รอยเตอร์ - วัยรุ่นชาวทิเบตวัย 18 คนหนึ่งจุดไฟเผากายทำอัตวินิบาตกรรมในทางตอนใต้ของจีน นับเป็นการเผาตัวครั้งที่ 3 ในช่วง 3 วันที่ผ่านมาติดต่อกัน กลุ่มสิทธิมนุษยชนเผยว่า การเผาตัวดังกล่าวสะท้อนกระแสไม่พอใจนโยบายของรัฐบาลปักกิ่งที่กำลังทวีขึ้นในพื้นที่ที่มีชาวทิเบตอาศัยอยู่
กลุ่มสิทธิมนุษยชนเผยว่า การเผาตัวล่าสุดนี้นับเป็นรายที่ 25 แล้วในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งจากจำนวนดังกล่าว เชื่อว่าอย่างน้อยที่เสียชีวิตมีถึง 18 ศพ
ผู้เสียชีวิตล่าสุดนี้เป็นฆราวาสไม่ใช่ลามะแต่อย่างใด กลุ่มสิทธิฯ เผยว่า การประท้วงรัฐบาลจีนนี้สะท้อนให้เห็นความโกรธเกรี้ยวในบรรดาชาวทิเบตที่เพิ่มขึ้น ต่อมาตรการคุมเข้มของรัฐบาลจีน
การเผาตัวแต่ละครั้งดูเหมือนจะเล็กน้อย แต่ก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะสั่นคลอนความมั่นคงให้จีนต้องเปลี่ยนนโยบายในระดับภูมิภาค แม้ว่ารัฐบาลจะตีตราพวกเผาตัวว่าเป็นผู้คลั่งลัทธิแบ่งแยกดินแดนก็ตาม
กลุ่มฟรีทิเบตและกลุ่มกลุ่มรณรงค์สากลเพื่อทิเบต เผยว่า วัยรุ่นชายทิเบตวัย 18 ปีนามว่า ดอร์จี เสียชีวิตหลังจากจุดไฟเผากายในเมืองอาป้า มณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เมื่อวันจันทร์ (5 มี.ค.) เพื่อประท้วงนโยบายของรัฐบาลจีนที่มีต่อทิเบต
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและตำรวจให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ทางโทรศัพท์ว่า พวกเขาไม่ทราบมูลเหตุของเรื่องนี้
อาป้าเป็นเมืองที่รวมการประท้วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจุดไฟเผาตัวของชาวทิเบตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
กลุ่มฟรีทิเบตในอังกฤษอ้างพยานในเหตุการณ์ ระบุว่า ดอร์จีจุดไฟเผาตัวบริเวณใกล้กับสะพาน และจากนั้นก็ก้าวเดินไปขณะที่เปลวไฟลุกท่วมตัว ไปยังที่ทำการรัฐบาลจีน และเขาก็ล้มลงตรงนั้นเอง
ลามะแห่งอารามกีรติ ที่อยู่ในเมืองธรรมศาลาประเทศอินเดีย อันเป็นแหล่งลี้ภัยขององค์ทะไลลามะผู้นำจิตวิญญาณของทิเบต เผยว่า ดอร์จีได้ร้องตะโกนต่อต้านนโยบายของรัฐบาลจีนที่กระทำต่อทิเบต ในขณะที่เขาจุดไฟเผากาย
ดอร์จีเสียชีวิตลง หลังจากเมื่อสองวันที่ผ่านมามีชาวทิเบต 2 คนกระทำอัตวินิบาตกรรมเผาตัวในมณฑลซื่อชวนและมณฑลกานซู่
สเตฟานี บริกเดน ผู้นำกลุ่มฟรีทิเบตเผยแถลงการณ์ในอีเมล์ ระบุว่า “การเผาตัวครั้งที่ 3 ภายในช่วงเวลา 3 วันนี้ สะท้อนให้เห็นว่า ชาวทิเบตจะไม่หยุดประท้วงจนกว่าจะได้อิสรภาพตามปรารถนา”
“และประชาคมโลกต้องทำอะไรสักอย่างกับเหตุการณ์เหล่านี้”
นักเคลื่อนไหวเผยว่า จีนได้เหยียบย่ำเสรีภาพทางศาสนาและวัฒนธรรมในทิเบตอย่างรุนแรง ขณะที่จีนออกมาปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า สิ่งที่จีนทำเพื่อปลดปล่อยสังคมแบบทาสในทิเบต และต้องการพัฒนาเศรษฐกิจ