xs
xsm
sm
md
lg

ฤๅสังคมจีนไร้จริยธรรม ปล่อย “เสี่ยว เย่ว์เย่ว์” ดับอนาถ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เย่ว์เย่ว์ เด็กหญิงวัย 2 ขวบ ในวัยกำลังน่ารักสดใส (ซ้าย) กับช่วงขณะอดทนต่อสู้ ในโรงพยาบาลด้วยความดูแลใกล้ชิดของแพทย์ และกำลังใจจากประชาชนจีนจำนวนมาก ตลอด 7 วัน 7 คืน (ภาพ sina.com)


ถาม: คุณไม่รู้หรือว่าอะไรดี อะไรชั่ว ?

ตอบ: รู้ แต่.... ไม่มีทางเลือก

สิ่งเหล่านี้คือความรู้สึกของคนจีนหลายคนที่ได้มีโอกาสบอกกล่าวกับผู้เขียน ระบบการศึกษาจีนไม่ว่าจะเป็นครอบครัว หรือโรงเรียนมักพร่ำสอนนักเรียนว่า “อะไรดี อะไรชั่ว” ตามปกติเหมือนในโรงเรียนไทยทั่วไป และนักเรียนทุกคนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็มิได้แยกแยะไม่ได้ว่า “อะไรดี อะไรชั่ว” คนจีนไม่ได้ชาชินกับการปล่อยให้คนตายไปต่อหน้าต่อตา แต่เหตุไฉน เหตุการณ์สะเทือนอารมณ์จึงบังเกิดขึ้นได้

เมื่อวันที่ 13 ต.ค. เสี่ยว เย่ว์เย่ว์ เด็กหญิงวัยสองขวบ วิ่งเล่นอยู่ในตลาดเมืองฝัวซาน มณฑลก่วงตง พลันมีรถบรรทุกวิ่งมาชนทับร่างหนูน้อย ล้มลงกับพื้น ผิวล้อหน้าเคลื่อนผ่านกลางลำตัวของเย่ว์เย่ว์ รถบรรทุกนิ่งชั่วขณะ จากนั้นก็ขับต่อไปให้ล้อหลังทับซ้ำอีกที.. เย่ว์เย่ว์ แน่นิ่งจมกองเลือดอยู่กับพื้น

ตลาดย่อมมีคน และก็มีถึง 18 คนที่ผ่านไปผ่านมาบริเวณดังกล่าว หาได้มีใครช่วยเหลือหนูน้อย แต่ละคนเดินผ่านร่างของเย่ว์เย่ว์ ได้แต่ชายตามองแล้วก็เดินเลี่ยง หรือขับรถผ่านเลยไป จนในที่สุดวีรสตรีที่กล้าตัดสินใจลากร่างหนูน้อยออกจากบริเวณดังกล่าวกลับกลายเป็น คุณป้าผู้มีอาชีพเก็บขยะ

ในที่สุดแพทย์ก็เผยว่า (21ต.ค.) เสี่ยว เย่ว์เย่ว์ สิ้นลมแล้ว แต่คำถามทางจริยธรรมผุดพรายขึ้นมาไม่หยุดหย่อน

ถาม: เหตุการณ์นี้คุณจะโทษใคร ? โทษผู้ปกครองไม่ดูแลลูก โทษคนขับรถบรรทุกใจอำมหิต โทษคนที่ผ่านไปผ่านมาไร้มโนสำนึก โทษหมอไม่เก่ง หรือโทษเวรโทษกรรม...

ภาวะ “ไม่กล้าเลือกที่จะช่วย” ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคนที่อยู่ตรงหน้าก็เป็นเพื่อนมนุษย์และเป็นคนจีนร่วมชาติ ชาวจีนที่มาทำงานในไทยคนหนึ่ง เผยว่า “ผมมองลึกไปกว่าการมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า เราต้องมองไปถึงโครงสร้างทางสังคมบางประการที่ทำให้คนจีนไม่มีทางเลือก”

“หลายแห่งเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะที่ว่า คนแก่ล้มลงกลางถนน แล้วคนเข้าไปช่วย สุดท้ายคนแก่กลับบอกว่าคนที่มาช่วยเป็นคนทำร้าย เมื่อเกิดเหตุลักษณะ ทำคุณบูชาโทษ โปรดสัตว์ได้บาป เช่นนั้น หนักเข้าคนจีนก็ไม่กล้าจะช่วยใครอีก”

“ถ้าคุณเข้าไปช่วย แล้วเขาบอกว่าคุณเป็นต้นเหตุให้ลูกเขาอาการแย่ขึ้น ทั้ง ๆ ที่บ้านคุณเองก็ไม่ใครมีอันจะกิน ยังมีคนต้องดูแล ไม่ว่าผู้เฒ่า ลูกเมีย คุณจะเสี่ยงช่วยแล้วต้องถูกปรับหรือไม่ก็ติดคุกติดตารางหรือไม่”
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 16 ต.ค. ที่ผ่านมา บิดาและมารดาของเย่ว์เย่ว์ เดินทางไปพบและคุกเข่าก้มลงกราบเท้าของ นางเฉิน เซวี่ยนเม่ย วัย 57 ปี สตรีเก็บขยะผู้เข้าไปช่วยชีวิตเด็กหญิงเย่ว์เย่ว์ (ภาพเอเยนซี)
ฤๅกับดักทุนนิยม กระชากจริยธรรมของชาวจีน

นักวิชาการตะวันตกด้านจีนศึกษาตั้งข้อสังเกตว่า สุดท้าย “หนทางทุนนิยม” ก็ชนะ “หนทางสังคมนิยม” ในจีนเสียแล้ว สิ่งที่เคยเป็นหัวใจของสังคมนิยม หรือ สังคมอุดมคติ อันได้แก่ความเท่าเทียม ไร้ชนชั้น ความเสมอภาค ช่วยเหลือกันและกัน รักประเทศชาติ และดำรงชีพอย่างเป็นสุขนั้น ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนไปแล้ว เมื่อจีนเปิดประเทศให้ทุนหลั่งไหลเข้ามากระแทกกระทั้นหลายพื้นที่ การเปิดประเทศหรือการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดนั้นย่อมสร้างปัญหาตามมานานัปการ

ชาวจีนอีกคนเผยว่า “มิใช่ว่าจะบอกว่าทุนนิยมดีหรือไม่ดี แต่สิ่งที่เป็นผลกระทบนั้นเราก็ต้องหาทางแก้กันต่อไป เช่นปัญหาด้านการจัดการของรัฐบาล ปัญหาการกระจายรายได้ ปัญหาความยากจนอันเป็นผลมาจากการพัฒนาแบบก้าวกระโดด”

แต่.. สิ่งที่รัฐบาลจีนมิได้ทำไปควบคู่กันก็คือ “การฟื้นฟูจริยธรรม”

“ทุกวันนี้สังคมจีนแข่งขันสูง เทคโนโลยีก้าวหน้า อยากมีบ้าน อยากมีรถ อยากมีเงิน สิ่งเหล่านี้ทำให้คนไม่แยแสใคร เพราะไม่มีใครแยแสเราเหมือนกัน ทางเดียวก็คือ ดูแลตัวเองให้ดีที่สุด”

กรณีหนูน้อยเสี่ยว เย่ว์เย่ว์เสียชีวิตอนาถนั้น เหตุเพราะมิใช่คนจีนไม่รู้ว่าการช่วยเหลือคนเป็นสิ่งที่ควรกระทำ แต่ด้วยโครงสร้างสังคมทุนนิยมที่บีบบังคับ

“ผมเชื่อว่าคนที่ยืนดู อยู่ระหว่างทางเลือกที่ขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในจิตใจว่าจะช่วยหรือไม่ช่วย ถ้าช่วย (ตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด) แล้วเขาถูกประณามว่าเป็นต้นเหตุให้เด็กเสียชีวิต เขาต้องโทษอาญาในที่สุด แล้วครอบครัวเขาหรือตัวเขา ซึ่งก็ต้องดิ้นรนอยู่รอดในโลกทุนนิยมเหมือนกัน จะทำอย่างไรได้ ทั้ง ๆ ที่จิตใจของเขาก็เสียใจไม่น้อยทีเดียวที่มิอาจลงมือช่วยเพื่อนร่วมชาติที่ตกทุกข์ได้ยาก”

ชาวจีนไม่เผยนาม ปิดท้ายว่า “วันใดที่โครงสร้างสังคมจีนเปลี่ยนแปลง คนส่วนใหญ่พร้อมใจกันเห็นว่าการช่วยเหลือคนอื่นแล้วเป็นความสุขที่เข้าต้องไม่เดือดร้อน เมื่อนั้นจริยธรรมที่เก็บกดไว้ในก้นบึ้งของหัวใจชาวจีน ก็จะถูกเปิดออกมาใช้อีกครั้ง”

แต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร... เพราะทุกวันนี้จีนมีแต่การพัฒนาด้านวัตถุภายใต้การขยายตัวของทุน ภายใต้รัฐบาลพรรคเดียว “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน”
กำลังโหลดความคิดเห็น