เอเจนซี - จีนประกาศสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐซูดานใต้ พร้อมให้คำมั่นจะช่วยเหลือซูดานใต้พัฒนาประเทศอย่างสุดความสามารถ
นายเจียง เหว่ยซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและชุมชนเมือง-ชนบทจีน ได้เข้าร่วมพิธีสถาปนาสาธาณรัฐซูดานใต้และพิธีเปิดสถานฑูตจีนในซูดานใต้ ในฐานะอุปทูตพิเศษของนายหู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีน พร้อมกับได้ลงนามแถลงการณ์ร่วมในการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับนายเติง อลอร์ โคล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศซูดานใต้ ณ จูบา เมืองหลวงของซูดานใต้ เมื่อวันเสาร์(9 ก.ค.)
นายเจียง ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า “ซูดานใต้เป็นประเทศใหม่ที่จำต้องได้รับการพัฒนาในด้านต่างๆอีกมาก โดยจีนจะให้ความช่วยเหลืออย่างสุดความสามารถในทุกๆด้าน พร้อมทั้งจะส่งเสริมความสัมพันธ์ทางการเมืองกับซูดานใต้”
“การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับซูดานใต้อย่างเป็นทางการ นับเป็นก้าวใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ เราหวังว่าซูดานใต้จะสร้างสถานฑูตที่กรุงปักกิ่งอย่างเร็วที่สุดเช่นกัน”
ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเฉลิมฉลองการประกาศอิสรภาพของซูดานใต้ นายเจียงได้เผยว่า “การถือกำเนิดของซูดานใต้ถือเป็นความสำเร็จของกระบวนการสันติภาพที่ยุติสงครามกลางเมืองอันยาวนานในซูดาน และชี้ให้เห็นถึงความสัมฤทธิ์ผลของมติประชาชนซูดานใต้ที่ต้องการอิสรภาพ”
พร้อมกล่าวว่า “ขณะนี้การเจรจาระหว่างประเทศซูดานและซูดานใต้ มีบางประเด็นที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจาเนื่องจากยังตกลงกันไม่ได้ เราเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะแก้ปัญหาด้วยการเจรจาอย่างสันติและอยู่บนพื้นฐานแห่งความเข้าใจกัน เราหวังอย่างยิ่งว่าซูดานใต้และซูดานจะเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันตลอดไป”
ทั้งนี้ รัฐบาลซูดานและกบฏดาร์ฟูร์ทางภาคใต้เผชิญสงครามกลางเมืองหลายสิบปี การสู้รบยุติลงเมื่อทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงสันติภาพเมื่อปี 2548 โดยข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้มีการประชามติในภาคใต้ของซูดานในเดือนม.ค. ผลปรากฏประชาชนร้อยละ 98 ต้องการเป็นอิสรภาพ
แหล่งข่าวสำนักรอยเตอร์ชี้การแบ่งแยกประเทศซูดานครั้งนี้ หมายถึงว่ารัฐบาลซูดานซึ่งครองดินแดนทางภาคเหนือ จะสูญเสียผลผลิตน้ำมัน 3 ใน 4 ส่วน หรือประมาณ ห้าแสนบาร์เรลต่อวัน