เซาท์ไชน่ามอร์นิ่ง - บิ๊กบริษัทภาพยนตร์ฮอลลิวูดรุมตอมตลาดแดนมังกรเป็นสถานที่ผลิตหนัง แหล่งเงินทุน ตลาดจำหน่าย และแนวการทำบทภาพยนตร์ใหม่ ๆ
ในงานตลาดภาพยนตร์และโทรทัศน์ระหว่างประเทศแห่งฮ่องกง (Hongkong International Film and Television Market) หรือ Filmart ซึ่งเป็นงานแสดงอุตสาหกรรมภาพยนตร์และธุรกิจบันเทิง ที่ใหญ่สุดงานหนึ่งในเอเชีย และกำลังจัดขึ้นที่ฮ่องกงขณะนี้ เทรซี่ เทรนช์ หัวหน้าฝ่ายควบคุมดูแลงบประมาณในการสร้างภาพยนตร์เรื่อง The Pink Panther, Just Married and Ever After ระบุว่า ความมั่งคั่งที่กำลังขยายตัวของเอเชียเป็นสิ่งดึงดูดใจบริษัทภาพยนตร์ฮอลลิวูด ซึ่งกำลังหาทางลดต้นทุนการสร้างภาพยนตร์ ขณะที่เศรษฐกิจ ที่เติบโตและบทบาทในเวทีโลกของจีนทำให้เวลานี้บรรดาบริษัทผู้สร้างภาพยนตร์ยักษ์ใหญ่ของฮอลลิวูดกำลังพยายามหาทางเข้าสู่ตลาดแดนมังกรกันมากขึ้น
ด้านเกลนน์ เบอร์เกอร์ ผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่องกังฟูแพนด้ากล่าวว่า ผู้สร้างภาพยนตร์ฮอลลิวูดต้องการเล่าเรื่องเดียวกันแต่ด้วยวิธีการ ที่แปลกใหม่จากเดิม และขณะนี้จีนกำลังมีสิ่งที่ฮอลลิวูดต้องการ
จากการที่จีนเป็นแหล่งผลิตแก่นเรื่อง (theme) ใหม่ ๆ สไตล์เอเชียนี้เองมีส่วนทำให้ภาพยนตร์กังฟูแพนด้าภาคสองกวาดรายได้สูงถึง 665 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว
ขณะนี้บริษัทภาพยนตร์ฮอลลิวูดกำลังจับมือกับบริษัทภาพยนตร์จีนกันอย่างคึกคัก เช่นบริษัท DreamWorks Animation SKG ผู้สร้างภาพยนตร์กังฟูแพนด้า จะร่วมลงทุนกับบริษัทจีน 3 ราย เพื่อผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่น โดยDreamWorks จะถือหุ้นร้อยละ 45 และจะเริ่มลงมือถ่ายทำกันในปีนี้
ความสนใจเข้าลงทุนในจีนของบริษัทผู้สร้างหนังฮอลลิวูดเกิดขึ้นในช่วงที่รายได้จากภาพยนตร์ในทวีปอเมริกาเหนือกำลังตกลง รวมทั้งยอดขายดีวีดี โดยในช่วง10 ปีที่แล้ว ทางการจีนอนุญาตให้ภาพยนตร์ต่างประเทศเข้าฉายได้ปีละ 20 เรื่องเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ประตูได้เปิดกว้างอีกเล็กน้อยเมื่อเดือนที่แล้ว โดยยอมให้หนังเทศเข้าฉายเพิ่มอีก 14 เรื่องต่อปีในเงื่อนไขที่ต้องเป็นภาพยนตร์ลงโรงแบบจอยักษ์ 3 มิติ หรือไอแม็กซ์ คาดว่าจะทำให้ส่วนแบ่งยอดขายตั๋วหนังเทศจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากระบบเก่า ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 13.5-17.5
นอกจากนั้น เมื่อดูจากอัตราการเติบโตในปัจจุบัน คาดว่าจีนจะกลายเป็นตลาดภาพยนตร์รายใหญ่อันดับ 2 ของโลกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยยอดขายตั๋วหนังน่าจะพุ่งสูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2558 ขณะที่ในอเมริกาเหนือนั้ร รายได้จากการขายตั๋วหนังตกลงติดต่อกัน 2 ปีแล้ว โดยมียอดขายรวมกันเพียง 10,200 ล้านดอลลาร์เมื่อสิ้นปีที่แล้ว