xs
xsm
sm
md
lg

“The Flowers of War” หนังเข้าชิงออสการ์และบรรดา "ผู้หญิงของจางอี้โหมว"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้วสำหรับตัวอย่างแรกของหนัง The Flowers of War : 金陵十三钗 ผลงานตัวแทนประเทศจีนเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาหนังภาษาต่างประเทศในปีนี้ ซึ่งเป็นการร่วมงานกันของยอดผู้กำกับรุ่นที่5 แห่งแดนมังกร "จาง อี้โหมว" และนักแสดงยอดฝีมือ "คริสเตียน เบล" ที่ดัดแปลงมาจากนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง 13 Flowers of Nanjing ของนักเขียนหญิง เหยียน เกอหลิง เล่าเรื่องหนันจิงเมื่อปี 1937 เมื่อกองทัพญี่ปุ่นบุกเข้าสู่เมืองหลวงของจีน โดย เบล รับบทเป็น จอห์น ฮอฟแมน หมอสอนศาสนาชาวอเมริกันที่ยื่นมือช่วยเหลือเหล่านักเรียนสตรีและกลุ่มโสเภณีจากกองทัพญี่ปุ่น โดยหนังมีกำหนดเข้าฉายที่ประเทศจีนในเดือนธันวาคมปีนี้
The Flowers of War

(ซ้าย)  ใบหน้าดารานำใน The Flowers of War ที่ถูกเปิดเผยเพียงเสี้ยวหนึ่งจนทำให้ชาวเน็ตไปขุดค้นจนเชื่อว่า “ผู้หญิงของโหมว” คนนี้คือ “หนีหนี” (ขวา)
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ถูกจับตามองนอกเหนือไปจากเนื้อหาของภาพยนตร์ภายใต้การกำกับของจาง อี้โหมวก็คือหญิงสาวที่มารับบทเด่นในหนังของเขา เพราะการผ่านหนังของโหมวเป็นเสมือนการการันตีถึงความสามารถและความงาม ซึ่งจะเป็นบันไดที่นำพาพวกเธอไปสู่ความมีชื่อเสียง จนกระทั่งมีคำเรียกหญิงสาวผู้โชคดีเหล่านั้นว่า "ผู้หญิงของโหมว" เลียนแบบ "ผู้หญิงของบอนส์" ในพยัคฆ์ร้าย 007 เลยทีเดียว

สำหรับผู้หญิงคนล่าสุดของจาง อี้โหมวที่จะมารับบทเด่นเป็น "อี้ว์มั่ว(玉墨)" ใน The Flowers of War ก็เช่นเดียวกัน แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ก็ไม่เกินความสามารถของแฟนๆ ที่พากันไปขุดค้นจนปักใจเชื่อว่าหญิงสาวผู้โชคดีรายนี้น่าจะมีชื่อว่า "หนีหนี" ปัจจุบันเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยการสื่อสารมวลชนหนันจิง อย่างไรก็ตามข้อสงสัยดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยันจากเจ้าตัวหรือผู้กำกับชื่อดังแต่อย่างใด
จาง อี้โหมว
จาง อี้โหมว คือหนึ่งในผู้กำกับภาพยนตร์จีนรุ่นที่ 5 ที่สร้างผลงานคุณภาพให้กับโลกเซลลูลอยท์แดนมังกรมาอย่างต่อเนื่องจวบจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ผลงานของเขาหลายต่อหลายเรื่องมีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ งานของเขาในยุคแรกเต็มไปด้วยสัญลักษณ์อันสะท้อนจิตวิญญาณประวัติศาสตร์และรากเหง้าวัฒนธรรมของชาวจีนออกมาอย่างกล้าหาญ และแม้ว่าในยุคหลังๆ มาผลงานหลายชิ้นของจาง อี้โหมว จะถูกวิพากษ์วิจารณ์จากแฟนหนังในประเทศบางส่วนว่าหวังสร้างมูลค่าในสายตาต่างชาติ และเอาใจคอหนังฮอลลิวู้ดจนลืมเลือนจิตวิญญาณการทำหนังในยุคแรกของเขาไปเสียแล้ว แต่กระนั้น ประเด็น “ผู้หญิงของโหมว” ก็ยังคงเป็นที่จับตาของแฟนๆ เสมอมา

ตลอดชีวิตการกำกับการแสดงของจาง อี้โหมว มีหญิงสาวที่มาโลดเล่นบนแผ่นฟิล์มไม่น้อย แต่คนที่ควรค่าแก่การกล่าวถึงเป็นคนแรก ย่อมไม่พ้นนางเอกคู่บุญในยุคแรกควบตำแหน่งอดีตคนรัก 8 ปีของเขา เธอผู้นั้นก็คือซุปเปอร์สตาร์แห่งวงการบันเทิงแดนมังกร "ก่งลี่" นั่นเอง
ก่งลี่ ดาราสาวคู่บุญในยุคแรก และอดีตคนรักของ จาง อี้โหมว
ก่งลี่ เกิดเมื่อปี 1965 เป็นชาวเมืองเสิ่นหยัง มณฑลเหลียวหนิง จบการศึกษาจากสถาบันศิลปะการละครกลางแห่งกรุงปักกิ่ง ปี 1987 แจ้งเกิดจากบทสาวชาวบ้านในภาพยนตร์เรื่อง Red Sorghum:红高粱 ผลงานกำกับของจาง อี้โหมว จากนั้นจึงแสดงภาพยนตร์ของโหมวต่อมาอีกหลายเรื่อง แต่ที่ประทับอยู่ในความทรงจำของผู้คนมากที่สุดคือบทภรรยาที่สี่จาก Raise the Red Lantern: 大红灯笼高高挂 ในปี 1991 นอกจากนี้ เธอยังเป็นดาราคนแรกจากประเทศจีนที่ได้รับรางวัลดารานำยอดเยี่ยมจากเวทีระดับโลกอย่างเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิสครั้งที่ 45 จากบทภรรยาผู้เรียกร้องความเป็นธรรมให้สามีในภาพยนตร์เรื่อง The Story of Qui Ju : 秋菊打官司 ส่วนในด้านชีวิตส่วนตัว นอกจากจะเป็นคู่ที่ลงตัวทางด้านการทำงานแล้ว ในยุคแรกก่งลี่ยังคบหากับจาง อี้โหมวอยู่หลายปี ทว่าขณะนั้นผู้กำกับชื่อดังมีครอบครัวอยู่แล้วและไม่สามารถสะสางปัญหาส่วนตัวได้ สุดท้ายความรักของทั้งคู่จึงจบลง ภายหลัง ก่งลี่ ได้พบรักครั้งใหม่กับนักธุรกิจชาวสิงคโปร์และตัดสินใจแต่งงานกันที่ฮ่องกงเมื่อปี 1996 และโอนสัญชาติเป็นสิงคโปร์ ก่งลี่ ถือได้ว่าเป็นดาราจีนรุ่นแรกที่ก้าวไปสู่ระดับนานาชาติ เธอกลายเป็นนางเอกของจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกงและฮอลลีวู้ด ได้รับรางวัลการแสดงอย่างหลากหลายจากเวทีทั้งในและต่างประเทศ
Raise the Red Lantern

ฉีว์อิ่ง ผู้หญิงของโหมว จากภาพยนตร์เรื่อง Keep Cool
สาวของโหมวคนต่อมาคือ "ฉีว์อิ่ง" เธอเป็นชาวหูหนาน เกิดเมื่อปี 1971 และเป็นนางเอกหนังของจาง อี้โหมวที่ตัวสูงที่สุดเพราะเธอก้าวเข้าวงการมาในฐานะนางแบบที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ หลังจากนั้นก็รับงานทั้งพิธีกร นางเอกละคร รวมทั้งภาพยนตร์ จนกระทั่งปี 1997 ได้มีโอกาสแสดงภาพยนตร์ให้กับจาง อี้โหมว ในเรื่อง Keep Cool : 有话好好说 ปัจจุบัน ฉีว์อิ่ง ยังคงโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงพร้อมกับทำธุรกิจเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ตัวเอง
เว่ยหมิ่นจือ(ซ้าย) เมื่อครั้งเล่นหนังของจาง อี้โหมวเรื่อง Not One Less และ (ขวา)ขณะศึกษาอยู่ที่ฮาวาย
นางเอกหนังรุ่นที่สามของจาง อี้โหมว มีชื่อว่า "เว่ย หมิ่นจือ" บางคนกล่าวว่าเธอเป็นหญิงสาวที่เชยที่สุดในบรรดานางเอกของโหมวทุกคน แต่หลายคนก็ประทับใจเธอจากความเป็นธรรมชาติไม่ปรุงแต่งนั้น เธอรับบทนำในภาพยนตร์เรื่อง Not One Less : 一个都不能少 ในปี 1998 ภาพยนตร์ของจาง อี้โหมวเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพปัญหาในระบบการศึกษาของจีนอย่างเจาะลึกถึงแก่น โดยนักแสดงในเรื่องล้วนเป็นมือสมัครเล่นรวมทั้งนางเอกของเรื่องซึ่งขณะนั้นอายุเพียง 13 ปีเท่านั้น ทว่าภาพยนตร์ประสบความสำเร็จอย่างสูง ได้รับรางวัลในเวทีนานาชาติหลายรางวัล ขณะที่ในชีวิตจริง "เว่ย หมิ่นจือ" ซึ่งเป็นเพียงสาวชาวบ้านธรรมดาสามารถฝ่าฟันจนสำเร็จการศึกษาสาขาการกำกับการแสดงจากมหาวิทยาลัยบริกแฮม มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ปัจจุบันแต่งงานแล้วกับชาวจีนสัญชาติอเมริกา
จาง จื่ออี๋ กับผลงานสร้างชื่อยุคแรกอย่าง The Road Home
นางเอกหนังจาง อี้โหมวรุ่นต่อมาเป็นสาวชาวเมืองปักกิ่ง หลายคนยกให้เธอเป็นนางเอกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งวงการบันเทิงจีน เธอผู้นี้คือ "จาง จื่ออี๋" ดาราสาวเจ้าบทบาทที่แจ้งเกิดจากบทสาวชาวบ้านในภาพยนตร์ที่ถือเป็นหนึ่งในสุดยอดความสำเร็จของ จาง อี้โหมว อย่าง The Road Home : 我的父亲母亲 ปี 1999 จากนั้นเธอผู้ซึ่งมีอีกฉายาหนึ่งว่า "ก่งลี่น้อย" ก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นลูกรักคนใหม่ของผู้กำกับชื่อดัง ร่วมงานกันในเรื่องต่อๆ มาของโหมว อาทิ Hero : 英雄, House of Flying Daggers : 十面埋伏(จอมใจบ้านมีดบิน) นอกจากนี้ผลงานสร้างชื่อของเธอกับผู้กำกับคนอื่นๆ ก็มีอย่าง Crouching Tiger, Hidden Dragon: 卧虎藏龙(พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก) ของผู้กำกับอั้งลี่, The Banquet : 夜宴ของ เฝิง เสี่ยวกัง เป็นต้น ในยุคหลัง จาง จื่ออี๋ สามารถโกอินเตอร์สร้างชื่อเสียงระดับโลกกับผลงานการแสดงเป็นนางโลมชาวญี่ปุ่นใน Memoirs of a Geisha ปี 2006 แต่ขณะเดียวกันเธอก็มีข่าวทางลบออกมาบ่อยครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภาพหลุดระหว่างการอาบแดดริมหาดชวนวาบหวิวของเธอกับอดีตแฟนหนุ่มนักธุรกิจชาวยิว วีวี เนโว หรือ ข่าวโกงเงินและมีความสัมพันธ์กับนักธุรกิจที่มีภรรยาแล้วซึ่งเธอออกมาปฏิเสธ อย่างไรก็ตามแม้ว่าเส้นทางในวงการบันเทิงของเธอจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่สิ่งที่ทุกคนยอมรับคือความสามารถในการแสดงที่การันตีด้วยรางวัลนับไม่ถ้วน
ต่งเจี๋ย ผู้หญิงของโหมวที่ได้ชื่อว่าสวยแบบไร้เดียงสาที่สุด จากภาพยนตร์เรื่อง Happy Times
"ต่งเจี๋ย" หรือ "มาดามซุนยัตเซ็น ซ่ง ชิ่งหลิง" ใน The Founding of a Party: 建党伟业ภาพยนตร์จีนฟอร์มยักษ์เล่าเรื่องการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่เพิ่งลงโรงฉายไปเมื่อกลางปีที่ผ่านมา คือหญิงสาวอีกคนหนึ่งที่แจ้งเกิดจากหนังของ จาง อี้โหมว เธอเข้าวงการมาจากแสดงบทสาวตาบอดในหนังเรื่อง Happy Times: 幸福时光 ปี 2000 จากนั้นจึงมีผลงานทั้งภาพยนตร์และละครโทรทัศน์อีกหลายเรื่อง แฟนๆ หนังจาง อี้โหมว ให้ความเห็นว่า ความงามของ ต่งเจี๋ย อยู่ที่ความไร้เดียงสา และรอยยิ้มอันบริสุทธิ์ของเธอ
โจว ตงอี๋ว์ นางเอกสาวของโหมวที่เคยโดนล้อว่าปากเหมือนปลาหมึกเมื่อครั้งเปิดตัวใหม่ๆ ก่อนที่จะนำพาให้ The Love of the Hawthorn Tree  ประสบความสำเร็จทำเงินถล่มทลาย
"โจว ตงอี๋ว์" คือนางเอกของโหมวรุ่นก่อนล่าสุด เธอโด่งดังจากภาพยนตร์เรื่อง The Love of the Hawthorn Tree: 山楂树之恋 หรือ เรื่องรักใต้ต้นซานจา ซึ่งเป็นภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจากจากนวนิยายขายดีของ “อ้ายหมี่” ว่าด้วยความรักแสนเศร้าระหว่างหนุ่มสาวคู่หนึ่งในห้วงแห่งการปฏิวัติวัฒนธรรม ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายในจีนเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และประสบความสำเร็จทำรายได้ถล่มทลาย ส่วน โจว ตงอี๋ว์ นางเอกของเรื่อง แม้ว่าในช่วงแรกที่มีข่าวว่าเธอจะเป็นนางเอกคนใหม่ของจาง อี้โหมว จะมีคนล้อเลียนว่าหน้าตาเธอสวยไม่เข้าขั้น แต่หลังจากที่หนังเข้าฉาย ความสามารถทางการแสดงและความน่ารักสมวัยของเธอก็ทำให้แฟนๆ ยอมรับในที่สุด ปัจจุบันเธอเป็นนักศึกษาน้องใหม่ในมหาวิทยาลัยภาพยนตร์ปักกิ่ง สถาบันเดียวกับจาง อี้โหมว ผู้ชักนำเธอเข้าสู้วงการบันเทิงนั่นเอง
The Love of the Hawthorn Tree

สาวหมวยสวยเอ๊กซ์ หลี่มั่น หนึ่งในผู้หญิงของโหมวที่ไม่ดังเปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร
นอกจากพวกเธอเหล่านี้ ยังมีหญิงสาวในภาพยนตร์ของจาง อี้โหมวคนอื่นๆ แต่บางคนก็ไม่ได้โด่งดังอย่างที่ตั้งใจไว้ อาทิ หลี่มั่น สาวหุ่นเซ็กซี่ในภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ของโหมวเรื่อง Curse of the Golden Flower: 城尽带黄金甲 เป็นต้น เกี่ยวกับความสำเร็จหรือล้มเหลวในการปั้นนางเอก ผู้กำกับคนดังเคยให้ความเห็นไว้ว่า โอกาสเป็นส่วนสำคัญ แต่ขณะเดียวกันก็ขึ้นอยู่กับฝีมือและนิสัยส่วนตัวของเหล่านักแสดงเองด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น