เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ -- จีนปล่อยดาวเทียม 2 ดวงขึ้นสู่อวกาศ (30 เม.ย.) ในคราวเดียว เพื่อไปประกอบกับระบบจีพีเอส ระบุตำแหน่งและนำทางบนพื้นผิวโลก
“เป๋ยโต่ว” สำเร็จ
ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของจีนที่ประสบความสำเร็จในการส่งดาวเทียม 2 ดวงโดยใช้การยิงจรวดขนส่งเพียงครั้งเดียว ขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศ ห่างจากพื้นผิวโลกประมาณ 20,000 กม. ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
ดาวเทียมเป๋ยโต่วของจีนพัฒนาขึ้นเพื่อแข่งขันกับการพัฒนาระบบจีพีเอส (Global Positioning System) ของสหรัฐอเมริกา และ GLONASS (Global Navigation Satellite System) ของ
รัสเซีย และ Galileo Positioning System ของสหภาพยุโรป โดยจีนมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชน ทั้งบรรดานักท่องเที่ยว ผู้ขับขี่ยวดยาน เจ้าหน้าที่ทางทหาร รู้พิกัดของตนเองอย่างแม่นยำขึ้นด้วยระบบดาวเทียมฯ ของจีนเอง
ศาสตราจารย์เจียว เว่ยซิน จากสำนักวิทยาศาสตร์อวกาศและโลก แห่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง เผยว่า เป้าหมายในครั้งนี้จีนต้องการแสดงให้เห็นศักยภาพการขนส่งที่พัฒนาขึ้น และความแม่นยำทางเทคนิค “ก่อนหน้านี้จีนได้ส่งดาวเทียม 3 ดวง ซึ่งแต่ละครั้งก็ส่งได้ทีละดวง ขึ้นไปสู่วงโคจรค้างฟ้า ที่ห่างจากพื้นผิวโลกประมาณ 36,000 กม. ”
อย่างไรก็ดี ดาวเทียมสองดวงนั้นเป็นดาวเทียมบอลลูน (Sataloon) มีลักษณะเบาเนื่องจากเติมแก๊สเข้าไปก่อนจะส่งขึ้นสู่วิถีโคจร ทำให้ดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรได้ตามตำแหน่งแก๊สโดยไม่ต้องกังวล ศ.เจียวย้ำว่า “เรื่องตำแหน่งดาวเทียมจึงไม่ใช่เรื่องท้าทายเท่ากับการยิงจรวด”
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า จรวดขนส่งฉังเจิง 3 บี ได้พาดาวเทียมดวงที่ 12 และ 13 ขึ้นสู่วงโคจร จากสถานียิงดาวเทียมซีฉังในมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เมื่อก่อนเวลาตี 5 ของวันที่ 30 เม.ย.
ศ.เจียวเน้นว่า การปล่อยดาวเทียมขึ้นไปในครั้งนี้ได้ทีเดียว 2 ดวง แสดงให้เห็นว่า จีนมีพัฒนาการก้าวกระโดดในการเชื่อมระบบจีพีเอส เป๋ยโต่วมากเพียงใด ซึ่งดาวเทียมสองดวงจะช่วยทำให้ระบบเป๋ยโต่วของจีนมีความแม่นยำยิ่งขึ้น
ศูนย์ยิงจรวดฯ เผย จีนจะยิงจรวดเพื่อขนส่งดาวเทียมอีก 3 ดวงในปีนี้ เพื่อสร้างระบบฯ ซึ่งจะลุล่วงในปี 2563 ขณะนั้นจีนจะมีดาวเทียมกว่า 30 ดวง
การยิงจรวดครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 160 ของชุดจรวดฉังเจิง ที่สามารถพาดาวเทียมขึ้นสู่วิถีโคจรได้สำเร็จ
แม้ว่าขณะนี้ระบบเป๋ยโต่วจะยังไม่สมบูรณ์ รัฐบาลกลางก็เคยเผยเมื่อปีที่แล้วว่า ระบบฯ ปัจจุบันก็ได้ช่วยในการทำงานด้านการทหารของประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้ชาติจีนมีเทคโนโลยีและเศรษฐกิจที่เข้มแข็งขึ้น
รัฐบาลจีนมองว่า ระบบดาวเทียมของตนนั้นเป็นความมั่นคงที่สำคัญของชาติ
