xs
xsm
sm
md
lg

มั่นใจลูกค้าจีนกระเป๋าหนัก แบรนด์สินค้าหรูกระหน่ำขึ้นราคา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ไชน่าเดลี - นักสังเกตการณ์ตั้งแต่มหานครนิวยอร์กจนถึงนครเซี่ยงไฮ้ตกตะลึง แบรนด์สินค้าหรูชั้นนำของโลกพากันขึ้นราคาสินค้าบนแดนมังกรอย่างไม่หวั่นว่าจะขายไม่ออก

กระแสการขึ้นราคาเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่มีการคาดการณ์กันอย่างกว้างขวางว่า วิกฤตหนี้สินในยุโรป ที่เผยตัวออกมา และความวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอยรอบสองน่าจะสยบความต้องการซื้อสินค้าราคาแพงอย่างกางเกงยีนส์ยี่ห้อปราด้า ตัวละ 3,600 หยวน หรือกระเป๋าใบละ 9,600 หยวนของกุชชี่ในเมืองจีนได้

แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นไปตามคาด ผู้บริโภคสินค้าหรูในจีนมีจำนวนมากเป็นกองทัพ สวนทางกับผู้บริโภคในญี่ปุ่น สหรัฐฯ และยุโรป ที่กำลังลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือยลง ดังนั้นบรรดาผู้ผลิตสินค้าแบรนด์หรูจึงไม่รู้สึกลำบากใจในการขึ้นราคาสินค้า เพื่อให้ครอบคลุมต้นทุนการผลิต ที่สูงขึ้น และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา

กระเป๋าอะมาโซน่าของโลเอเว่ แบรนด์เสื้อผ้าเครื่องประดับจากกรุงมาดริดของสเปน ราคาพุ่งเหยียบ 22,000 หยวน จาก 18,000 หยวนภายในเวลา 1 สัปดาห์ หรือพุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 20 ส่วนชาแนล ซึ่งเป็นแบรนด์จากฝรั่งเศส รายการสินค้าปรับขึ้นมาตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา เช่น กระเป๋า Maxi flap ราคาเพิ่มจาก 31,500 หยวน เป็น 41,000 หยวน แพงอีกกว่าร้อยละ 30 ขณะที่ฮ่องกงราคาของกระเป๋าแบบเดียวกันนี้เพิ่มขึ้นจาก 31,800 ดอลลาร์ฮ่องกง เป็น43,200 ดอลลาร์ฮ่องกง ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 35

ด้านคาเทียร์ผู้ค้าเครื่องประดับจากกรุงปารีสขึ้นราคาแหวนทองคำLove จาก 6,100 หยวน เป็น 6,800 หยวน เพิ่มขึ้นราวร้อยละ 11

แบรนด์สินค้าหรูระดับบิ๊กเกือบทั้งหมดจากยุโรป รวมทั้งหลุยส์ วิตตอง ดิออร์ เบอร์เบอร์รี่ กรุ๊ป และเซลีน ล้วนขึ้นราคาสินค้าโดยเฉลี่ยร้อยละ 5 - 15 ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้

จากรายงานของสมาคมสินค้าฟุ่มเฟือยของโลก (World Luxury Association - WLA ) เมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า การอ่อนค่าของเงินสกุลยูโรเป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งของการขึ้นราคาเหล่านี้ โดยตั้งแต่ต้นปี 2553-สิ้นเดือนพ.ค. ปีนี้ เงินสกุลยูโรอ่อนค่าลงถึงร้อยละ 20 ต่อหยวน แม้ทำให้สินค้าแบรนด์หรูขายในต่างแดนได้มากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่มูลค่าก็ลดลงอย่างหนัก การขึ้นราคาสินค้าจึงเป็นวิธีการลดการขาดทุนจากการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยน

นอกจากนั้น จากการสัมภาษณ์บริษัทแบรนด์หรูร้อยละ 95 โดยWLA พบว่า บริษัทเหล่านี้มองตลาดในแง่บวก เพราะเชื่อว่า สินค้าราคายิ่งแพงก็ยิ่งบ่งบอกความเป็นพิเศษเฉพาะ ไม่ใช่สินค้าโหล และช่วยให้ยอดขายโต

ผลการวิจัยของWLA ยังพบว่า การขายสินค้าแบรนด์หรูในย่านธุรกิจสำคัญในฝรั่งเศส อิตาลี และอังกฤษในช่วง 12 เดือนตั้งแต่มี.ค.2553-มี.ค.2554 ร้อยละ 65 ของการซื้อเหล่านั้นเป็นฝีมือของนักท่องเที่ยวจากเอเชีย ซึ่งร้อยละ 75 มาจากจีน

นอกจากนั้น นักท่องเที่ยวจากเอเชีย ที่มาเที่ยวยุโรปเมื่อปีที่แล้ว ได้ซื้อสินค้าหรูทั้งสิ้น 69,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง50,000 ล้านดอลลาร์เป็นเงินของลูกค้าแดนมังกร โดยยอดซื้อสินค้าหรูของลูกค้าชาวจีนในปีที่แล้ว ยกเว้นเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว เรือยอชต์ และรถลีมูซีน มีมากถึง 1 ใน 4 ของตลาดโลกเลยทีเดียว
กำลังโหลดความคิดเห็น