xs
xsm
sm
md
lg

จีนป้องอิหร่านโดนอียูคว่ำบาตร ชี้ตะวันตกทำอะไรไม่สร้างสรรค์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


เอเยนซี - ท่านทูตอิหร่านประจำกรุงปักกิ่งประกาศด้วยหน้าตาแช่มชื่น (25 ม.ค.) ว่ายอดการค้าระหว่างจีนและอิหร่านเพิ่มสูงขึ้นในปี 2554 ที่ผ่านมาถึง 55 เปอร์เซ็นต์ มูลค่ารวมอยู่ที่ 45,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถัดจากนั้น 1 วัน (26 ม.ค.) กระทรวงต่างประเทศจีนก็ออกแถลงการณ์ประณามการคว่ำบาตรอิหร่านกรณีอาวุธนิวเคลียร์ว่า ตะวันตกทำอะไรเหมือนคนตาบอด การคว่ำบาตรนี้ช่างไม่สร้างสรรค์เอาเสียเลย

สำนักข่าว IRNA ระบุว่า เมห์ดี ซาฟารี เอกอัครราชทูตอิหร่านประจำกรุงปักกิ่งเผยว่า ตัวเลขการค้าประจำปีมียอดการพาณิชย์เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและอิหร่านอีก 16,000 ล้านเหรียญฯ เฉพาะปีที่ผ่านมา

จีนเป็นคู่ค้าของอิหร่าน ในปีที่ผ่านมามีการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีนมากขึ้น เนื่องจากบริษัทตะวันตกต้องร่วมกันลงโทษอิหร่านจึงจำต้องพากันถอนทุนในอิหร่านออกไปเป็นจำนวนมาก จีนจึงได้โอกาสเข้าแทนที่ทันที

มหาอำนาจเศรษฐกิจเอเชียอย่างจีนได้เข้าไปมีบทบาทเข้มแข็งในการลงทุนและการค้า ด้านน้ำมันและแก๊สธรรมชาติ หลังจากอิหร่านได้ทำสัญญากับบรรษัทจีนมูลค่าถึง 40,000 ล้านเหรียญฯ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ แทนที่บริษัทตะวันตก

ก่อนหน้านี้ จีนปกป้องตัวเองว่า คบกับอิหร่านเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจและการค้าเท่านั้น หลังจากสหภาพยุโรปลงโทษอิหร่านมิให้สามารถส่งออกน้ำมันได้

ในที่สุด (26 ม.ค.) จีนได้ออกมาตอบโต้ว่า การที่สหภาพยุโรปลงโทษอิหร่านเนื่องจากสงสัยว่าอิหร่านมีการขับเคลื่อนพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์นั้น ถือว่า “ไม่สร้างสรรค์”

ซินหวาอ้างแถลงฯ ของกระทรวงต่างประเทศจีนระบุว่า “การที่สหภาพยุโรปกดดันและออกมาตรการลงโทษอิหร่านแบบตาบอดเช่นนี้ ถือว่าเป็นวิธีการที่ไม่พัฒนาหรือช่วยให้อะไรดีขึ้น”

กระทรวงต่างประเทศฯ ชี้ต่อว่า “จีนหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้จะสามารถหาวิธีการที่สร้างสรรค์ สันติ และมั่นคงในการแก้ไขอย่างถูกทำนองคลองธรรม”

อิหร่านเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันให้จีนใหญ่เป็นอันดับ 3 คิดเป็นน้ำมันถึง 11 เปอร์เซ็นต์ที่จีนนำเข้า
กำลังโหลดความคิดเห็น