เอเอฟพี – โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผย สี จิ้นผิง ว่าที่ผู้นำจีนคนต่อไปกับรมว.กลาโหมของสหรัฐฯ แสดงความเห็นชอบต่อการขยายความสัมพันธ์ทางการทหารระหว่างสองมหาอำนาจ หลังการพบปะพูดคุยที่เพนตากอน เมื่อวันอังคาร (14) ระหว่างการเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการของรอง ปธน.จีน
แม้กลุ่มผู้นำจีนจะไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าใดนักกับการสานสัมพันธ์ทางการทหารกับสหรัฐอเมริกา แต่นายจอร์จ ลิตเติล โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า รองประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นผู้นำสูงสุดของจีนคนถัดไป กลับให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องนี้ระหว่างการพูดคุยกับ นายลีออน เพเนตตา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
แถลงการณ์โดยโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุด้วยว่า ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีการต้อนรับนายสีที่เพนตากอน ทั้งสองฝ่ายได้พูดคุยกันถึงการปรับปรุงการสื่อสารระหว่างกองทัพทั้งสอง ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อความสันพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
“ทั้งสองฝ่ายตกลงถึงความจำเป็นในการกระชับสัมพันธ์ การสนทนาในประเด็นสำคัญ และการสื่อสารกันมากขึ้นเพื่อก่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีขึ้น และความเชื่อมั่นต่อกัน” ลิตเติล กล่าวหลังที่สีได้พูดคุยกับเพเนตตา และ พล.อ.มาร์ติน เดมป์ซีย์ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพสหรัฐฯ
ลิตเติล ระบุด้วยว่า สีซึ่งเพิ่งมีโอกาสได้พบปะกับนายบารัก โอบามา ที่ทำเนียบขาวได้กล่าวถึงการผลัดกันเดินทางไปเยือนของผู้นำกองทัพทั้งสองประเทศในช่วงที่ผ่านมา และให้การสนับสนุนต่อการเดินทางไปเยือนกันดังกล่าวของเพเนตตา และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีน
“สีกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายรักษา และพัฒนาการแลกเปลี่ยน รวมถึงความร่วมมือระหว่างกองทัพทั้งสองให้ก้าวหน้าต่อไป ขณะที่เพเนตตาก็กล่าวถึงความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรม และความพยายามในการปราบปรามกลุ่มโจรสลัด” โฆษกเพนตากอนกล่าว และว่า “ทั้งสองฝ่ายตกลงว่ากองทัพของสองประเทศควรที่จะมีการพูดคุยถึงรายละเอียดโครงการความร่วมมือในอนาคตอันใกล้”
วอชิงตันให้ความสำคัญต่อการเยือนสหรัฐฯ ครั้งนี้ของนายสีอย่างมาก ด้วยการต้อนรับด้วยการยิงสลุต 19 นัด รวมถึงการแสดงของวงโยธวาทิตและการเดินสวนสนามของกองทหารเกียรติยศจากทหารทุกเหล่าทัพ
อย่างไรก็ตามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เหล่าผู้นำกองทัพจีนมักจะออกมาแสดงความเห็นคัดค้านการขายอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับไต้หวัน รวมถึงการแทรกแซงเกี่ยวกับข้อพิพาทในเขตทะเลจีนใต้
ด้วยความตึงเครียดจากการขยายแสนยานุภาพทางการทหารของจีนนี้เอง ทำให้ผู้นำกองทัพสหรัฐฯ ออกมากระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายมีการพูดคุยกับมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงความเข้าใจผิดและวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตามการกระชับสัมพันธ์ดังกล่าวก็ยังคงเป็นเพียงแผนการ ซึ่งยังไม่มีการตอบรับแต่อย่างใด
ก่อนการพบปะครั้งสำคัญ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เรียกร้องให้กองทัพจีนมีความโปร่งใสมากขึ้น และกล่าวว่าการแลกเปลี่ยนที่ใกล้ชิดขึ้นระหว่างฝ่ายความมั่นคงของทั้งสองประเทศจะช่วยรักษาเสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้
“ทั้งสหรัฐอเมริกา และจีนคือกำลังสำคัญของแปซิฟิก เราพร้อมรับการความเจริญรุ่งเรืองและความสำเร็จของจีนที่มีบทบาทเชิงรุก รวมถึงการมีความรับผิดชอบต่อภารกิจในการรักษาความมั่นคงของภูมิภาค และของโลก” เพเนตตากล่าว และว่า “การสร้างหุ้นส่วนความร่วมมือ เราจำเป็นที่จะต้องเสริมสร้างความเชื่อมั่น และความเข้าใจระหว่างกองทัพของเราทั้งสอง”
ด้านรองประธานาธิบดีสีของจีนก็ให้สัมภาษณ์ว่าการเดินทางมาเยือนสหรัฐฯ ของเขาครั้งนี้ก็เพื่อ “สร้างความเชื่อมั่นระหว่างกัน” และเพื่อพัฒนา “หุ้นส่วนความร่วมมือ” ระหว่างสองประเทศ