เอเยนซี - เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น 44 คน รวมถึง ระดับรองฯ ผู้ว่าการมณฑล ถูกลงโทษฯ สืบเนื่องจากเหตุการณ์บีบบังคับขับไล่ผู้อยู่อาศัยออกจากพื้นที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย
Legal Daily สื่อจีนรายงาน (10 ก.ย.) อ้างแถลงการณ์ร่วมของกระทรวงตรวจสอบ, กระทรวงที่ดินและทรัพยากรฯ, กระทรวงที่อยู่อาศัยและการพัฒนาเมืองและชนบท กับสำนักงานคณะกรรมาธิการรัฐ ในการสอบสวนการกระทำอันมิชอบของเจ้าหน้าที่ฯ ว่า เจ้าหน้าที่ระดับรองผู้ว่าการประจำมณฑล 1 คน กับ เจ้าหน้าที่ระดับเขตฯ 4 คน ระดับตำบล 18 คน ระดับหมู่บ้าน 21 คน ถูกลงโทษทางวินัย โดยเจ้าหน้าที่ 25 คน ในจำนวน 44 คนนี้ ถูกสอบสวนว่ากระทำผิดกฎหมายอาญากับผู้อยู่อาศัย 6 ราย
ทั้งนี้ การพัฒนาที่ดินนับเป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาลท้องถิ่นหลายๆ แห่ง บ่อยครั้งก็ใช้อำนาจเรียกกรรมสิทธิที่ดิน โดยรื้อถอนที่อยู่อาศัยและไล่ที่ของประชาชนอย่างผิดกฎหมาย ส่งผลให้ประชาชนได้รับความทุกข์ยากเดือดร้อน หลายๆ กรณี ก็เป็นการกระทำอันมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่น เพราะเจรจาจ่ายค่าตอบแทนที่ไม่เป็นธรรม และยังมีปัญหาคอร์รัปชั่น
"การรื้อถอนไล่ที่อย่างผิดกฎหมาย ไม่สามารถกระทำได้ไม่ว่ากรณีใดๆ และเจ้าหน้าที่ระดับผู้นำของรัฐบาลท้องถิ่นเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบ" แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์ กล่าวว่าตามขั้นตอนกฎหมายนั้น หากเกิดความขัดแย้งไม่ยินยอมระหว่างผู้อยู่อาศัยเดิม กับนักพัฒนาที่ดิน ผู้อยู่อาศัยเหล่านั้นสามารถยื่นเรื่องให้ฝ่ายบริหารทบทวน หากกรณีที่ไม่มีการยื่นเรื่องและปฏิเสธที่จะออกจากที่อยู่อาศัย ทางฝ่ายผู้พัฒนาที่ดินจะต้องยื่นคำร้องขออำนาจจากศาลในการกระทำใดๆ ต่อกรรมสิทธิที่ดินก่อน
"การใช้กำลังและอำนาจอื่นใด ในการบังคับผู้อยู่อาศัยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เป็นสิ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาด และหากสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำอันมิชอบฯ จะต้องถูกลงโทษขั้นรุนแรง"
ในแถลงการณ์ ได้เผยกรณีความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากการกระทำอันมิชอบของเจ้าหน้าที่ จนทำให้มีผู้อยู่อาศัยเดิมเสียชีวิต มีอาทิ กรณีของผู้อยู่อาศัยชาวฉางชุนคนหนึ่ง ที่บ้านของเขาโดนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นฯ ทุบทำลาย ที่ผู้อำนวยการเขตจ้าวหยางถูกให้ออก และนายกเทศมนตรีฉางชุนต้องแถลงรับผิดและขอโทษต่อสาธารณะฯ
กรณี ชายชื่อหวัง (นามสมมติ) ชาวเมืองจูโจว มณฑลหูหนัน เผาตัวเองตาย หลังจากศาลประจำเขตออกหมายรื้อถอนทำลายบ้าน โดยรองประธานศาลประจำเขตฯ ถูกทัณฑ์บน
แถลงการณ์ของศาลประชาชนสูงสุด กล่าวเมื่อวันศุกร์ (9 ก.ย.) เรียกร้องให้ศาลท้องถิ่นต่างๆ พิจารณาคดีและคำร้องไล่ที่อย่าง "รอบคอบระมัดระวัง" โดยจะต้องชะลอและยกเลิกคำสั่งทันที หากพิจารณาเห็นว่าการกระทำดังกล่าว นำไปสู่การฆ่าตัวตายหรือความรุนแรงอื่นๆ
ก่อนหน้านี้ ในการประชุมสมัชชาของการจัดตั้งสำนักงานวิจัย ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมส่วนกลางจีน เมื่อวันที่ 6 ก.ย. นายเวิน จยาเป่า (เจียเป่า) นายกรัฐมนตรีจีน กล่าวหาว่าการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ กำลังทำลายวัฒนธรรมของแท้ดั้งเดิมแลกกับความทันสมัย “ปลอมๆ”
นายกฯ เวิน ได้ชี้ว่าการพัฒนาที่ดินและโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านๆ มา ได้ก่อปัญหาข้อพิพาทและทิ้งภาระให้กับสังคม ขณะที่เจ้าหน้าที่ฯ กับนักลงทุนธุรกิจต่างมองหาแต่ผลกำไร จากความเฟื่องฟูของกิจการอสังหาริมทรัพย์ ขับไส ไล่ทวงที่ดินเอาจากประชาชนผู้อยู่อาศัยก่อน โดยไม่จ่ายค่าชดเชยอย่างเป็นธรรม
“ไม่มีใครสนใจปัญหาสิทธิตามกฎหมายของชุมชนผู้อยู่อาศัย ซึ่งถูกอำนาจรัฐกระทำให้ต้องออกจากบ้านเรือนของตน” เป่ยจิง นิวส์ อ้างคำพูดของนายเวิน จยาเป่า
“เรากำลังทำลายของแท้ดั้งเดิม เพื่อสร้างของปลอม การทำลายบ้านเรือนเก่า โดยอ้างว่าทำในนามของการพัฒนา ก่อความทุกข์ให้ผู้คน และสลายวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีน"
ในตอนท้าย นายกฯ เวิน กำชับว่า รัฐบาลจะปกป้องประชาชนและวัฒนธรรมดั้งเดิม รวมทั้งกำจัดเจ้าหน้าที่ฯ ทุจริตคอร์รัปชั่น และนำสู่การปฏิรูปการเมืองฯ
(คลิปวิดีโอฯ นางจวง จิงหุย วัย 77 ปี เปลือยกายคุกเข่าประท้วงขอความเป็นธรรมที่บันไดศาลประชาชน เขตผู่ตง ในเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยแขวนป้ายฯ เรียกร้องขอความเป็นธรรมว่า "โปรดสอบสวนเรื่องของฉันด้วย" ทั้งนี้รายงานข่าวเบื้องต้นพบว่า กรณีของนางจวงนั้น เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ยอมจ่ายเงินชดเชยฯ ตามที่สัญญาและรับปากต่อศาลฯ เมื่อครั้งที่มีการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทฯ)
