เอเอฟพี - สื่อจีนรายงาน (23 เม.ย.) จีนตัดสินลงโทษอดีตเจ้าหน้าที่หมู่บ้านอูข่านจำนวน 8 คน รวมทั้งผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ประจำหมู่บ้านคนก่อนที่ต้องคดีคอร์รัปชันด้วย
ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านอูข่านทางตอนใต้ของมณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) เดินขบวนประท้วงในเดือน ก.ย. ปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่พอใจการยึดที่ดินทำกินโดยทุจริตของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น
เหตุการณ์ประท้วงลุกลามและขยายตัวกลายเป็นพาดหัวข่าวในหนังสือพิมพ์ต่างประเทศ หลังจากผู้นำชาวบ้านที่ลุกขึ้นสู้กับเจ้าหน้าที่ฯ ต้องมาจบชีวิตลงในระหว่างการคุมตัวของตำรวจเมื่อเดือน ธ.ค. ยิ่งเติมเพลิงโทสะให้ชาวบ้านรวมตัวปิดถนนและเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย กินเวลานานกว่าสัปดาห์
หมู่บ้านอูข่านกลายเป็นสัญลักษณ์ต่อต้านการคอร์รัปชัน และการปลดชนวนการประท้วงที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐต้องยอมทำตามชาวบ้าน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องหายากบนแผ่นดินจีน แต่ที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ รัฐบาลยอมให้มีการตรวจสอบปัญหาพิพาทที่ดินอย่างเป็นธรรม พร้อมกับเปิดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการหมู่บ้านฯ
สำนักข่าวซินหวาของจีนยกถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์ก่วงตง (23 เม.ย.) ระบุว่า หลังจากทำการไต่สวนมาเป็นเวลา 3 เดือน พบว่าเจ้าหน้าที่ 8 คนกระทำการคอร์รัปชัน ต้องลงโทษ
เจ้าหน้าที่ที่ถูกลงโทษได้แก่ นายเสวี่ย ฉัง อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำหมู่บ้าน ชาวบ้านเล่าว่าเขาใช้พื้นที่เกษตรและประมงในหมู่บ้าน เสมือนหนึ่งเป็นเจ้าของที่ดินเสียเองมาเป็นเวลานานปี
รัฐบาลได้ขับไล่เสวี่ยออกจากตำแหน่งในพรรคคอมมิวนิสต์ และยึดทรัพย์อันเป็นรายได้โดยมิชอบจำนวน 189,200 หยวน ซินหวาระบุว่า การขับไล่ออกจากพรรคฯ ดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการดำเนินคดีอาญาต่อไป
ส่วนเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกคน เป็นอดีตหัวหน้าคณะกรรมการปกครองหมู่บ้านนาม เฉิน ซุ่นอี้ เขาถูกขับออกจากพรรคคอมมิวนิสต์และถูกยึดทรัพย์เช่นกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่อีก 6 คนที่เหลือได้รับการปฏิบัติที่ลดหย่อนลงมาตามความผิด เช่น การเฝ้าระวังสังเกตการณ์ และการลงโทษตามวินัย
เจ้าหน้าที่ฝ่ายฟ้องร้องฯ ได้เขียนบัญชีฟ้องร้องอดีตเจ้าหน้าที่เหล่านี้หลายกระทง อาทิ การโยกย้ายกรรมสิทธิ์ที่ดินอย่างผิดกฎหมาย การใช้อำนาจในทางมิชอบ การรับสินบน และชักจูงผู้คนในระหว่างการเลือกตั้งของหมู่บ้านฯ
คณะกรรมการหมู่บ้านชุดใหม่ที่เพิ่งเลือกตั้งเมื่อเดือนที่ผ่านมา มองว่า การลงโทษในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
ชาวบ้านแสดงความหวังว่า อูข่านจะกลายเป็นแบบอย่างประชาธิปไตยภายใต้ระบบพรรคเดียว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญสงสัยว่า ชัยชนะเช่นนี้จะสามารถนำไปใช้เป็นแบบจำลองให้กับหมู่บ้านอื่นที่ตกทุกข์ได้ยากคล้ายๆ กันได้หรือไม่
