ASTVผู้จัดการออนไลน์--ในคืนวันส่งท้ายปีเก่า ครอบครัวจะมาร่วมกินอาหารส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่พร้อมหน้าพร้อมตากัน ถือเป็นกิจกรรมสำคัญก่อนวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน หลังอาหารส่งท้ายปีพวกเขามักนั่งล้อมวงหน้าโทรทัศน์ชมรายการพิเศษฉลองตรุษจีนของรัฐบาล ทว่า มีผู้คนจำนวนมากในกรุงปักกิ่งยอมอดอาหารมื้อส่งท้ายปีเก่า ไม่ดูรายการพิเศษฉลองตรุษจีน กลับพากันเดินฝ่าลมหนาว -13 องศาเซลเซียส มุ่งหน้าไปยังวัดลามะ ที่ชาวจีนเรียกว่า “ยงเหอกง”
ยงเหอกง 雍和宫 เป็นอารามพุทธศาสนาแบบทิเบตที่ใหญ่และทรงความสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นวัดประวัติศาสตร์แห่งราชวงศ์ชิง สร้างในสมัยจักรพรรดิคังซี (ค.ศ.1694) ทั้งเป็นวังที่ประทับของจักรพรรดิหย่งเจิ้งก่อนขึ้นครองราชย์ และที่ประสูติของจักรพรรดิเชียนหลง
สื่อท้องถิ่น เป่ยจิงเฉินเป้า รายงานบรรยากาศคืนวันส่งท้ายปีเก่า(22 ม.ค.) ตามถนนหนทางในนครหลวงเงียบเหงา แทบไม่เห็นผู้คนและยวดยานพาหนะสัญจร มีแต่กลุ่มตำรวจลาดตระเวน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เทศกิจ และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ดูมีจำนวนมากกว่า บริเวณที่ดูคึกคักที่สุดคือวัดลามะ คลื่นคนมหาศาลหลั่งไหลมาที่นี่ เพื่อจุดธูปไหว้พระขอพรในวันปีใหม่โดยเฉพาะปีมังกรนี้
ชายหนุ่มคนหนึ่งที่มาเข้าแถวยาวที่บริเวณหน้าวัด บอกกับผู้สื่อข่าวจีน ว่าพวกเขามาเข้าแถวรอจุดธูปไหว้พระขอพรวันตรุษจีน ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 23 ม.ค. “ผมไม่กินอาหารส่งท้ายปีเก่า แค่กัดขนมเข่งกินไปหน่อย ก็รีบมาที่นี่”
สำหรับคนอื่นๆนำธูปตัวเองติดตัวมา เก้าอี้ตัวเล็ก และผ้าห่ม เตรียมพร้อมสำหรับศึกรอคอยที่แสนยาวนาน บางคนรอนานสุดทำสถิติถึง 17 ชั่วโมง!
สาวคนหนึ่งแซ่เถียน ทำงานในปักกิ่ง เนื่องจากเธอมีโอกาสกลับบ้านหลายโอกาส จึงไม่กลับบ้านในช่วงตรุษจีนซึ่งต้องฝ่าคลื่นคนมหาศาล “การส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของแต่ละคน อาจมีรูปแบบใหม่ที่แตกต่าง” เถียน กล่าว
ที่วัดลามะนี้ มีการแจกหมายเลขคิวจุดธูปไหว้พระ คนที่ได้คิวหมายเลข 1 คือ อาอี๋ จาง เธอมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า ที่เธอได้คิวเบอร์ 1 เพราะเธอเป็นคนแจกหมายเลขคิวด้วย ส่วนนางสาวเถียนได้คิวเบอร์ที่ 16 สำหรับการจัดคิวฯที่นี่จะตรวจสอบและเปลี่ยนหมายเลขคิวทุกสองชั่วโมง เนื่องจากบางคนที่มาวัดแต่เช้าได้หมายเลขต้นๆแต่กลับบ้านไปรอ คะเนว่าใกล้ถึงคิวตัวเองจึงกลับมา คนดูแลก็จะริบหมายเลขเก่าและแจกหมายเลขใหม่ต่อท้ายคิวล่าสุดให้ อย่างนางสาวเถียนตอนมาถึงวัดได้คิวที่ 16 เธอได้เปลี่ยนหมายเลขคิวใหม่ 2 ครั้ง จนได้เลขที่ 13
ผู้คนที่มาจุดธูปไหว้พระในวันปีใหม่ ทยอยมายังวัดลามะตลอดทั้งคืน “ทางวัดเริ่มเตรียมการและเปิดให้ผู้คนเข้าแถวตอนเที่ยงคืน ตอน 6 โมงเช้าจึงเปิดประตูให้คนเข้าไปจุดธูปไหว้พระ” อาอี๋ จาง กล่าว
อาอี๋ จาง บอกว่าเมื่อได้จุดธูป เธอรู้สึกปลื้มปิติมาก “เพื่อความเป็นศิริมงคล ขอให้ประสบแต่สิ่งดีงาม แต่อาอี๋ เล่าว่าการได้คิวเบอร์ 1 นี้ ก็ลำบากไม่น้อย เธอมาที่วัดตั้งแต่ตอนเช้า และให้คนที่บ้านส่งอาหารกลางวันและอาหารส่งท้ายปีเก่ามาให้ที่วัด “อาหารมือส่งท้ายปีของฉันเป็นผัดผัก ฉันต้องยืนกินข้างนอก”
แม้อาอี๋บอกว่า เธอไม่กลัวหนาวหรอก แต่จริงๆแล้ว “ทำไมไม่หนาวล่ะ คืนวันส่งท้ายปี (22 ม.ค.) อุณหภูมิ ตั้ง -13 องศาเซลเซียส น่ะ!” แต่ผู้คนก็อดทน ยกเลื่อนเก้าอี้ตัวเล็กที่นั่งอยู่ ค่อยๆขยับขึ้นไปๆเบียดกันที่หน้าประตู “เบียดๆกันอย่างนี้ ก็อุ่นดี!”
สื่อจีนอ้างเจ้าหน้าที่ดูแลวัดลามะคะเนจากคนที่อยู่ในพื้นที่วัด ประมาณจำนวนคนที่มาไหว้พระที่วัดจนถึง 5 โมงเย็นของวันตรุษจีน (23 ม.ค.) ราว 67,000 คน มากกว่าปีที่แล้ว ราว 1,000 คน นอกจากนี้ หน่วยทำความสะอาดของเทศบาลนครปักกิ่ง ได้ทำความสะอาดถนนและในบริเวณวัด เก็บกวาดขยะใส่รถบรรทุกได้ถึง 21 คัน ในจำนวนนี้เป็นขี้เถ้าธูปถึง 5 คัน!
ชมภาพบรรยากาศผู้คนจำนวนมหาศาลมาจุดจุดธูปภาวนา ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์บันดาลสิ่งมงคลโชคดีปีใหม่ ที่วัดลามะ กรุงปักกิ่ง วันที่ 23 ม.ค. ซึ่งเป็นวันตรุษจีน วันแรกของปีพญามังกร--ภาพรอยเตอร์