ผู้สร้างหนังท้องถิ่นฮึดสู้บ.ฮอลลิวูดตบเท้าเข้าจีน

เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ของจีนประกาศลั่น พร้อมต่อกรบริษัทผลิตภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่จากฮอลลิวูด ที่กำลังดาหน้าเข้ามาขุดทองตลาดภาพยนตร์ในประเทศ

ตลาดภาพยนตร์ในอเมริกาและแคนาดา ที่กำลังซบเซา ทำให้บริษัทผู้สร้างหนังมะกันระดับบิ๊กหันมาเจาะตลาด ที่กำลังโตวันโตคืนบนแดนมังกร อาทิ ดรีมเวิร์กส์ แอนิเมชั่น (DreamWorks Animation) ได้เข้ามาตั้งโรงถ่ายภาพยนตร์ในนครเซี่ยงไฮ้ ขณะที่การเข้ามาร่วมลงทุนของเลเจนเดรี สตูดิโอส์ (Legendary Studios) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จอย่างมโหฬารของภาพยนตร์ซีรีส์เรื่องแบ๊ตแมน และแคลช ออฟ เดอะ ไทแทนส์ (Clash of the Titans) กำลังเป็นรูปเป็นร่าง ส่วนพระเอกดังอย่างคีนู รีฟส์ ซึ่งหันมาเอาดีในการเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง แมน ออฟ ไท่จี๋ (Man of Tai Chi) ก็กำลังมุ่งมั่นการถ่ายทำในแผ่นดินใหญ่ และในฮ่องกง

อย่างไรก็ตาม อิแมจิ อินเตอร์เนชั่นแนล ( Imagi International) บริษัทผู้สร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นของจีนในฮ่องกงก็หาได้ตกใจ ที่ดรีมเวิร์กส์เข้ามาดำเนินธุรกิจบนแผ่นดินใหญ่

“เราขอต้อนรับการแข่งขัน เรากำลังรอคอยอยู่” นาย Soh SzuWei ผู้อำนวยการบริหารของบริษัทกล่าวว่า

ไม้เด็ดในการช่วงชิงยอดจำหน่ายบัตรชมภาพยนตร์ของอิแมจิกับคู่แข่งจากฮอลลิวูดก็คือหนังที่บริษัทสร้างประสบความสำเร็จอย่างมากคือเรื่อง “ เพลสเซนต์ โก๊ต แอนด์ บิ๊ก บิ๊ก วูล์ฟ” (Pleasant Goat and Big Big Wolf) ซึ่งถือเป็นเพชรประดับมงกุฎอุตสาหกรรมแอนิเมชั่นของจีนเลยทีเดียว โดยเรื่องราวตื่นเต้นโลดโผนของเจ้า “เพลสเซนต์” ซึ่งเป็นแพะจอมกล้า กับหมาป่าเจ้าเล่ห์ อิแมจิได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ถึง 4 ภาคในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา รวมยอดขายตั๋วในจีนได้ถึง 548 ล้านหยวน

หากเทียบกับภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่ฉายบนแผ่นดินใหญ่ด้วยกันแล้ว รายได้ของหนังเรื่องนี้เป็นรองก็แต่กังฟูแพนด้าภาพยนตร์แอนิเมชั่นแนวตลกของดรีมส์เวิร์กส์ ซึ่งสร้างสองภาคโกยเงินไป 744 ล้านหยวน หลังจากออกฉายภาคแรกในปี 2551

นอกจากหวังการทำรายได้จากการขายตั๋วหนังแล้ว เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้ผู้สร้างหนังฮอลลิวูดยกทัพมายังจีนก็คือเนื้อหาอรรถรสของหนังจีน คือวัตถุดิบสำคัญในการเปิดมิติสร้างสรรค์บทภาพยนตร์ ที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ สำหรับผู้ชม ซึ่งความสำเร็จอย่างท่วมท้นของกังฟูแพนด้าได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว โดยโกยเงินไปทั้งหมดราว 630 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง 26 ล้านดอลลาร์มาจากแผ่นดินใหญ่โดยเฉพาะ

“มีเรื่องมากมายเหลือเกินที่คุณสามารถนำมาเล่าถ่ายทอด และตอนนี้จีนกำลังฮ็อต ดังนั้นจึงมีผู้คนมากมาย ที่อยากรู้เรื่องเพิ่มเติม” เกลนน์ เบอร์เกอร์ ผู้เขียนบทภาพยนตร์กังฟูแพนด้าภาคแรกและภาคต่อมาในปี 2554 ระบุ

ทั้งนี้ ดรีมส์เวิร์กประกาศจับมือเป็นหุ้นส่วนในการตั้งโรงถ่ายภาพยนตร์ในเซี่ยงไฮ้กับไชน่ามีเดียแคปปิตอล , เซี่ยงไฮ้มีเดียกรุ๊ป และเซี่ยงไฮ้อัลลายแอนซ์อิสเวสต์เมนต์ โดยดรีมส์เวิร์กแถลงว่า การร่วมลงทุนครั้งนี้จะมีส่วนช่วยในการพัฒนาและสร้างเนื้อหาหนังแนวแอ๊กชั่น และแอนิเมชั่นของจีน ที่มีมาแต่เดิมให้มีคุณภาพยิ่งขึ้นสำหรับคนดูในจีนและในตลาดนอก

ดรีมส์เวิร์กตั้งเป้าเปิดโรงถ่ายในเซี่ยงไฮ้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ และนำภาพยนตร์ออกฉายได้ในปี 2559

ทั้งนี้ ยอดขายบัตรชมภาพยนตร์บนแผ่นดินใหญ่เพิ่มถึงราวร้อยละ 30 เมื่อปีที่แล้ว หรือราว 13,000 ล้านหยวน ทำให้จีนกลายเป็นตลาดภาพยนตร์ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ในขณะที่ยอดจำหน่ายบัตรภาพยนตร์ในสหรัฐฯ และแคนาดาโตเพียงร้อยละ 6.3 จากปี 2550 เป็น 10,200 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว