รอยเตอร์-พญามังกรเปิดฉากโหมกระแสอีกครั้ง วิพากษ์การปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์สู่เอเชียของสหรัฐอเมริกา จะยิ่งสร้างปัญหาวุ่นวายในภูมิภาค
หนังสือพิมพ์พีเพิล เดลี่ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงหลักของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ฉบับต่างแดน เผยแพร่บทแสดงความคิดเห็นของพลเรือตรี หยัง อี้ เมื่อวานนี้(7 ม.ค.) ซึ่งได้ตอกย้ำความไม่พอใจต่อยุทธศาสตร์สู่เอเชียใหม่ของประธานาธิบดีบารัก โอบามา ซึ่งจะขยายกองกำลังทหารในเอเชีย
“ยุทธศาสตร์การป้องกันใหม่ของสหรัฐฯ มุ่งมาที่จีนและอิหร่าน
“นับตั้งแต่ปี 2552 ที่ผู้นำในวอชิงตันหวนกลับมาให้ความสำคัญกับเอเชีย ก็บังเกิดเหตุการณ์หลากหลายที่คุกคามความมั่นคงในเอเชีย ความวุ่นวายผุดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า
และผู้ที่เฉลียวใจต่อยุทธศาสตร์ดังกล่าว ย่อมมองออกไม่ยากเลยว่า ใครคือ “ผู้ปกป้องความมั่นคงในภูมิภาค” และใครคือ “ผู้ที่สร้างปัญหาในภูมิภาค” พลเรือตรี หยัง อี้ ชี้ในบทความฯ
โกลบอล ไทส์ม สื่อภาคภาษาอังกฤษ ของจีน ได้เผยแพร่บทแสงดความคิดเห็นของพลเรือตรี หยัง อี้ในวันศุกร์(6 ม.ค.) ข้อเขียนในโกลบอล ไทส์ม ย้ำว่าจีนไม่กลัวนโยบายใหม่ของสหรัฐฯ และจะไม่ยอมแพ้ด้านการรักษาความมั่นคงในอาณาบริเวณ
ทั้งนี้ ในปีที่แล้ว จีนพยายามออมการโต้ตอบสหรัฐฯที่หันมาขยายบทบาทดูแลความมั่นคงในเอเชีย เนื่องจากจีนเผชิญศึกพิพาทกับเพื่อนบ้านตลอดปี 2553 อีกทั้งเป็นช่วงที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังเตรียมถ่ายโอนอำนาจแก่ผู้นำรุ่นใหม่ ดังนั้น ผู้กำหนดนโยบายในปักกิ่งจึงพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะทางการทูตซ้ำเติม
ด้านผู้นำในวอชิงตันบอกว่าจะหาทางร่วมมือกับจีน แต่ก็ยังขุดคุ้ยประเด็นความมั่นคงอย่างเช่นข้อพิพาทอธิปไตยเหนือดินแดนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่มูลค่าแต่ละปี 5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับคู่กรณีเพื่อนบ้านเอเชียที่โรมรันศึกชิงอธิปไตยเหนือเขตน่านน้ำในทะเลจีนใต้ ได้แก่ จีน ไต้หวัน ฟิปปินส์ มาเลเซีย เวียดนาม และบรูไน โดยเหล่าเพื่อนบ้านมองว่าจีนพยายามรุกเข้ามาแผ่อิทธิพลในทะเลลึก และก็ได้เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งหลายครั้งในปีที่แล้ว
ภาพธงชาติจีนถูกขนาบด้วยธงชาติอเมริกันตรงถนนเพนน์ซิลวาเนียใกล้กับคัลปิตอลฮิลล์เมื่อวันที่ 18 ม.ค. 2554