<月亮偷不去>
อาจารย์เซนเหลียงควน หากไม่อยู่ที่วัดหงฝ่า ก็มักจะไปพำนักอยู่อย่างสมถะในกระท่อมมุงจากบริเวณเชิงเขาอันเงียบสงบ
คืนวันหนึ่ง เมื่ออาจารย์เซนกลับมาจากการแสดงธรรมเทศนา พลันพบว่ามีขโมยผู้หนึ่งกำลังค้นหาของมีค่าอยู่ภายในกระท่อมน้อยเชิงเขาซึ่งเป็นที่พำนักของตน เมื่อขโมยพบเห็นอาจารย์เซนก็ตกใจเป็นอันมาก
ฝ่ายอาจารย์เซนเหลียงควน กล่าวกับขโมยว่า "ไม่พบของมีค่าที่จะนำไปได้ใช่หรือไม่ เกรงว่าการมาของท่านครั้งนี้คงจะเสียเที่ยวเปล่า เช่นนี้เถอะ เรามีเพียงจีวรที่สวมใส่อยู่เท่านั้นที่พบจะมีมูลค่า ให้ท่านหยิบฉวยนำไปได้" จากนั้นจึงปลดปลงจีวรมอบให้ขโมยไป
เมื่อขโมยรับจีวรมาแล้วก็รีบวิ่งหนีไป ส่วนอาจารย์เซนยังคงยืนอยู่ท่ามกลางแสงจันทร์กระจ่าง มองแผ่นหลังของขโมยที่ค่อยๆ ลับจากคลองจักษุ พลางรำพึงออกมาว่า "น่าเสียดายที่เราไม่อาจมอบแสงสว่างอันงดงามของดวงจันทร์ให้ท่านนำกลับไปได้"
"แสงสว่างอันงดงามของดวงจันทร์" ที่อาจารย์เซนเอ่ยถึงนั้น ที่แท้แล้วคือจิตเดิมแท้ของสรรพสัตว์ อันเป็นจิตที่บริสุทธิ์ก่อนถูกปรุงแต่งด้วยกิเลสทั้งปวง และเป็นที่มีค่าที่สุดที่หลายคนไม่เคยตระหนักถึง
ปัญญาเซน : จิตเดิมแท้พึงเกิดได้จากภายในตนเท่านั้น