รอยเตอร์ - บริษัทแอปเปิลกำลังประสบปัญหาส่วนแบ่งในตลาดสมาร์ตโฟนแดนมังกร หลังจากยอดขายไอโฟนพุ่งพรวดในช่วง 2 ปีทีผ่านมา ทว่าขณะนี้กลับถูกบรรดาบริษัทคู่แข่ง ที่คล่องแคล่วปราดเปรียวกว่า แซงหน้า
เวลานี้เครื่องไอโฟนและไอแพดส์ของแอปเปิลกำลังหายหน้าหายตาไปจากชั้นจำหน่ายในร้านสำคัญ 5 แห่งของแอปเปืลในนครเซี่ยงไฮ้ และกรุงปักกิ่ง นอกจากนั้น ยังหายไปจากร้านจำหน่ายที่ลักลอบขาย หรือแม้กระทั่งร้านจำหน่ายสินค้าปลอม
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ มิได้มีสาเหตุจากผู้บริโภคบนแดนมังกรกำลังเสื่อมความนิยมไอโฟนและไอแพดส์ แต่นักวิเคราะห์ชี้ว่าการสูญเสียส่วนแบ่งในตลาดแดนมังกรของแอปเปิลมีสาเหตุประการแรกมาจากโครงสร้างการกำหนดราคา ที่ไม่มีความยืดหยุ่นของแอปเปิล และรุ่นของโทรศัพท์ ที่ผลิตออกมาก็มีไม่มากนัก ทำให้บริษัทคู่แข่ง ซึ่งมีความยืดหยุ่นกว่าสามารถแย่งส่วนแบ่งตลาดได้ด้วยย่างก้าวที่รวดเร็วขึ้น โดยส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนของแอปเปิลเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่า นับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2553 แต่บริษัทรายอื่นทำได้ดีกว่า เช่นบริษัทซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ส่วนแบ่งตลาดเพิ่มถึง 4 เท่าในช่วงเดียวกัน
นักวิเคราะห์ระบุว่า กลยุทธ์ของแอปเปิลในจีนก็คิอการจับลูกค้าระดับบน ซึ่งเป็นตลาด ที่ใหญ่พอที่เดียวสำหรับแอปเปิล อย่างไรก็ตาม ราคาของไอโฟนที่แพงอย่างมากเมื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ตโฟนของบริษัทอื่นคืออุปสรรคสำคัญสำหรับแอปเปิล และเปิดโอกาสให้กับบริษัทซัมซุง และบริษัทคู่แข่งในท้องถิ่นคือหัวเหว่ยเทคโนโลยีส์ และ แซ็ตทีอีคอร์ป
ตามปกติแล้ว ผู้บริโภคของจีนสามารถซื้อสมาร์ตโฟนจากแบรนด์อื่นได้ในราคาไม่ถึง 2,000 หยวน (308ดอลลาร์)
ขณะที่ไอโฟน 4 มีราคาสูงกว่า 2 เท่า คือ 3,988 หยวนในจีน อย่างไรก็ตาม แอปเปิลได้ลดราคาผลิตภันฑ์สินค้าบางตัว โดยกำลังขายไอโฟน 3GS ในราคา 2,888 หยวน ซึ่งน่าจะดึงดูดลูกค้า ที่ต้องการประหยัดเงินได้ แต่เป็นการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ ที่ยังไม่เพียงพอ
ในไตรมาส 3 หัวเหว่ยแซงหน้าแอปเปิลเป็นผู้จำหน่ายสมาร์ตโฟนรายใหญ่อันดับ 3 ในจีน
ปัจจุบันแอปเปืลตามหลังโนเกีย, ซัมซุง และหัวเหว่ย ซึ่งต่างก็ออกผลิตภัณฑ์ ที่พุ่งเป้ากลุ่มลูกค้าหลากหลายกว่า โดยไตรมาส 3 ส่วนแบ่งตลาดสมาร์ตโฟนของแอปเปิลหดลงเหลือร้อยละ 10.4 จากร้อยละ 13.3 ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ซัมซุงเพิ่มร้อยละ 19.2 จากร้อยละ 14.6 และหัวเหว่ยร้อยละ 11 จากร้อยละ 7.3
ไมเคิล เคลนเดอนิน กรรมการผู้จัดการของเรดเทคแอ๊ดไวเซอร์ส (RedTech Advisor) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยี่ในจีนชี้ว่า ในที่สุดแล้ว แอปเปิลไม่สามารถลดราคาโทรศัพท์ให้ถูกลงได้มากนัก เพราะจะทำลายภาพลักษณ์ของแบรนด์
ปัญหาอีกประการหนึ่งของแอปเปิลได้แก่เทคโนโลยีเครือข่าย (Network technology) มีไม่เพียงพอสำหรับสนับสนุนความสามารถของไอโฟนและไอแพดส์ได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายอื่นผลิตโทรศัพท์ ซึ่งใช้ได้กับการส่งสัญญาณ ที่มีใช้กันหลากหลายระบบในจีน
ข้อผิดพลาดอย่างแท้จริงในการเข้าสู่ตลาดจีนของแอปเปิลก็คือแอปเปิลมิได้จับมือกับไชน่าโมบาย บริษัทผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของจีนในขณะนี้ ซึ่งมีผู้ใช้บริการมากกว่า 600 ล้านราย แต่หุ้นส่วนในปัจจุบันของแอปเปิลคือไชน่ายูนิคอม ซึ่งเป็นผู้บริการรายใหญ่อันดับ 2 แต่มีผู้ใช้บริการน้อยกว่ากันมากเพียง 192.4 ล้านรายเท่านั้น
นักวิเคราะห์ระบุว่า ยุทธศาสตร์ ที่ดีสำหรับแอปเปิลในตอนนี้ก็คือการพยายามจับมือทำข้อตกลงกับบริษัทผู้ให้บริการโทรคมนาคมในจีนอีก 2 ราย เพื่อแก้ไขสถานการณ์
ถึงกระนั้นก็ตาม แอปเปิลยังต้องเผชิญปราการสำคัญอีกด่านหนึ่งได้แก่ความเชื่องช้าในการใช้เทคโนโลยี 3 จีของผู้คนในจีน ซึ่งปัจจุบันมีผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเพียง 1 ใน 10 ของผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมดเกือบ 1 พันล้านรายในจีน ที่ใช้ระบบ 3 จี