เอเยนซี - จีนสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารจากแอร์บัสอีก 80 กว่าลำ ในช่วงที่นายกรัฐมนตรีจีนนาย เวิน จยาเป่าเยือนกรุงเบอร์ลิน ขณะที่การสั่งซื้อนี้ฯ เกิดขึ้นในช่วงที่จีนมีปัญหากับยุโรปเรื่องกฎการค้าสิทธิ์การปล่อยมลพิษ (EU Emissions Trading Scheme หรือ EU ETS) ที่อียูจะนำมาปรับใช้กับอุตสาหกรรมการบิน
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับการเจรจาซื้อขายเครื่องบินแอร์บัสดังกล่าว เผยว่า “หลังจากที่นายกฯ เวิน จยาเป่าเดินทางเยือนเยอรมนี ในวันอังคาร (28 มิ.ย.) บริษัทจีนก็สั่งซื้อเครื่องบินโดยสารรุ่น A320 กว่า 60 ลำ มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ”
เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า แอร์บัสออกมาแถลงวานนี้ (28 มิ.ย.) ว่า “จีนสั่งซื้อเครื่องบินโดยสาร A320 จำนวน 88 ลำ”
ก่อนหน้าการเยือนยุโรปไม่กี่วัน จีนได้ประกาศเลื่อนการซื้อเครื่องบินโดยสาร A380 จำนวน 10 ลำ มูลค่า 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ งานปารีส แอร์ โชว์ ซึ่งเป็นการโต้ตอบสหภาพยุโรปที่จะนำกฎการค้าสิทธิ์การปล่อยมลพิษมาใช้กับอุตสาหกรรมการบิน
กฎการค้าสิทธิ์การปล่อยมลพิษ เป็นเครื่องมือควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยผู้ประกอบอุตสาหกรรมจะได้รับการอนุญาตให้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในปริมาณที่กำหนด หากผู้ประกอบการฯ ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกินกว่าข้อกำหนดที่ได้รับอนุญาต จะต้องขอซื้อสิทธิ์การปล่อยมลพิษจากบริษัทที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่า
สายการบิน IATA มองว่าการออกกฎเช่นนี้ไม่ถูกต้อง ขณะที่สายการบิน Lufthansa ของเยอรมนีก็เห็นว่า หากอียูใช้ระเบียบนี้จริง จีนจะมีมาตรการตอบโต้อย่างแน่นอน
ก่อนหน้านี้จีนเบรกการสั่งซื้อเครื่องบินลำตัวกว้าง (wide-body aircraft) รุ่น A380 เนื่องจากประท้วงกฎการค้าสิทธิ์การปล่อยมลพิษของอียู ทว่าการเยือนในครั้งนี้ฯกลับมีการสั่งซื้อเครื่องบินโดยสารลำตัวแคบ (narrowbody) A320 แทน
แม้ว่าจีนมีแผนแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตเครื่องบินโลกคือ แอร์บัสแห่งฝรั่งเศส และโบอิ้งแห่งสหรัฐฯ โดยจะผลิตเครื่องบินโดยสารลำตัวแคบในครึ่งหลังทศวรรษนี้ แต่จีนก็ยังคงสั่งซื้อเครื่องบิน A320 จากแอร์บัส และโบอิ้ง 737 อีกเป็นจำนวนมาก
สำหรับเครื่องบินลำตัวแคบที่ผลิตโดยจีน จะเป้นเครื่องบินฯขนาด 150-160 ที่นั่ง
แอร์บัสเริ่มทำการประกอบเครื่องบินรุ่น A320 ให้กับจีนในโรงงานเมืองเทียนจินตั้งแต่ปี 2552