมภาคการธนาคารของจีน ซึ่งที่ผ่านมาผู้คุมกฎของสหรัฐฯ วิตกว่า จีนยังมีการตรวจสอบภาคธนาคารในประเทศไม่เพียงพอ
นายคริส แดเนียล นักกฎหมายด้านการธนาคารของบริษัท พอล เฮสติงส์ แอลแอลพี (Paul Hastings LLP) ในเมืองแอตแลนตา ระบุว่า นี่คือเหตุการณ์สำคัญสำหรับจีนและธนาคารของจีน ซึงจะได้ไฟเขียวเข้าทำธุรกิจมากขึ้นในสหรัฐฯ และในยุโรปอีกด้วย โดยนายแดเนียลเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่การอนุมัติของเฟดครั้งนี้จะมีอิทธิพลโน้มน้าวบรรดาผู้คุมกฎทั่วโลก
ทั้งนี้ ธนาคาร ICBC ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่ง และรัฐบาลจีนถือหุ้นร้อยละ 70 นับเป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของจีนด้วยมูลค่าสินทรัพย์ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เทียบกับ เจ.พี. มอร์แกน เชส แอนด์โค. ธนาคารใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่าสินทรัพย์น้อยกว่าคือ 2.3 ล้านล้านดอลลาร์ โดย ICBC ตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนกำไรจากการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศอีกกว่า 2 เท่าตัว จากร้อยละ 4 ในปัจจุบัน เป็นร้อยละ 10 ภายในอีก 5 ปีข้างหน้า