อดีตผู้นำแดนจิงโจ้แจมไมโครบล็อกคดีนักศึกษาจีนถูกทำร้าย

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - อดีตนายกรัฐมนตรีเควิน รัดด์ แห่งออสเตรเลีย ผู้พูดภาษาจีนกลางได้อย่างคล่องแคล่ว เข้าไมโครบล็อก Sina weibo เป็นครั้งแรก แสดงความเสียใจอย่างยิ่งกรณีนักศึกษาจีน 2 คนถูกทำร้ายที่นครซิดนีย์

คดีซึ่งกลายเป็นข่าวครึกโครมของสื่อมวลชนแดนมังกรเกิดขึ้นเมื่อวันจันทร์ (23 เม.ย.) โดยตำรวจแดนจิงโจ้ยืนยันว่า มีชาย วัย 29 ปี ได้รับบาดเจ็บกระดูกโหนกแก้มและจมูกหัก มีแผลไหม้หลายแห่งจากการถูกบุหรี่จี้ ขณะถูกกลุ่มวัยรุ่น 6 คนปล้นชิงทรัพย์บนรถไฟสายหนึ่งทางตอนใต้ของนครซิดนีย์

เหยื่อคนหนึ่งเป็นบล็อกเกอร์ ชื่อว่านายซ่วน กำลังศึกษาระดับปริญญาโทในซิดนีย์ ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในไมโครบล็อก Sina weibo ซึ่งเป็นเว็บไซต์ทวิตเตอร์ของจีนว่า พวกเขาถูกแก๊งอันธพาลทำร้ายด้วยแก้ว เพื่อนของเขาจมูกหัก กระดูกโหนกแก้มแตก เลือดเต็มตัวไปหมด ส่วนเขา นอกจากจมูกหักแล้ว ยังถูกบุหรี่จุดไฟจี้ใบหน้าเป็นแผลไหม้เสียโฉม

เหตุการณ์ที่นายซ่วนเล่า ถูกแปลลงในหนังสือพิมพ์เดอะ ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ โดยเขาระบุต่อไปว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือเขาเกลียดคำพูดที่เป็นการเหยียดเชื้อชาติจากปากของอันธพาลกลุ่มนี้ ที่เรียกพวกเขาว่า สุนัขเอเชีย พร้อมกับด่าว่าด้วยคำที่หมายถึงอวัยวะเพศหญิง และเมื่อเพื่อนของเขาพยายามเช็ดเลือดที่จมูกนั่นเอง

“วัยรุ่นหญิงคนหนึ่งได้ถอดผ้าอนามัยแบบสอดจากกางเกงชั้นในของหล่อนจับยัดใส่ปากเพื่อนของผม” บล็อกเกอร์รายนี้ระบุ

จากคำบอกเล่าของนายซ่วน ขณะเกิดเหตุมีผู้โดยสารหลายคนอยู่บนรถไฟขบวนนั้น และมีเจ้าหน้าที่การรถไฟอยู่ด้วย แต่ไม่มีใครเข้าช่วย ซ้ำร้ายผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งแก๊งอันธพาลเล็งจะปล้นทรัพย์ของหล่อนด้วยนั้น กลับบอกให้โจรขาโจ๋ไปปล้นนายซ่วนกับเพื่อนแทน

“ พวกเขาเป็นคนเอเชียและมีเงิน” หญิงคนนั้นพูด

มีการนำข้อความของนายซ่วนไปโพสต์ซ้ำกว่า 10,000 ครั้ง และนายรัดด์ก็เข้าไปในเว็บนี้ด้วย โดยเป็นหน้าใหม่สำหรับ Sina weibo นายรัดด์กล่าวว่า เขาได้ไปพบตำรวจและแผนกการศึกษา เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้แล้ว นอกจากนั้นยังใช้ความสามารถด้านภาษาจีนกลางของเขากล่าวแสดงความเห็นใจ เพื่อคลายความโกรธแค้นของชาวแดนมังกร

ทั้งนี้ เหตุทำร้ายดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากนักศึกษาชาวจีน 2 คนเพิ่งถูกยิงตายที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนียในสหรัฐฯ เมื่อ 12 วันก่อน จึงทำให้เกิดความวิตกกันบนแผ่นดินใหญ่เกี่ยวกับความปลอดภัยของนักศึกษาจีน ที่ไปศึกษาในต่างประเทศ ซึ่งนับวันจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น